ขณะนี้ตลาดกำลังเริ่มรู้สึกต่อความเสี่ยงและกำลังสับสนเป็นอย่างมากจากตลาดพันธบัตร

สรุปภาพรวมเอเชีย : ตลาดหุ้นญี่ปุ่นพุ่งขึ้นหนุนตลาดเอเชีย เช่นเดียวกับ Bond Yield ญี่ปุ่น

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นพุ่งขึ้นตั้งแต่ในช่วงของการเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยภาคธนาคารได้รับประโยชน์จากการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จะปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นใกล้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ธนาคารและบริษัทประกันภัยในญี่ปุ่นมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้ดัชนี Topix ปรับตัวสูงขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีในประเทศยังอยู่ที่ระดับมากกว่า 1% จากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

ดัชนี MSCI Asia Pacific ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม โดยได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นบริษัทผู้ผลิตอสังหาริมทรัพย์และรถยนต์ไฟฟ้าที่จดทะเบียนในฮ่องกง

ตลาดหุ้นในภูมิภาคอื่นๆส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนเริ่มพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่แคนดิเดตประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์จะเข้ามาบริหารประเทศอีกครั้งหลังจากการดีเบตกับโจ ไบเดนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่ทำให้ทรัมป์ได้รับคะแนนนิยมสูงกว่าไบเดนไปแล้ว

ตลาดหุ้นในออสเตรเลียและเกาหลีใต้ร่วงลง ในขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฟิวเจอร์สได้ปรับตัวลงเช่นกันในชั่วโมงการซื้อขายในเอเชีย แม้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวสูงขึ้นในเมื่อคืนนี้จากแรงหนุนของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ หรือ Bond Yield อายุ 10 ปีได้พลิกกลับมาเป็นทิศทางขาขึ้น 7 จุดพื้นฐานในเมื่อคืนนี้ โดยที่ Bond Yield 10 ปี ได้ขึ้นไปแตะระดับ 4.5% อีกครั้ง เนื่องด้วยการพุ่งขึ้นของ Bond Yield ยูโรโซนจากผลกระทบหลังการเลือกตั้งรอบแรกในฝรั่งเศส อีกทั้งยังมีการคาดการณ์กันอีกว่ารัฐบาลของทรัมป์จะส่งผลให้การขาดดุลงบประมาณของสหรัฐเพิ่มขึ้นและจะทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นด้วย

การเลือกตั้งของฝรั่งเศสยังคงเพิ่มความเสี่ยงต่อไป

คาดว่าการลงคะแนนรอบที่ 2 จะเกิดขึ้นในวันที่ 7 กรกฎาคม อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังคงเพิ่มขึ้นในยุโรป ผลตอบแทนพันธบัตร OAT 10 ปีของฝรั่งเศสทะลุจุดสูงสุดที่เคยทำไว้เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน

UBS ซึ่งแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้งรอบแรกได้กล่าวไว้ในบันทึกเมื่อวานนี้ว่า "หลังจากที่พรรค RN ได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาดในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาฝรั่งเศสรอบแรก ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะได้รับที่นั่งส่วนใหญ่ในการเลือกตั้งรอบที่สอง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาดในวงกว้าง และเราได้แนะนำไม่ให้ซื้อสเปรดหรือส่วนต่างของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรฝรั่งเศส"

แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะเพิ่มขึ้น แต่นักลงทุนขานรับและเชื่อว่าความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกิดจากการเลือกตั้งรัฐสภาฝรั่งเศสได้ลดลงไปมากแล้ว และพวกเขาคาดว่าการเติบโตของตลาดพันธบัตรขององค์กรยุโรปในปีนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นใหม่

ขณะนี้ดูเหมือนมีแนวโน้มน้อยลงที่พรรคฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะมีเสียงข้างมากหลังการเลือกตั้งในฝรั่งเศสรอบที่สอง แต่ผู้ลงทุนไม่ควรมีความเชื่อมั่นในเรื่องนั้นมากเกินไป

พันธบัตร AT 1 ซึ่งเป็นตราสารหนี้ประเภทหนึ่งที่บังคับให้ผู้ถือต้องขาดทุนเพื่อให้ธนาคารสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ โดยพันธบัตรของธนาคารผู้ให้กู้สัญชาติฝรั่งเศส เช่น Credit Agricole, SocGen และ BNP Paribas มีกำไรเพิ่มขึ้นในวันนี้ หลังจากที่ผลกำไรพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดที่เคยทำไว้เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนในเมื่อวานนี้

สรุปภาพรวมตลาดก่อนการเปิดตลาดสหรัฐในวันนี้ : ขณะนี้ตลาดกำลังเริ่มรู้สึกต่อความเสี่ยงและกำลังสับสนเป็นอย่างมาก หลังจาก Bond Yield วิ่งขึ้นวิ่งลงสลับกันไปมา แต่มีแนวโน้มจะเลี่ยงความเสี่ยงมากขึ้นเรื่อยๆ

ตลาดหุ้น : ตลาดหุ้นอเมริกาเหนือและยุโรปตะวันออก (EMEA) ซื้อขายกันในราคาต่ำในเช้านี้ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ตลาดหุ้นในเอเชียแปซิฟิกมีผลงานดีขึ้นมากในเช้านี้ แต่ปัจจัยกระตุ้นที่จะทำให้ตลาดหุ้นเอเชียมีการปรับตัวขึ้นได้อย่างแท้จริงในตอนนี้ยังค่อนข้างน้อย

ตลาดพันธบัตร : การเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร หรือ Bond Yield นั้นได้รับความสนใจจากทุกคน และดูเหมือนว่ากระแสข่าวที่ว่าตลาดกำลังปั่นป่วนว่าทำไมเราจึงเห็น Bond Yield นั้นลดลงอย่างรวดเร็วและกลับมาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น เป็นผลมาจากการเลือกตั้งในฝรั่งเศส รวมไปถึงการดีเบตระหว่างคู่แคนดิเดตประธานาธิบดีสหรัฐที่จุดชนวนให้เกิดความคาดหวังว่าทรัมป์จะชนะ และส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่าจะมีการขาดดุลการคลังที่สูงขึ้นและอัตราเงินเฟ้อที่จะสูงขึ้นตามไปด้วย หากการเคลื่อนไหวดังกล่าวมีพื้นฐานมาจากเรื่องนี้จริง ก็มีการเคลื่อนไหวบางอย่างที่ไม่สมเหตุสมผลเช่นกัน หากเป็นเช่นนั้น แสดงว่าหุ้นซื้อขายกันที่ระดับสูงเกินไป และดอลลาร์สหรัฐซื้อขายกันที่ระดับต่ำเกินไป และกำไรของบริษัทผู้ผลิตน้ำมันก็ไม่ค่อยสมเหตุสมผลนักในบริบทนั้นเช่นกัน (เนื่องจากทรัมป์ให้คำมั่นว่าส่วนหนึ่งของแผนของเขาคือการขุดเจาะน้ำมันอย่างที่ไม่เคยขุดเจาะมาก่อน) การเคลื่อนไหวของตลาดพันธบัตรจะมีความสมเหตุสมผลมากที่สุดโดยพิจารณาจากการที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งกระตุ้นให้มีการคาดการณ์ถึงอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในสหรัฐ(แต่ก็เกิดขึ้นโดยไม่คำนึงถึงการดีเบต) จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าผลที่ตามมาจากปัจจัยดังกล่าวนี้จะสามารถอธิบายความเคลื่อนไหวที่ผันผวนบางส่วนในตลาดพันธบัตรได้ แต่ในบริบทที่กว้างขึ้น ดูเหมือนว่าจะมีเพียงบางส่วนของตลาดเท่านั้นที่ทำการซื้อขายในตลาดพันธบัตรให้มีความสอดคล้องกับปัจจัยทางเศรษฐกิจที่แท้จริง

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ : การซื้อขายผสมผสาน โดยราคาน้ำมันและแร่เหล็กปรับตัวสูงขึ้น แต่ราคาก๊าซธรรมชาติ โลหะมีค่า และทองแดง ทรงตัวหรือปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในเช้านี้ ในขณะที่ทองคำยังคงวิ่งขึ้นวิ่งลงไปตามความผันผวนของตลาดพันธบัตร

ตลาด Forex : สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ USD ยังคงเป็นผู้นำในทิศทางขาขึ้น ตามมาด้วยสกุลเงินดอลลาร์แคนาดา CAD (ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะมีความสัมพันธ์กับราคาน้ำมัน) ในขณะที่สกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ NZD นั้นเป็นผู้นำในทิศทางขาลง การซื้อขายมีความเสี่ยงเล็กน้อยแต่ไม่ชัดเจนนัก เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย AUD ฟื้นตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดก่อนหน้านี้ และสกุลเงินปลอดภัยอื่นๆ เช่น สกุลเงินเยน JPY และสกุลเงินฟรังก์สวิส CHF ก็มีการซื้อขายในทิศทางที่ผสมผสานกันไปตามตลาดหุ้นเอเชียและตลาดหุ้นยุโรป

คาดการณ์เงินเฟ้อของสหรัฐยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเนื่องจากราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น

แม้ว่าจะมีการคาดการณ์ต่างๆ มากมายเกี่ยวกับการดีเบตประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและบทบาทของการดีเบตก็ได้ส่งผลกระทบมาถึงความเคลื่อนไหวในตลาดพันธบัตรล่าสุด แต่ก็ควรสังเกตว่าการคาดการณ์เงินเฟ้อยังคงสูงขึ้นควบคู่ไปกับราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตร หรือ Bond Yield นั้นมักสัมพันธ์กับการคาดการณ์เงินเฟ้อ ซึ่งหมายความว่าการเฝ้าติดตามราคาน้ำมันก็มีความสำคัญต่อตลาดพันธบัตรในขณะนี้เช่นเดียวกัน

ในขณะนี้ ปัจจัยพื้นฐานในระดับเศรษฐกิจมหภาคค่อนข้างจะยุ่งเหยิง เนื่องจากมีสาเหตุที่เป็นไปได้มากกว่าหนึ่งประการสำหรับการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่เราอาจเห็นในสินทรัพย์บางประเภทในเร็วๆนี้ และการเคลื่อนไหวเหล่านี้ยิ่งสร้างความสับสนมากขึ้นเมื่อเราวิเคราะห์ไปตามปัจจัยของการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจเท่านั้น และในสัปดาห์นี้ เมื่อมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เกิดขึ้นในตลาดพันธบัตรเกินความเป็นจริงและยังไม่มีปัจจัยทางตัวเลขเศรษฐกิจเข้ามารับรอง จึงเป็นสัญญาณอาจจะเกิดการเปลี่ยนครั้งใหญ่ในตลาดหุ้น ตลาดทองคำ ตลาด Forex รวมไปถึงตลาดคริปโตในเร็วๆนี้