แรงซื้อของนักลงทุนสถาบันในประเทศยังคงปะทะกับแรงขายของนักลงทุนต่างชาติต่อไป

Oil / Stimulus

• SET: แรงซื้อของนักลงทุนสถาบันในประเทศยังคงปะทะกับแรงขายของนักลงทุนต่างชาติต่อไป ซึ่งเรายังคงคาดเช่นเดิมว่ากระบวนการนี้จะยัง ค่าเนินต่อไปอีกสักระยะ (1 เดือน) จากเม็ดเงินของกองทุนวายุภักษ์ที่มี ขนาดใหญ่ และการเคลื่อนย้ายของ Fund flow เข้าสู่ประเทศจีนและญี่ปุ่น รอบใหม่ ที่มีขนาดใหญ่เช่นกัน ในเชิงกลยุทธ์ คงค่าแนะนําา Selective ไป ยังกลุ่ม Domestic play ที่มี Valuation ต่าต่อไป ได้แก่ AP, COM7, HMPRO, ERW, ICHI, SAWAD, AEONTS, KTC, DIF, CPNREIT

• Factors: ส่วนในวันนี้ประเมินกลุ่มหุ้น Oil & Gas มีโอกาสช่วยประคอง ดัชนี SET ได้บ้าง จากการรีบาวด์ต่อเนื่องของราคาน่ามันดิบ หลังนักลงทุน กังวลต่อประเด็นความเสี่ยง Geopolitical risk ที่ปะทุขึ้นมาในตะวันออก กลางอีกครั้ง ส่วนปัจจัยที่น่าติดตาม คงหนีไม่พ้นตัวเลขตลาดแรงงาน สหรัฐฯเดือนกันยายนที่จะออกมาในคืนนี้ ล่าสุดตลาดคาดการณ์การจ้าง งานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 1.5 แสนตาแหน่ง และอัตราการว่างงานที่ ระดับ 4.2% หากตัวเลขจริงออกมา กว่าคาดเหมือนกับตัวเลข ADP ก่อน หน้านี้ มีโอกาสที่นักลงทุนจะ Price out ความน่าจะเป็นของการลด ดอกเบี้ย 50bps ในการประชุม Fed เดือนพ.ย.มากขึ้น ซึ่งนั่นหมายความว่า เงิน USD และ Bond yield สหรัฐฯ มีโอกาสที่จะอยู่ในโหมดของการรีบาวด์

• Stimulus: นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า ในช่วงปลายปีนี้ รัฐบาลได้เตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไว้แล้ว โดยจะเป็นรูปแบบของ มาตรการภาษีและการกระตุ้นใช้จ่าย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียด ต่อไป ได้

• Our take: เป็นไปตามที่เราประเมินไว้ก่อนหน้านี้ว่ารัฐบาลคงจะมีการออก มาตรการกระตุ้นการบริโภครอบใหม่ในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าอย่าง แน่นอน ซึ่งรูปแบบคงคล้ายเดิมกับมาตรการ Easy E-receipt ที่เคยเกิดขึ้น ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นมาตรการจูงใจให้ผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยเพื่อ น่าวงเงินดังกล่าวไปลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา มองนโยบายดังกล่าวจะ เกื้อหนุนกับประชาชนในกลุ่มที่มีฐานะปานกลางขึ้นไปที่อยู่ในระดับภาษี และจะเป็นบวกต่อกลุ่มค้าปลีกของไทยที่เตรียมกําลังจะเข้าสู่ช่วง High season ในช่วงปลายปีเช่นกัน

• Picks: มอง COM7 และ HMPRO เป็น 2 กระตุ้นการบริโภคที่กาลังจะออกมา โดยมีเหตุผลดังนี้ ตัวเลือกูเด่นจากธีมมาตรการ

1) เป็นสินค้าที่มีค่าใช้จ่ายต่อบิลสูง (Big ticket) ซึ่งมักเป็นหมวดที่มีความ ยืดหยุ่นต่อรายได้และราคาสูงตามไปด้วย

2) Valuation ปัจจุบันยังคงซื้อขายด้วย PE ต่ํากว่าค่าเฉลี่ยทั้งคู่ (รูปที่ 1 และ 2)

3) COM7 เป็นหุ้นที่เราคาดว่าจะถูกคัดเลือกเข้าสู่ดัชนี SET50 ในรอบ ถัดไปแน่นอนแล้ว ส่วน HMPRO มองเป็นหุ้นปันผลสูงเกิน 3% ที่มี กระแสเงินสดมั่นคง

บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities