สรุป ราคาทองคํา เช้านี้ปรับตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,818 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การฟื้นตัวกลับขึ้นมายืนเหนือ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ของราคาทองคําได้รับ แรงหนุนหลังวันศุกร์ที่ผ่านมากระทรวงแรงงานสหรัฐได้เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคการเกษตรที่เพิ่มขึ้น 49,000 ตําแหน่ง น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 50,000 ตําแหน่ง ซึ่งส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์ลดช่วงบวกลงมาบ้าง แต่อย่างไรก็ตามหากพิจารณาจะเห็นว่า ดัชนีดอลลาร์ยังคงทรงตัวระดับสูงเหนือ 91 จุด จากความหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัว หลังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้อนุมัติร่างงบประมาณในวันศุกร์ (5 ก.พ.) ซึ่งจะเปิดทางให้พรรคเดโมแครตสามารถผลักดัน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนผ่านสภาคองเกรสได้โดยไม่ต้องได้รับการสนับสนุนจากพรรครีพับลิกัน ปัจจัยดังกล่าวหนุนให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อดอลลาร์ สะท้อนจากข้อมูลของ CFTC ที่เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ พบว่า เทรดเดอร์ถือสถานะขายสุทธิดอลลาร์สหรัฐลดลงสู่ ระดับตํ่าสุดในรอบ 7 สัปดาห์ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 ก.พ. สะท้อนคาดการณ์เชิงบวกมากขึ้นในดอลลาร์ ดังนันประเมินว่าการฟื้นตัวของราคาทองคําจะอยู่ในกรอบจํากัด จึงแนะนําติดตามการเคลื่อนไหวของดอลลาร์เพิ่มเติม เพื่อเป็นปัจจัยชี้นําราคาทองคํา ด้านปัจจัยทางเทคนิคประเมินว่า ราคาพยายามแกว่งตัวออกด้านข้าง เพื่อสร้างฐานราคา ระหว่างวันหากราคาทองคําไม่หลุด 1,805 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะมีโอกาสดีดตัวขึ้นต่อ โดยจะมีแนวต้านบริเวณ 1,830-1,851ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดแนวรับแรก กรอบด้านล่างจะอยู่ที่ 1,784 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ระดับตํ่าสุดของเดือนก.พ.) แนะนํากลยุทธ์ เน้นทํากําไรระยะสั้น โดยการเข้าเสี่ยงซื้ออาจใช้ บริเวณ 1,805-1,784 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (หากหลุด 1,784 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ชะลอการเข้าซื้อออกไป) ขณะที่หากราคาดีดตัวขึ้นแนะนําทยอยแบ่งขายทํากําไร ตังแต่ราคา 1,830-1,851 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อรอเข้าซื้อใหม่เมื่อราคาอ่อนตัวลงอีกครั้ง
คำแนะนำ: การเข้าซื้อมีแนวรับบริเวณ 1,805-1,784 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,784 ดอลลาร์ต่อออนซ์) และหากราคาขยับขึ้นควรแบ่งขายทํากําไรบางส่วน หากราคาทองคําไม่ผ่านโซน 1,830-1,851 ดอลลาร์ต่อออนซ์
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International