ทิศทางราคาทองคํา
ราคาทองคําพุ่งขึ้นต่อเนื่องอีกประมาณ 1% จากระดับ 2,440 เหรียญ มาทํา All Time High อยู่ที่ระดับ 2,480 เหรียญในเช้านี้ โดยมีจุดสูงสุดเดิมที่ระดับ 2,435 เหรียญ ท่ามกลางตลาดต่างคาดการณ์ว่าเฟดน่าจะปรับลดดอกเบี้ยเร็วขึ้นจากการส่งสัญญาณ ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งผลให้ราคาทองคําดีดตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ภายใน 10 วันจากระดับ 2,380 เหรียญ มาอยู่ที่ 2,480 เหรียญ หรือ ขึ้นมาประมาณ 100 เหรียญ ขณะที่กองทุนทองคํา SPDR เมื่อวานนี้ซื้อเข้า 5.49 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 842.02 ตัน ด้านดัชนีดอลลาร์เมื่อวานนี้เปิดที่ระดับ 104.25 จุด และปิดที่ระดับ 104.24 จุด ขณะที่ เช้านี้ยังทรงตัวอยู่ที่ระดับ 104.23 จุด ขณะที่ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าลงจนหลุดระดับ 36 บาทต่อดอลลาร์ลงมา โดยเมื่อวานนี้เปิดที่ระดับ 36.19 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เช้านี้แข็งค่า ลงมาที่ระดับ 35.98 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ราคาทองไทยเริ่มปรับตัวขึ้นมาใกล้เคียงหรือ ทดสอบกับจุดสูงสุดเดิมแถวบริเวณ 42,100 บาทต่อบาททองคํา
วิเคราะห์ราคาทองคําทางเทคนิค
ราคาทองคําเบรคทะลุแนวต้านหลักที่ระดับ 2,435 เหรียญขึ้นมาได้อย่างมั่นคง และทําจุดสูงสุดใหม่ ที่ระดับ 2,480 เหรียญ โดยปรับขึ้นมาประมาณ 50 เหรียญภายในสองวัน รวมถึงกองทุนทองคํา SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 5.49 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 842.02 ตัน ทําให้ภาพหลักของราคาทองคํา ทางเทคนิคเป็นลักษณะ W shave และ Break out ที่ Short ได้อย่างง่าย โดยมีราคาเป้าหมายที่ ระดับ 2,500 เหรียญในระยะสั้น จึงแนะนําให้นักลงทุนควรมองราคาทองคําในระยะสั้นๆ มากกว่า มองในระยะไกลไปที่ระดับ 2,800 เหรียญ ขณะที่ด้านราคาทองไทยเริ่มเข้ามาทดสอบจุดสูงสุดเดิม แม้ว่าเฟดจะยังไม่เริ่มลดดอกเบี้ยก็ตาม สําหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคําตลาดโลกจะมีกรอบแนวรับ ที่ระดับ 2,450 เหรียญ และ 2,500 เหรียญ
บทวิเคราะห์ข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯเท่านั้น และเป็นการวิเคราะห์โดยยึดหลักตาม Technical Analysis ทั้งนี้ บริษัทฯไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น นักลงทุนทุกท่านโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นโดย สถาบันการลงทุนทองคำ แม่ทองสุก MTS สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 0 2770 7788 หรือทางเว็บไซต์ mtsgold.co.th