นี่แหละ สิ่งที่กำลังขับเคลื่อนตลาดหุ้นอยู่จริง ๆ

ตลาดปรับตัวขึ้นมากกว่า 1% เมื่อวันศุกร์จากรายงานการจ้างงานที่แย่กว่าที่คาดไว้มาก โดยต่อไปนี้คือความเห็นจากผู้จัดรายงานทางการเงินในรายการหนึ่งในทีวีที่กล่าวว่าปัจจัยที่หนุนขาขึ้นของหุ้นนั้นไม่สมเหตุสมผลสำหรับเขา:

“ผู้คนถามผมเมื่อพูดถึงวอลล์สตรีทว่าพวกเขาอยู่ในโลกใบเล็ก ๆ ของตัวเอง รังไหมเล็ก ๆ ของพวกเขาเอง พวกเขาเห็นการประท้วงในวิทยาลัย พวกเขาเห็นความกังวลอื่น ๆ ทั้งหมดเหล่านี้ และอดีตประธานาธิบดีกำลังถูกพิจารณาคดีในขณะนี้…”

อย่างที่คุณเห็น เขาและผู้ติดตามของเขาค่อนข้างสับสนกับการเคลื่อนไหว 1%+ เมื่อวันศุกร์ และหากคุณติดตามข่าวประเภทนี้เพื่อดูความคาดหวังของตลาด ส่วนตัวผมก็ไม่ได้มีปัญหาในการทำความเข้าใจความสับสนดังกล่าว แต่สิ่งที่พิธีกรรายการโทรทัศน์ระบุไว้นั้นไม่สำคัญต่อตลาดเลย

ผมขอแจ้งให้ผู้อ่านทราบด้วยว่าหัวข้อการวิเคราะห์ของผมในบ่ายวันพฤหัสบดีคือ "Looking For Another Rally" และการวิเคราะห์ขึ้นอยู่กับสิ่งที่สำคัญต่อตลาด

ตอนนี้ผมค่อนข้างแน่ใจว่ามีคนที่สามารถปั่นข่าวในวันศุกร์เพื่อยืนยันและพยายามอธิบายการขึ้น 1%+ แต่คนที่มีเหตุผลอาจสรุปว่าคำอธิบายนั้นไม่เข้าท่าเอาเสียเลย 

อย่างไรก็ตามผู้ที่ติดตลาดหุ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ถึงความปั่นป่วนในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ตลาดหุ้นถึงจุดต่ำสุดในเดือนตุลาคม 2022 จากรายงาน CPI ที่แย่กว่าที่คาดไว้มาก ในขณะที่ทุกคนโทษว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทำตลาดร่วงลงไป 1,300+ จุดจากจุดสูงสุดของตลาดในช่วงต้นปี 2022 แต่ขณะนี้ตลาดได้เห็นการพุ่งขึ้นเกือบ 1,800 จุดจากจุดต่ำสุดเพื่อสร้างจุดสูงสุดใหม่ตลอดเวลา แม้จะมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นก็ตาม

ดังนั้น หากใครถามว่าอัตราดอกเบี้ยเป็นสาเหตุให้เกิดการเคลื่อนไหวของตลาดอย่างรุนแรงหรือไม่ ก็คงมีใครสันที่พยายามอธิบายการเคลื่อนไหวของตลาดในช่วงสองปีที่ผ่านมา (อย่างสับสน) อย่างไรก็ตามในโลกของนักวิเคราะห์ค่อนข้างเทไปยังข้างที่ว่าอัตราดอกเบี้ยกำลังขับเคลื่อนตลาดของเราอยู่

ในความคิดของผม คำกล่าวข้างต้นของโลกนักวิเคราะห์ ไม่ว่าจะเป็นคำโกหกทั้งเพ หรือข้อเท็จจริง ผมต้องถือว่ามันเป็นกรณีหลัง เนื่องจากความพยายามอย่างแรงกล้าที่รวบรวมข่าวปัจจุบันเข้ากับการเคลื่อนไหวของตลาดนั้นแข็งแกร่งเกินกว่าที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนการวิเคราะห์จนทำให้คนส่วนใหญ่ละทิ้งการวิเคราะห์เชิงวัตถุประสงค์หรือการให้เหตุผลทุกรูปแบบ ดังนั้น เรามักจะเห็นการวิเคราะห์ตลาดที่บิดเบี้ยวประหนึ่งว่าพยายามหาทางลงเหมือนการพยายามยัดหมุดสี่เหลี่ยมเข้าไปในรูกลม

การเคลื่อนไหวของตลาดในปีที่แล้วทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ตามอัตราดอกเบี้ยเพื่อดูว่าการฟื้นตัวที่เราเห็นนับตั้งแต่ระดับต่ำสุดในเดือนตุลาคม 2022 นั้นเกิดจากความตั้งใจของ Fed ที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลง อย่างไรก็ตาม ตลาดได้ขยับขึ้นมาแล้วกว่า 1,700 จุด และไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยแต่อย่างใด

แล้วโลกการวิเคราะห์ทำอะไร? แน่นอนว่าพวกเขาปรับเปลี่ยนการเล่าเรื่องเพื่อพยายามบังคับหมุดสี่เหลี่ยมนั้นเข้าไปในรูกลม ตอนที่ผมอ่านบทความที่อ้างว่า Fed จะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยและนั่นจะทำให้ตลาดปรับตัวสูงขึ้นนั้นทำให้ผมต้องถอนหายใจ เกิดอะไรขึ้นกับความซื่อสัตย์ทางปัญญา? ดูเหมือนว่าจะตายไปเสียแล้วกระมัง และไม่มีใครรู้หรืออาจสนใจด้วยซ้ำ

ในฐานะนักลงทุน งานของคุณคือการทำความเข้าใจตลาดอย่างเป็นกลาง เพื่อรักษาทิศทางที่ถูกต้องของการเคลื่อนไหวของตลาด น่าเสียดายที่นักลงทุนส่วนใหญ่ปฏิบัติตามทฤษฎีตลาดที่กว้างขวาง เพราะมันทำให้พวกเขารู้สึกราวกับว่าพวกเขาสามารถควบคุมตลาดได้ในระดับหนึ่ง หากพวกเขาสามารถหาเหตุผลในการเคลื่อนไหวของตลาดได้ ไม่ว่าเหตุผลนั้นจะบิดเบี้ยวแค่ไหนก็ตาม อย่างไรก็ตาม คุณต้องได้ข้อสรุปว่าการควบคุมดังกล่าวเป็นภาพลวงตา ในลักษณะเดียวกับที่การวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่นำไปสู่ความรู้สึกผิดว่าการควบคุมตลาดนั้นถือเป็นการทุจริตทางสติปัญญา

สำหรับผมแล้วเพียงใช้แนวทางทางคณิตศาสตร์กับการเคลื่อนไหวของราคาในตลาด ซึ่งบอกผมค่อนข้างเป็นกลางว่าการวิเคราะห์ของผมนั้นถูกหรือผิด และช่วยให้ผมปรับตัวได้ค่อนข้างเร็วเมื่อผมผิด 

ในระหว่างนี้ ผมอยากจะบอกคุณว่าผมระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งสำหรับการพลิกกลับของตลาดถึง 25% ไปสู่ downside ก่อนที่คุณจะตื่นเต้นไปมากกว่านี้ โปรดทราบว่าผมไม่ได้บอกว่าการเคลื่อนไหวนี้จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ฉันแค่บอกว่าตอนนี้ตลาดได้ย้ายเข้าสู่สภาพแวดล้อมที่สามารถพัฒนาไปหาความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้

สิ่งนี้คล้ายกับเมื่อเรารับรู้ว่าสภาพอากาศสุกงอมสำหรับพายุทอร์นาโดแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่เราต้องตระหนักถึงสิ่งที่ต้องมองหาเพื่อที่จะรับรู้ถึงความจำเป็นในการมุ่งหน้าไปยังที่พักพิง

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ผมตีพิมพ์บทความชื่อว่า “Sentiment Speaks: It Is Time For A Serious Dose of Caution”

ภายในบทความนั้น มีข้อสรุปดังต่อไปนี้:

“ผมยังเห็นนักวิเคราะห์หลายคนแนะนำว่าตลาดยังต้องดำเนินต่อไปในระดับสูงกว่านี้มาก อันที่จริง แผนภูมิหนึ่งที่ทำให้ผมระมัดระวังอย่างมาก นั่นคือดัชนีรัสเซล หลาย ๆ คนมองว่ามีระดับที่สูงกว่าอีกอย่างน้อย 15%

ผมค่อนข้างให้ความสำคัญกับ IWM มากตั้งแต่ปลายปี 2023 เมื่อเราคาดหวังว่ามันจะรวบรวมขอบเขต 160/165 ไปสู่เป้าหมายในอุดมคติในภูมิภาค 203-214 (โดยมีโอกาสภายนอกที่จะสูงถึง 225) แม้กระทั่ง ก่อนที่เราจะถึงจุดต่ำสุด ดังที่คุณเห็นจากแผนภูมินี้:

Elliottwavetrader.net

และเนื่องจากโครงสร้างการแรลลี่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างจากจุดต่ำสุดของเดือนตุลาคม ผมจึงปรับเป้าหมายนั้นไปที่เขต 210-214 ในเดือนธันวาคม เมื่อวันศุกร์เราเพิ่งไปถึงจุดต่ำสุดของเป้าหมายของผม

ตอนนี้ ผมจะไม่ทำให้คุณเบื่อกับการวิเคราะห์โดยละเอียดซึ่งทำให้ผมต้องมองหาการฟื้นตัวครั้งนั้นในเดือนตุลาคมปี 2023 ซึ่งเป็นช่วงที่คนอื่น ๆ ส่วนใหญ่คาดหวังว่า IWM จะพังในเวลานั้น 

ผมจะบอกเพียงว่าแผนภูมินี้กระตุ้นให้ผมระมัดระวังอย่างยิ่งในเวลานี้ ในความเป็นจริง ตราบใดที่เรายังคงต่ำกว่า 214 และจากนั้นเห็นการกลับลงมาสู่ภูมิภาค 194 ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าในลักษณะหุนหันพลันแล่น (คำศัพท์สำหรับโครงสร้าง 5 คลื่นซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน Fibonacci Pinball) จากนั้นผมจะเห็นถึงกำลัง "crash-alert" ใช่ครับ คุณได้ยินผมถูกต้อง”

อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าตลาดปรับขึ้นเหนือการคาดการณ์ ของเรา จากนั้นจึงร่วงลงไปที่แดนเป้าหมายล่าง (190-194 IWM) แต่โครงสร้างที่เราทิ้งไปนั้นไม่ใช่โครงสร้างที่สะอาดที่สุดในบรรดาโครงสร้าง 5 wave ดังนั้น ฉันจะต้องมีหลักฐานเพิ่มเติมว่ากำลังมีการลดลง 25%

หลักฐานดังกล่าวจะมาพร้อมกับการลดลงอีก 5 wave และกลับสู่ภูมิภาค 190-194 อีกครั้ง หากเราเห็นสิ่งนี้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ผมจะเปลี่ยนเป็นตลาดหมีจากการดีดกลับที่ตามมาที่ 197-200 เนื่องจากเราจะมีการตั้งค่าที่แข็งแกร่งมากโดยจะลดลง 25% ในปี 2024