Relatively strong
• Strong: คาดการณ์ SET Index เปิดตลาดสัปดาห์นี้อ่อนตัวลง จากปัจจัยความกังวลเศรษฐกิจโลกหดตัว/ถดถอยที่มีสูงขึ้นหลัง ตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯเมื่อคืน นศุกร์ออกมาแย่กว่าคาด (รายละเอียด ด้านล่าง) แต่การปรับตัวลงนั้น คงจะไม่ได้รุนแรงเท่ากับตลาดอื่น จากความคาดหวังเชิงบวกที่ยังคงมีบทบาทในตลาดหุ้นไทยอยู่ ไม่ว่าจะ เป็นจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐฯ ที่เตรียมจะมีการแถลงกันใน หรือมาตรการส่งเสริมสภาพคล่องในตลาดทุนอย่างเช่นกองทุน สัปดาห์นี้ วายุภักษ์ก็ตาม
• Strategy:ในเชิงกลยุทธ์เรามองว่ายังคงเป็นสิ่งจําเป็นที่จะต้องกระจาย เงินลงทุนเข้าสู่กลุ่มหุ้นปลอดภัยมากขึ้น ในสภาวะที่เศรษฐกิจโลกมีความ เสี่ยงด้านต่ามากขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วประเทศไทยของเรา คงหลีกหนีผลกระทบไม่พ้น ในฐานะที่บ้านเรายังคงพึ่งพิงการส่งออกและ การท่องเที่ยวในระดับสูง แนะนําาโฟกัสกลุ่ม Utilities (EGCO, RATCH, GULF, BGRIM, GPSC) และกลุ่ม Healthcare (BH, BDMS, BCH, CHG) ต่อไป
• Momentum: อย่างไรก็ดี ด้วยโมเมนตัมของตลาดหุ้นไทยที่ยังคง ร้อนแรงมากจากความคาดหวังเชิงบวกของปัจจัยในประเทศ จึงเป็นสิ่งที อาจเข้าใจได้ว่า Leg ของการ Rally ของหุ้นขนาดใหญ่อาจจะยังพอเป็นไป ได้ต่อในระยะสั้น โดยเฉพาะกลุ่ม Domestic play ด้วยเหตุนี้ เราจึง พยายามคัดหุ้นกลุ่มนี้ที่ยังคงดูปลอดภัย เผื่อเป็นทางเลือกสําหรับนักลงทุน ที่ต้องการจะลงทุนระยะสั้นอิงไปกับ Momentum ของหุ้นไทย ณ เวลานี้ ซึ่งหากใช้ Criteria การคัดเลือกที่กล่าวไปเมื่อวันศุกร์ จะได้ว่าหุ้นกลุ่ม Domestic ที่ยังคงเข้าเกณฑ์จะได้แก่ HMPRO, DIF, OSP, EGCO, SIRI, AP, JMT, JMART, ICHI
• Factors: สําหรับปัจจัยที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
1) การแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภาในวันที่ 12-13 ก.ย. ซึ่งมีแนวนโยบายเร่งด่วนที่สําคัญอย่างเช่น การปรับโครงสร้างหนี้ทั้ง ระบบ มาตรการลดราคาพลังงานและสาธารณูปโภค น่าเศรษฐกิจนอก ระบบภาษีและเศรษฐกิจใต้ดินเข้าสู่ระบบภาษี การผลักดันโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ตโดยให้ความสําคัญกับกลุ่มเปราะบางเป็นล่าดับแรก Entertainment Complex -> เราประเมินเช่นเดิมว่าการแถลงนโยบาย ดังกล่าวอาจเป็นข่าวดีทางการเมืองสุดท้ายในระยะสั้นนี้
2) รายงานตัวเลขส่งออก-น่าเข้าของจีนเดือนส.ค.ในวันที่ 10 ก.ย. ล่าสุด ตลาดคาดการณ์ขยายตัวที่ 6.6% YoY และ 2.6% YoY ตามลําดับ
3) การดีเบตระหว่างผู้ท้าชิงปธน.นายโดนัลด์ ทรัมป์ กับนางกมลา แฮร์ริส ในวันที่ 10 ก.ย.
4) รายงานตัวเลข CPI ของสหรัฐฯประจําเดือนส.ค.ในวันที่ 11 ก.ย. ล่าสุดตลาดคาดการณ์ Headline CPI ขยายตัว 2.6% YoY และ 0.2% MoM ส่วน Core CPI คาดขยายตัว 3.2% YoY และ 0.2% MoM
5) รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยเดือนส.ค. ในวันที่ 12 ก.ย. ซึ่งคาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นได้เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ภายหลังมีความ ชัดเจนทางด้านการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในช่วงเดือนดังกล่าว --> หาก เกิดขึ้นจริง มองเป็น Sentiment เชิงบวกที่รออยู่สําหรับกลุ่มค้าปลีก
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities