📈 คุณจะเริ่มลงทุนอย่างจริงจังในปี 2025 ไหม? เริ่มต้นก้าวแรกพร้อมรับส่วนลด 50% สำหรับสมาชิก InvestingProรับส่วนลด

SET ยังไม่ไป แต่ SELECTIVE BUY ยัง OK

เผยแพร่ 31/10/2567 14:26

ภาพใหญ่ของ SET INDEX ยังไม่เห็นแรงขับเคลื่อนที่ชัดเจน ทั้งในมุมของ ปัจจัยแวดล้อมทางพิ้นฐานใหม่ๆ ที่มีน้้าหนัก และ มุมของFUND FLOW ที่ ยังไม่ไหลเข้า แต่อย่างไรก็ตามยังมองเห็นประเด็นที่สามารถเข้าไปลงทุนได้ หลายกลุ่มอุตสาหกรรม อย่างเช่นกลุ่มที่น่าจะได้ประโยชน์จากมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจ DIGITAL WALLET เฟส 2 ได้แก่กลุ่มค้าปลีก+สินค้า อุปโภค-บริโภค, มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว อย่างกลุ่มโรงแรม-การ เดินทาง , แนวนโยบายที่จะขยายอายุสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งก็จะ เป็นประโยชน์ต่อหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ยังอาจมีแรงซื้อ เก็งก้าไรบางส่วนในหุ้นกลุ่มน้้ามัน-โรงกลั่น จากราคาน้้ามันที่ปรับตัว เพิ่มขึ้น ส้าหรับผลประกอบการงวด 3Q67 คาดลดลงทั้ง YOY และ QOQ แต่ก็มีหุ้นที่ท้าก้าไรได้ดีสวนตลาด แม้จะมีตัวเลือกการลงทุนที่หลายกลุ่มอุตสาหกรรม แต่น้้าหนักของกลุ่ม ดังกล่าวยังไม่มากพอที่จะขับเคลื่อน SET INDEX วันนี้คาดกรอบ 1440 – 1455 จุด หุ้น TOP PICK วันนี้เลือก ADVANC, BCP และ GULF

เศรษฐกิจโลกอยู่ในโซนขยายตัว หนุน DEMAND ฟื้นตัว วานนี้ มีรายงาน GDP GROWTH ใน 3Q67 ของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ดังนี้  สหรัฐฯ ขยายตัว +1.5%YOY และ +2.8%QOQ ซึ่งต่้ากว่าตลาดคาดและ ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้า แต่อย่างไรก็ตามภาคการบริโภคในสหรัฐ ยังมีความแข็งแกร่ง และเป็นปัจจัยหลักๆ ที่ช่วยผลัก GDP GROWTH  ยุโรป ขยายตัว +0.9%YOY และ +0.4%QOQ ซึ่งสูงกว่าตลาดคาดไว้ และดู ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า  เยอรมนีหดตัว -0.2%YOY แต่พลิกกลับมาขยายตัว +0.2%QOQ ท้าให้ หลักเลี่ยงภาวะ TECHNICAL RECESSION ไปได้ (GDP ติดลบต่อกัน 2 ไตรมาส) แม้ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ – ยุโรป ใน 3Q67 จะขยายตัวน้อย และลงความร้อนแรง ลง ด้วยผลกระทบของการส่งผ่านนโยบายการเงินเข้มงวดในช่วงที่ผ่านมา แต่อย่างไร ก็ตามไม่น่าน้าไปสู่การเกิด RECESSION เร็วๆ นี้เพิ่มความคาดหวังให้การชะลอตัว ลงของเศรษฐกิจเป็นไปแบบ SOFT LANDING

เศรษฐกิจของประเทศขนาดใหญ่ที่ยังอยู่ในโซนขยายตัว บวกกับความหวังเศรษฐกิจ จีนฟื้นตัว หลังรัฐบาลออกมาตรกระตุ้นชุดใหญ่ไปเมื่อช่วงปลาย ก.ย. ที่ผ่านมา และ อาจมีนโยบายเพิ่มเติมในการประชุม NPC วันที่ 4-8 ก.ย. นี้ ขณะที่ล่าสุดมีสัญญาณ การฟื้นตัวของ PMI ภาคการผลิตจีนเดือน ต.ค. 67 อยู่ที่ 50.1 จุด พลิกกลับมายืน เหนือ 50 จุดได้อีกครั้งในรอบ 5 เดือน ถือเป็นแรงหนุนให้ DEMAND ปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังมีกระแสข่าว OPEC+ อาจเลื่อนการเพิ่มก้าลังการผลิต 1.8 แสน บาร์เรล ออกไป 1เดือนหรือมากกว่า ล้วนเป็นปัจจัยผลักให้ราคาน้้ามันขยับขึ้นในช่วงสั้นๆ ได้ มองเป็น SENTIMENT เชิงบวกต่อหุ้นอิงราคาน้้ามัน อาทิ BCP, PTTEP, PTT (BK:PTT), BSRC

รมว.คลัง หวัง GDP ปี 68 โต 3.5% จากหลายมาตรการของ ภาครัฐฯ 1H67 เศรษฐกิจไทยขยายตัว +1.9%YOY ส่วนระยะถัดไปคาดหวังเศรษฐกิจไทย เติบโตแบบขั้นบันได ตามการสนับสนุนจากการเร่งด้าเนินการงบประมาณและการ ส่งออกสินค้า การท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชน โดย BLOOMBERG คาดการณ์ GDP GROWTH ใน 3Q67 +2.7%YOY, 4Q67 +3.6%YOY โดยตลอดปี 2567 BLOOMBERG คาดการณ์ GDP GROWTH อยู่ที่ +2.5%YOY ซึ่งสอดคล้อง กับ มุมมองของหลายส้านักเศรษฐกิจที่ประมาณการไว้ซึ่งมีค่าเฉลี่ย GDP GROWTH อยู่ที่ +2.6%YOY

ึ่งปัจจัยหนุนมาจากการมีเม็ดเงินที่สามารถน้ามากระตุ้นช่วยเศรษฐกิจได้ทันที จาก เม็ดเงินคงเหลือของงบประมาณปี 2567 + เม็ดเงินใหม่จากการอนุมัติงบประมาณปี 2568 เพื่อทยอยขับเคลื่อน GDP GROWTH ไทยในช่วง 4Q67-2568 ซึ่งล่าสุด รมว. คลัง หวัง GDP ปี 68 โต 3.5% จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลเตรียมไว้อาทิ แจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2, กระตุ้นการท่องเที่ยว ผ่านโครงการใหม่ๆ, หนุนต่างชาติ เช่าที่ดิน 99 ปี, เก็บภาษี GLOBAL MINIMUM TAX 15% และ มาตรการแก้หนี้ ครัวเรือน เป็นต้น ส่วนหุ้นที่น่าทยอยสะสมหลังจากนี้ คือ หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์ทางตรงจากนโยบาย ต่างๆ อาทิ

 กลุ่มเกษตร-อาหาร TU CPF CBG SAPPE SNNP ICHI NSL M

 กลุ่มค้าปลีก CPALL (BK:CPALL) CRC BJC HMPRO COM7

 กลุ่มเช่าซื้อ MTC SAWAD TIDLOR BAM

 กลุ่มอสังหาฯ LH AP SC SPALI

กำไรงวด 3Q67 ของบริษัทจดทะเบียน ชะลอ เดือน ต.ค. เริ่มทีการรายงานก้าไรงวด 3Q67 ของกลุ่มธ.พ. และกลุ่ม REAL SECTOR บางบริษัท พบว่า ออกมาต่้ากว่าที่ดลาดคาดราว -6% ผิดกับตลาดหุ้น สหรัฐที่ออกมาดีกว่าคาด +7%

ส่วนเดือน พ.ย. เข้าสู่ฤดูกาลประกาศก้าไรบริษัทจดทะเบียนงวด 3Q67 โดยเบื้องต้น ข้อมูลการท้า EARING PREVIEW จาก BLOOMBERG CONSENSUS ณ 29 ต.ค. 67 มีการท้า EARNING PREVIEW 132 บริษัท (คิดเป็นสัดส่วน MARKET CAP 75%) พบว่า ก้าไร 3Q67 ลดลง -11%QOQ และลดลง -14.5%YOY เปรียบเทียบได้ กับก้าไร 3Q67 บริเวณ 2.2 –2.3 แสนล้านบาท

ถ้าแบ่งออกเป็นราย SECTOR พบว่า มีกลุ่มหุ้นที่ OUTPERFORM คือ CON, ICT, HELTH, PROP, AGRI ที่คาดว่าก้าไรงวด 3Q67 จะเติบโตทั้ง QOQ และ YOY

นอกจากนี้ฝ่ายวิจัยฯ ยังคัดกรอง 15 หุ้นที่มีโอกาสก้าไรเติบโตทั้ง QOQ และ YOY ในช่วงไตรมาสที่ 3 คือ IVL, CKP, TASCO, AMATA, EGCO, BCH, CK, PR9, SPALI, BH, TU, CBG, BEM, MTC, PLANB เป็นต้น

สรุป ก้าไรบริษัทจดทะเบียน 3Q67 ที่มีเริ่มต่้าคาด และมีแนวโน้มชะลอตัวลง น่าจะเป็น หนึ่งประเด็นส้าคัญที่ SET INDEX ต้องแผชิญในเดือน พ.ย.

มุมมองต่อทิศทางก าไรกลุ่มปิโตรเลียม-ปิโตรเคมีและ เครื่องดื่ม กลุ่มปิโตรเลียม-ปิโตรเคมี : ทิศทางผลการด้าเนินงานกลุ่มปิโตรเลียมและปิโตรเคมีใน งวด 3Q67 ปรับตัวลดลงทั้ง QOQ และ YOY ทั้งในส่วนของผลการด้าเนินงานสุทธิ และ ผลการด้าเนินงานปกติ โดยในส่วนของกลุ่มปิโตรเลียมนั้นได้มีการประกาศงบแล้ว ส้าหรับ PTTEP ซึ่งก้าไรสุทธิ 3Q67 เท่ากับ 1.79 หมื่นล้านบาท ลดลง 25.5%QOQ ใกล้เคียงกับที่ฝ่ายวิจัยคาดไว้ กดดันหลักจากก้าไรปกติที่ลดลง 25.8%QOQ มาอยู่ที่ 1.82 หมื่นล้านบาท จากปริมาณขายลด และต้นทุนที่เพิ่ม ส้าหรับในส่วนของกลุ่มโรง กลั่นนั้น ภาพรวมแนวโน้มผลการด้าเนินงานสุทธิของทุกบริษัทในกลุ่มจะเผชิญกับผล ขาดทุนในงวด 3Q67 ทั้ง TOP, PTTGC, IRPC, BCP, SPRC ถูกกดดันหลักจาก รายการพิเศษบันทึกกลับเป็นขาดทุนสต๊อกน้้ามันรวม NRV รวมถึงบางบริษัทมีการ บันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษอื่นๆ เช่น PTTGC มีการตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ VENCOREX และ PTT ASAHI รวม 2.0 หมื่นล้านบาท ยิ่งเป็นแรงกดดดัน อีกทั้งผลการด้าเนินงานปกติ ของกลุ่มโรงกลั่นคาดจะปรับตัวลดลง QOQ จากค่าการกลั่นที่อ่อนตัวลงเล็กน้อย QOQ และหากเป็นบริษัทที่มีทั้งธุรกิจโรงกลั่นและธุรกิจปิโตรเคมี ในงวด 3Q67 คาดจะ ได้รับผลกระทบจากผลการด้าเนินงานของปิโตรเคมีที่ยังไม่สดใสทั้งสายอะโรเมติกส์ และโอเลฟินส์ ตาม SPREAD ที่ยังอยู่ในระดับต่้า จากความต้องการใช้ที่ยังไม่ฟื้นตัว

โดยฉพาะจากผู้บริโภคหลักของภูมิภาคเช่นจีน ขณะที่ SPREAD กลุ่ม PET ของ IVL เห็นการขยับตัวขึ้นบ้างแต่ถือว่ายังน้อยมาก อย่างไรก็ตาม OUTLOOK ในงวด 4Q67 คาดผลการด้าเนินงานปกติของกลุ่ม ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีจะเห็นการฟื้นตัว QOQ จากด้วยความหวังจากช่วงฤดูกาล ปลายปี เทศกาลคริสมาสต์ปีใหม่ ที่จะส่งผลให้ความต้องการใช้น้้ามันส้าเร็จรูปกลุ่ม MIDDLE DISTILLATE ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะเป็นบวกต่อค่าการกลั่น ส่วนทิศทางราคา น้้ามันหากอ้างอิงราคาในปัจจุบันพบว่าราคาน้้ามันดิบดูไบยังแกว่งตัวในกรอบ 75-80 เหรียญฯต่อบาร์เรล คาดช่วงฤดูกาลจะมาช่วยหนุนราคาน้้ามันให้ประคองตัวได้ ขณะที่ SPREAD ปิโตรเคมี น่าจะยังไม่เห็นการฟื้นตัวมากนักตามเศรษฐกิจที่ยังอยู่ในภาวะ ชะลอตัว ประกอบกับในสถานการณ์ปกติไตรมาส 4 จะเป็น LOW SEASON ของ ธุรกิจปิโตรเคมี กลุ่มเครื่องดื่ม : ฝ่ายวิจัยคาดภาพรวมก้าไรปกติงวด 3Q67ของหุ้นกลุ่มเครื่องดื่มที่ ฝ่ายวิจัยศึกษาจะลดลง 14%QOQ จากผลเชิงลบของฤดูกาล แต่ยังเติบโตได้ดี 10%YOY โดยหุ้นที่คาดมีก้าไรปกติสูงขึ้นทั้ง QOQ และYOY คือ CBG และICHI ซึ่ง ตรงกันข้ามกับ OSP และSNNP ที่คาดก้าไรปกติลดลงทั้ง QOQ และYOY หาก พิจารณาหุ้นที่ก้าไรโดดเด่นมากที่สุดในกลุ่ม คือ CBG โดยคาดมีก้าไรปกติเติบโต เด่นทั้ง QOQ และ YOY จากคาดยอดขายเติบโตเพราะได้แรงหนุนจากการจัด โปรโมชั่น 2 ขวด 18 บาท หนุนส่วนแบ่งทางการตลาดเชิงปริมาณท้าจุดสูงสุดที่ 24.6% ส้าหรับหุ้นที่คาดก้าไรปกติแย่สุดในกลุ่มคือ OSP โดยคาดถูกฉุดจาก ยอดขายที่ลดลงเนื่องด้วยพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือประสบปัญหา น้้าท่วมส่งผลให้ยอดขายในร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม(60%ของช่องทางการจ้าหน่าย) ลดลงไปด้วย แม้ทิศทางก้าไรปกติของกลุ่มช่วง 3Q67จะท้าจุดต่้าสุดของปี แต่คาดหวังก้าไรปกติใน 4Q67 ฟื้นตัวได้ดี QOQ และโตต่อ YOY เพราะไม่มีปัจจัยลบจากฤดูกาล อีกทั้ง คาดหวังก้าลังซื้อดีขึ้นจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ของภาครัฐที่เริ่มใช้ ในช่วงปลายเดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมา เราเลือก CBG เป็นหุ้น TOP PICK ของ กลุ่มเพราะคาดก้าไรปกติช่วง 3Q67 เติบโตเด่นสุดทั้ง QOQ และYOY อีกทั้งยังมี แนวโน้มสดใสต่อเนื่องไปใน 4Q67

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย