1 หุ้นที่ควรซื้อและ 1 หุ้นที่ควรขายในสัปดาห์นี้: Fortinet กับ Tesla

• ข้อมูลการจ้างงานในสหรัฐฯ รายงาน PMI และคำแถลงจากเฟดจะได้รับความสนใจในสัปดาห์นี้

• Fortinet เป็นซื้อเนื่องจากกิจกรรม "Accelerate 2024" ประจำปีกำลังจะเริ่มขึ้น

• Tesla เป็นขายจากการคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 1 ที่อ่อนแอ

• เข้าถึงข้อมูลในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ลงทุนแบบมือโปรด้วยข้อมูลแบบ exclusive สมัคร InvestingPro ไม่พลาดโอกาสในการทำกำไรในไตรมาสนี้

หุ้นสหรัฐฯ ปิดสูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อวันพฤหัสบดีทำให้เป็นสัปดาห์ที่ทำกำไรอีกครั้ง เนื่องจาก S&P 500 ปิดไตรมาสแรกได้แข็งแกร่งที่สุดในรอบห้าปี

ดัชนีปรับขึ้น 10.2% ในช่วงสามเดือนแรกของปี ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นในไตรมาส 1 ที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2019 ขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมดาวโจนส์ ก็เพิ่มขึ้น 5.6% และเป็นไตรมาสแรกที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 2021

ดัชนีกลุ่มเทคโนโลยีอย่าง Nasdaq คอมโพสิต ปิดไตรมาสด้วยกำไร 9.1%

ที่มา: Investing.com

ในสัปดาห์นี้คาดว่าจะเป็นสัปดาห์ที่ยุ่งวุ่นวายอีกครั้งเนื่องจากไตรมาสที่สองเริ่มต้นขึ้น และนักลงทุนยังคงประเมินทิศทางแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ

สิ่งที่สำคัญที่สุดในปฏิทินเศรษฐกิจคือรายงานการจ้างงานประจำเดือนมีนาคมของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ ซึ่งคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะเพิ่มตำแหน่งงาน 198,000 ตำแหน่ง เทียบกับการเติบโตของงานที่ 275,000 ตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์ อัตราการว่างงานยังคงทรงตัวที่ 3.9%

ก่อนรายงานการจ้างงาน ก็จะมีการเปิดเผยข้อมูล ISM ภาคการผลิตและ PMI ของภาคการบริการ

ที่มา: Investing.com

ข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมาจะเกิดขึ้นพร้อมกับการขึ้นกล่าวปราศรัยของเจ้าหน้าที่เฟดอีกหลายคน โดยมีทั้งอย่าง John Williams Loretta Mester Mary Daly และ Thomas Barkin

ขณะเดียวกัน เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดก็จะเข้าร่วมสัมมนาการประชุมธุรกิจ รัฐบาล และสังคมของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดในวันพุธ

ขณะนี้เทรดเดอร์เดิมพันว่ามีโอกาสประมาณ 60% ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมิถุนายน ตามข้อมูลจาก เครื่องมือติดตามอัตราดอกเบี้ยเฟด ของ Investing.com ซึ่งลดลงจากกว่า 80% เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้า

ไม่ว่าตลาดจะไปในทิศทางใด แต่ด้านล่างนี้เราจะเน้นไปที่หุ้นตัวที่มีแนวโน้มจะเป็นที่ต้องการและอีกตัวที่อาจมองเห็นการลดลง โปรดจำไว้ว่า กรอบเวลาของบทวิเคราะห์นี้คือเพียงสัปดาห์คือวันจันทร์ที่ 1 เมษายน - วันศุกร์ที่ 5 เมษายน

หุ้นที่ควรซื้อ: Fortinet

เราคาดว่า Fortinet (NASDAQ:FTNT) จะทำได้ดีมากในสัปดาห์นี้ เนื่องจากผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นเจ้าภาพจัดงาน 'Accelerate 2024' ที่หลายคนตั้งตารอคอย ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าล่าสุดในแอปพลิเคชัน AI

การประชุม 'Step Into the Platform Era' กำลังจะเริ่มในวันนี้ที่ Mandalay Bay Convention Center ในลาสเวกัส

โยความสนใจส่วนใหญ่จะมุ่งไปที่คำปราศรัยของ Ken Xie ผู้ก่อตั้งและ CEO ซึ่งมีกำหนดการณ์ออกอากาศในวันอังคาร เวลา 12.00 น. PDT/9.00 น. EST

Xie จะแสดงกลยุทธ์ที่ล้ำสมัย และให้ข้อมูลเชิงลึกว่าเทรนด์และนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในปัญญาประดิษฐ์ในปัจจุบัน จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในเศรษฐกิจดิจิทัลที่พัฒนาอย่างรวดเร็วได้อย่างไร

นอกจากนี้ สมาชิกคนสำคัญคนอื่น ๆ ในทีมผู้บริหารของ Fortinet คาดว่าจะเปิดเผยรายละเอียดใหม่เกี่ยวกับระบบป้องกันการบุกรุกของผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และส่วนประกอบด้านความปลอดภัยปลายทาง

โดยขณะนี้ถือเป็นปีที่แปดแล้ว ที่หุ้นของ Fortinet มีแนวโน้มที่จะพุ่งขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่มีงาน 'Accelerate' ประจำปี ซึ่งการประชุมครั้งล่าสุดในเดือนเมษายน 2023 หุ้นของ FTNT เพิ่มขึ้นหลังจากที่ Xie เน้นย้ำถึงฟีเจอร์และฟังก์ชันความปลอดภัยทางไซเบอร์ใหม่

หุ้นของ FTNT ปิดเซสชั่นของวันพฤหัสบดีที่ 68.31 ดอลลาร์ ใกล้กับระดับสูงสุดในปี 2024 ที่ 73.91 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ บริษัทรักษาความปลอดภัยเครือข่ายในซันนีเวล แคลิฟอร์เนีย มีมูลค่าบริษัทที่ 52.1 พันล้านดอลลาร์

ที่มา: Investing.com

หุ้นมีแนวโน้มขาขึ้นนับตั้งแต่ต้นปี โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 17% ตลอดปี 2024 เนื่องจากผู้ผลิตซอฟต์แวร์ความปลอดภัยได้รับประโยชน์จากความต้องการที่แข็งแกร่งขององค์กรขนาดใหญ่สำหรับระบบความปลอดภัยบนคลาวด์

จากที่ ProTips ชี้ให้เห็น Fortinet มีคะแนนสุขภาพทางการเงินที่เกือบจะสมบูรณ์แบบที่ 4/5 เนื่องจากรายได้ที่แข็งแกร่งและแนวโน้มการเติบโตของยอดขาย

ที่มา: InvestingPro

เป็นที่น่าสังเกตว่าแบบจำลองเชิงปริมาณใน InvestingPro ชี้ไปที่ upside ที่อาจเกิดขึ้นที่ 6.7% ในหุ้น FTNT ซึ่งทำให้หุ้นเข้าใกล้เป้าหมายราคามูลค่ายุติธรรมที่ประมาณ 73 ดอลลาร์

หุ้นที่ควรขาย: Tesla

เราเชื่อว่า Tesla (NASDAQ:TSLA) จะต้องพบกับสัปดาห์ที่น่าผิดหวัง เนื่องจากตัวเลขรายงานในไตรมาสแรกของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้านั้นมีแนวโน้มที่จะกดดันนักลงทุนเนื่องจากผลกระทบด้านลบจากอุปสรรคต่าง ๆ ที่มีต่อธุรกิจ

Tesla จะรายงานการส่งมอบไตรมาสแรกในช่วงวันอังคาร และคาดว่าผลลัพธ์จะได้รับผลกระทบจากความต้องการที่ชะลอตัวในจีนและยุโรป รวมถึงการหยุดผลิตของโรงงานในเซี่ยงไฮ้และเบอร์ลิน

ผู้บุกเบิกรถยนต์ไฟฟ้าที่นำโดย Elon Musk คาดว่าจะสามารถจัดส่งรถยนต์ได้ประมาณ 457,000 คันในช่วงสามเดือนแรกของปี ตามการประมาณการ

อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นของฝ่ายขายนั้นมีความตกต่ำอย่างมากในช่วงหลายวันก่อนการรายงาน โดยมีนักวิเคราะห์หลายคน รวมทั้งจาก Goldman Sachs Citibank และ Deutsche Bank ลดประมาณการการส่งมอบของไตรมาสที่ 1 ในช่วงเวลาดังกล่าวลงเหลือประมาณ 420,000

จากการเปรียบเทียบ Tesla ส่งมอบรถยนต์ได้ 484,507 คันในไตรมาสที่ 4 และ 422,875 คันในไตรมาสแรกของปี 2023

แม้จะมีกลยุทธ์การลดราคาและแรงจูงใจต่าง ๆ ให้กับลูกค้าในสหรัฐอเมริกา จีน และยุโรป แต่ Tesla ก็ยังประสบปัญหากับข้อกังวลด้านอุปสงค์และระดับสินค้าคงคลังที่สูงขึ้นท่ามกลางสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน

การลดราคาอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดความกังวลว่าจะต้องมีการเสนอส่วนลดสำหรับยานพาหนะของตนเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดเมื่อเผชิญกับความต้องการที่ลดลงและการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากผู้ผลิตรถยนต์แบบดั้งเดิมตลอดจนสตาร์ทอัพ EV ของจีน เช่น BYD (SZ:002594) Li Auto (NASDAQ:LI) และ Xpeng (NYSE:XPEV)

หุ้น TSLA ปิดที่ 175.79 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี ใกล้กับระดับต่ำสุดของวันที่ 14 มีนาคมเมื่อปีก่อนที่ 160.51 ดอลลาร์ จากการประเมินมูลค่าปัจจุบัน บริษัทรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ในออสติน รัฐเท็กซัส มีมูลค่าตลาด 560 พันล้านดอลลาร์

ที่มา: Investing.com

สังเกตว่าหุ้น Tesla ร่วงลงถึง 29% ในไตรมาสแรกและครองตำแหน่งหุ้นที่มีผลการดำเนินงานแย่ที่สุดใน S&P 500 ในช่วงสามเดือนแรกของปี 2024

Tesla มีกำหนดการณ์รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกในวันที่ 24 เมษายน เพื่อเน้นย้ำถึงความท้าทายในระยะสั้นหลายประการที่ Tesla เผชิญท่ามกลางสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน นักวิเคราะห์ 12 จาก 13 รายที่สำรวจโดย InvestingPro ได้ปรับลดประมาณการกำไรในช่วง 90 วันที่ผ่านมาเพื่อสะท้อนถึงการลดลงประมาณ 50% จากการคาดการณ์เบื้องต้น

ที่มา: InvestingPro

โดยฉันทามติประมาณการว่าจะมีกำไรที่ 0.59 ดอลลาร์ต่อหุ้น ลดลงถึง 31% จากกำไรต่อหุ้นที่ 0.85 ดอลลาร์ในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว รายได้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นน้อยกว่า 4% ต่อปีเป็น 24.19 พันล้านดอลลาร์

สมัคร InvestingPro เพื่อสำรวจตลาดและเป้าหมายในการลงทุนของคุณ

สำหรับผู้ที่อ่านบทความนี้เราจะมีส่วนลดพิเศษอีก 10% สำหรับการสมัครแบบ 1 ปีและ 2 ปี โดยกรอกโค้ด PROTIPS2024 (1 ปี) และ PROTIPS20242 (2 ปี)

สมัครเพื่อเป็นสมาชิกกับเราแล้วคุณจะไม่พลาดโอกาสในการลงทุนอีกต่อไป

Disclaimer: มุมมองที่กล่าวถึงในบทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นของผู้เขียนเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน