รอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ - ตลาดหุ้น

การจัดตั้ง ครม. คืบหน้าโดยปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบ คุณสมบัติของบุคคลที่พรรคร่วมฯ เสนอรายชื่อเข้ามาเป็นรัฐมนตรี ซึ่ง ประเมินว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นก็จะนำรายชื่อชึ้น ทูลเกล้าฯ และดำเนินกระบวนการต่อไปจนถึงการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เรายังเชื่อว่ารัฐบาลใหม่จะเข้าปฎิบัติหน้าที่ประมาณสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน ก.ย.67 และหลังจากนั้นคาดว่าจะเห็นการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่เป็นรูปธรรมออกมา ซึ่งควรเป็นก่อนสิ้นปีงบประมาณ 30 ก.ย.67 ทั้งนี้ มาตรการใหญ่ที่ออกมาน่าจะเป็นการเดินหน้าบางส่วนของแผน DIGITAL WALLETเบื้องต้นเน้นไปที่กลุ่มเปราะบาง โดยอัดฉีดเม็ดเงินราว 1.4 แสน ล้านบาท ส่วนมาตรการเกี่ยวกับตลาดทุนเป็นไปได้ที่จะเดินหน้ากองทุน วายุภักษ์ ในบทบาทการทำTRESURY STOCK ของประเทศ MOMENTUM ในการขับเคลื่อน SET INDEX เบาลง ประเมินติดแนวต้าน ที่บริเวณ 1345 –1350 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1330 จุด โดยรอปัจจัยบวก รอบใหม่หนุน หุ้น TOP PICK เลือก BEM, CPAXT และ PLANB

ตลาดหุ้นโลก ย่อตัวรอถ้อยแถลงปธน. FED ที่ JACSON HOLE วานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐ ปรับตัวลดลง -0.43% ถึง -1.67%

หลัง สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (INITIAL JOBLESS CLAIMS) เพิ่มขึ้น 4,000 ราย สู่ระดับ 232,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว รวมถึงดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น ปรับตัวลงสู่ระดับ 48.0 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน จาก ระดับ 49.6 ในเดือน ก.ค. และดัชนี PMI ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการ ผลิตยังคงอยู่ในภาวะหดตัว

ส่วนวันนี้ตลาดหุ้นโลกมีโอกาสผันผวนต่อ เนื่องจากนักลงทุนรอการกล่าวสุนทรพจน์ ของนายเจอโรม พาวเวล ในงานประชุมที่เมือง JACKSON HOLE 21.00 น.ตามเวลา ไทย เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ FED ในปีนี้ ซึ่งล่าสุดทาง FED WATCH TOOL คาดว่า ช่วงที่เหลือของปี FED มีโอกาสลดดอกเบี้ยลงจาก 5.5% เหลือ 4.5%

งาน VISION FOR THAILAND 2024 มีอะไรน่าสนใจบ้าง? วานนี้การแสดงวิสัยทัศน์ของนายทักษิณ ชินวัตร ใน งาน DINNER TALK : VISION FOR THAILAND 2024 กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยมีปัญหาและมีโอกาสที่ GDP จะตกต่ำ ลง แม้ว่าอาจจะไม่ได้ลงไปลึกมาก แต่ก็จำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโต และ แก้ไข ปัญหาในหลายด้านที่ยังมีอยู่ เพื่อที่จะสู้กับประเทศรอบนอกให้ได้ โดยนายทักษิณ ชิน วัตร กล่าวปัญหาที่ควรแก้ และสิ่งที่ควรทำไว้ทั้งหมด 18 ข้อ ซึ่งฝ่ายวิจัยฯ สรุป สาระสำคัญที่เกี่ยวกับตลาดทุนโดยตรงไว้ 3 ข้อหลัก ดังนี้

1) การศึกษาแผนการขยายกองทุนวายุภักษ์ เพื่อใช้เป็น TREASURY STOCK สำหรับหุ้นใน SET50-SET100 และควรมี ESG RATING ส่วนหุ้นที่คาดได้ ประโยชน์ คือ KBANK (BK:KBANK) BBL AOT (BK:AOT) SCB PTT (BK:PTT) BCP TTB ADVANC SCC BDMS

2) การเพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยการขยายความจุสนามบินสุวรรณ ภูมิและการสร้าง ENTERTAINMENT COMPLEX ครบวงจร คาดเม็ดลงทุนราว 1 แสนล้านบาท ส่วนหุ้นที่คาดได้ประโยชน์ คือ AWC CENTEL MINT ERW CPN AOT

3) การปรับเปลี่ยนนโยบาย DIGITAL WALLET โดยเสนอปรับ แจกเงินสดแก่กลุ่ม เปราะบาง-ผู้พิการก่อน 1 หมื่นบาท/ราย ด้วยงบกลางและงบฯ ปี67 รวมแล้ว ประมาณ 1.45 แสนลบ.(ภายใน ก.ย.67) หลังจากนั้นใช้งบฯ ปี68 แจกเงิน DIGITAL แก่ผู้ลงทะเบียน 30 ล้านคนไม่ซ้ำกับกลุ่มแรก และต่อยอดระบบเพื่อ โครงการในอนาคต ส่วนหุ้นที่คาดได้ประโยชน์ คือ MTC BAM TIDLOR TU TFG GFPT CPALL (BK:CPALL) CPAXT BJC

ส่วนประเด็นอื่นๆที่น่าสนใจ อาทิ การปรับโครงสร้างหนี้ ผ่านการประสานงานระหว่าง ผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น คลัง, ธปท. และ ธพ., การประสานนโยบายเศรษฐกิจระหว่างรัฐบาล และคลังให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน, นโยบายขายที่ดินต่างชาติในรูปแบบการเช่า 99 ปี, รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย,การลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ เช่น ระบบแก้น้ำ ท่วม-แล้ง และ รถไฟความเร็วสูง เป็นต้น

สรุป สาระสำคัญของงาน VISION FOR THAILAND 2024 น่าจะเป็นแนวทางให้รัฐบาล ชุดปัจจุบันดำเนินตามได้ไม่ยาก และหนุนให้เศรษฐกิจยังเติบโตได้ดังที่หวังไว้ ขณะที่ โครงการ DIGITAL WALLET มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่มีโอกาสเกิดขึ้นจริงมาก ขึ้น ส่วนหุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์ คือ หุ้นกลุ่มเช่าซื้อ เกษตร-อาหาร และค้าปลีก อาทิ MTC BAM TIDLOR TU TFG GFPT CPALL CPAXT BJC เป็นต้น

เข้าสู่หน้าฝนเต็มรูปแบบ บวกต่อ CKP, BCH, TASCO, STA ในช่วงนี้ฝนตกหนักมาก ส่วนหนึ่งเข้าสู่ช่วงฤดูกาล และรับสภาวะลานีญา กดดันให้ฝน มีโอกาสตกหนักเป็นพิเศษในปีนี้ ล่าสุดทางสทนช.ประกาศ 35 จว.เฝ้าระวังน้ำท่วม ฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก หนุนให้ปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่เริ่มสูงเกินระดับ 50%

หากดูข้อมูลสถานการณ์ฝน (ภาคกลาง) จากทางศูนย์ภูมิอากาศ พบว่า แม้ฝนในปี 2567 นี้จะตกหนักกว่าปี 2566 แต่ก็ยังตกน้อยกว่าปี 2554 ที่น้ำท่วมใหญ่อยู่มาก แสดงว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมใหญ่กดดันให้เศรษฐกิจชะลอ ตัวยังมีไม่มาก

สรุป ฝนตกหนักในช่วงนี้ และตกหนักกว่าปีที่แล้ว ตอบรับเหตุการณ์ลานีญา แต่ยังน้อย กว่าปี 2554 ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่อยู่พอสมควร ทำให้ความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ยัง น้อยอยู่ แม้อาจกดดันภาพรวมการจับจ่ายใช้สอยอยู่บ้าง แต่ก็ยังมีหุ้นได้ SENTIMENT เชิงบวกอยู่ คือ หุ้นพลังงานน้ำ CKP, หุ้นโรงพยาบาลยารักษาโรค BDMS BCH MEGA, หุ้นเกษตร STA, หุ้นขายวัสดุซ่อมสร้าง TASCO, GLOBAL, DOHOME, HMPRO, TOA

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities