- TSMC ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปชั้นนำของโลก หนุนยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Apple แต่มียอดขายที่เติบโตเร็วกว่าเดิม
- ความต้องการด้าน AI ทำให้ยอดขาย TSMC พุ่งสูงขึ้นถึง 40% และนักวิเคราะห์ก็มั่นใจด้วยราคาเป้าหมายที่พุ่งสูงขึ้น
- ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ของสหรัฐฯ และสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งทำให้ TSMC เติบโตอย่างต่อเนื่อง
- ปลดล็อกพลังของ AI ช่วยให้คุณลงทุนอย่างมั่นใจ: รับส่วนลดโปรโมชั่น Summer Sale ได้แล้วตอนนี้!
Taiwan Semiconductor Manufacturing (NYSE:TSM) ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลก กำลังมาแรงแบบเงียบ ๆ ผลิตชิปให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ใน Wall Street อย่าง Apple (NASDAQ:AAPL) และ Nvidia (NASDAQ:NVDA) แม้ว่ามูลค่าตลาดจะต่ำกว่าเมื่อเทียบกับบริษัทอื่น แต่ TSMC ก็มียอดขายที่พุ่งสูงขึ้นและแผนการเติบโตที่ทะเยอทะยาน
เมื่อต้นปีนี้ Berkshire Hathaway(NYSE:BRKb) กองทุนระดับตำนานของวอเรน บัฟเฟตต์ขายหุ้น TSM จำนวน 5 พันล้านดอลลาร์ของเขาในบริษัท โดยอ้างว่าความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์จะทำให้การเดิมพันในอนาคตเป็นไปได้ยาก อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปและบริษัทยักษ์ใหญ่ในไต้หวันยังคงเดินธุรกิจต่อไปอย่างไม่สะทกสะท้าน นักลงทุนเริ่มสงสัยว่าบัฟเฟตต์คิดผิดหรือไม่
มาดูสถานการณ์ปัจจุบันของ TSM ด้วย InvestingPro เพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติมกัน
ยอดขายพุ่งหลังความต้องการ AI มาแรง
เมื่อเร็ว ๆ นี้ TSMC เล็งว่าจะมีมูลค่าทะลุล้านล้านดอลลาร์ และตัวเลขยอดขายล่าสุดยืนยันว่านี่ไม่ใช่ความเพ้อฝัน ยอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 ซึ่งเกินความคาดหมายของนักวิเคราะห์ว่าจะเพิ่มขึ้น 35.5% การเติบโตนี้ได้รับแรงหนุนจากภาคส่วนปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เฟื่องฟู ซึ่งบริษัทใหญ่ ๆ ต่างแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาด
นักวิเคราะห์เผยแนวโน้มกระทิงสำหรับ TSMC
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าหุ้นจะพุ่งสูงขึ้น โดยปรับอันดับเครดิตขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน TSMC ได้รับคำแนะนำ "ซื้อ" และราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้น Goldman Sachs เริ่มต้นการรายงานข่าวด้วย "conviction buy"
อย่างไรก็ตาม ฉันทามติของนักวิเคราะห์ในปัจจุบันยังคงมีแง่ดีมากขึ้น โดยราคาเป้าหมายเฉลี่ยอยู่ที่ 190.13 ดอลลาร์ ซึ่งบ่งบอกถึงศักยภาพของอัพไซด์จากราคาซื้อขายปัจจุบันของ TSMC
ที่มา: InvestingPro
ในทางเทคนิค หุ้นมีการปรับตัวขึ้นไม่หยุดนับตั้งแต่ทะลุแนวต้านที่ 100 ดอลลาร์
พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของ TSMC กับรัฐบาลสหรัฐฯ เสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน
พันธมิตรหลักของ TSMC คือรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งได้ร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ยักษ์ใหญ่ของไต้หวัน ท่ามกลางการต่อสู้ทางการค้ากับจีน บทบาทสำคัญนี้ทำให้ TSMC ได้รับการปฏิบัติแบบพิเศษจากสหรัฐอเมริกา
ในเดือนเมษายน ประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศว่า TSMC จะมีสิทธิ์ได้รับเงินทุนโดยตรงจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกามูลค่าสูงถึง 6.6 พันล้านดอลลาร์ภายใต้พระราชบัญญัติชิปและวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการวิจัยในประเทศและการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ด้วยเงินทุนเหล่านี้ TSMC จะสร้างโรงงานแห่งที่สามที่โรงงานในสหรัฐฯ ในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา ซึ่งจะทำให้การลงทุนทั้งหมดในศูนย์อุตสาหกรรมมีมูลค่ามากกว่า 65 พันล้านดอลลาร์
ระหว่างสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ การลงทุนเชิงกลยุทธ์ และความต้องการเทคโนโลยี AI ที่เพิ่มสูงขึ้น TSMC กำลังเสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน จากข้อมูลของ InvestingPro TSMC มีประสิทธิภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งมาก โดยได้รับคะแนน 4 จาก 5 คะแนน
ที่มา: InvestingPro
ด้วยสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง TSMC จึงตอบแทนผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่องด้วยการซื้อหุ้นคืน นโยบายการจ่ายเงินปันผลที่เชื่อถือได้นี้เน้นย้ำถึงความมั่นคงทางการเงินของบริษัท
ที่มา: InvestingPro
แผนการเติบโตในอนาคต
เมื่อมองไปข้างหน้า TSMC ยังไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัวลง บริษัทตั้งเป้าที่จะบรรลุอัตราการเติบโตของรายได้ต่อปี (CAGR) ที่ 15-20% อัตรากำไรขั้นต้น 53% หรือสูงกว่า และผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ที่ 25% หรือสูงกว่า
TSMC จะเปิดเผยงบการเงินโดยรวมครึ่งปีแรกในวันที่ 18 กรกฎาคม ในระหว่างนี้ ยอดขายที่เพิ่มขึ้น 40% ถือเป็นตัวบ่งชี้เชิงบวก ซึ่งบ่งชี้ว่า TSMC สามารถรับมือกับยอดขายสมาร์ทโฟนที่ลดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ภาคสมาร์ทโฟนแสดงสัญญาณการฟื้นตัว TSMC ก็จะได้รับแรงหนุนเพื่อก้าวไปสู่บริษัทที่มีมูลค่าหลักล้านล้านดอลลาร์ได้
***
ฤดูร้อนนี้ รับส่วนลดพิเศษ Summer Sale รวมถึงแผนรายปีในราคาต่ำกว่า 300 บาทต่อเดือน!
สมัครใช้งาน investingPro ใช้งานเครื่องมือสุดล้ำ นำหน้าคนอื่นในตลาดหนึ่งก้าว ด้วยเทคโนโลยี AI เครื่องมือดูมูลค่ายุติธรรม สุขภาพทางการเงินของบริษัท และอื่น ๆ อีกมากมาย
ห้ามพลาด โปรโมชั่นมีเวลาจำกัด!
สมัครใช้งาน InvestingPro วันนี้ ลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่างมั่นใจด้วยข้อมูลเชิงลึกl
Disclaimer:บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ถือเป็นการชักชวน ข้อเสนอ คำแนะนำ ที่ปรึกษา หรือคำแนะนำในการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน