Overweight Domestic Play
• SET: คาด SET Index เคลื่อนไหว Sideway จากระดับปัจจุบันที่ถือว่า ใกล้เคียงกรณีฐานที่เราประเมินไว้ที่ 1410 จุด ตามวิธี PE Model ขณะที่ ตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่เข้าสู่ช่วงวันหยุดคริสต์มาสและ Boxing Day ทําให้คาดว่าปริมาณ อขายในตลาดหุ้นไทยจะเบาบางด้วยเช่นกัน สําหรับ ใน 1Q24 ประเมิน SET Index จะแกว่งตัว Sideway เนื่องจากประเมินว่า แนวนโยบายการเงินทั่วโลกจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่หากมีการปรับ เพิ่มประมาณการ EPS ของตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจที่อิงกับ อุปสงค์ภายในประเทศ อาจทาให้ดัชนีปรับตัวไปในทิศทางบวกได้
• Better Outlook for Thailand in 1Q24: ประเทศไทยถูกปรับลด ประมาณการลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา จนทําให้เป็นตลาดหุ้นหนึ่งที ปรับตัวแย่ที่สุดของโลก หากในช่วงต้นปีหน้าเศรษฐกิจมีแรงส่งจาก มาตรการกระตุ้นการบริโภค (Easy E-Receipt) การต่ออายุมาตรการลดค่า ครองชีพ รวมถึงการอนุมัติงบประมาณฉบับใหม่ คาดว่าจะเริ่มเห็นแนวโน้ม การปรับประมาณการกําไรขึ้นของกลุ่มที่อิงกับภาคอุปสงค์ภายในประเทศ อย่างพลังงานและปิโตรเคมี ไตรมาส 4/23 ไดบ้าง ได้ เมื่อมาประกอบกับแนวโน้มกําไรของกลุ่ม Global cyclical ในบ้านเรา ที่น่าจะทรงตัวได้จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยัง ไม่น่าจะมีความเสี่ยงหดตัวแรง ทําให้พอเชื่อได้ว่าแนวโน้มกําาไรตลาดหุ้น ไทยในไตรมาสแรก น่าจะเห็นการทยอยปรับเพิ่มประมาณการขึ้นจากช่วง
• Sentiment & Liquidity: ในกรณีฐาน ประเมินดัชนี SET จะแกว่งตัว Sideways ออกด้านข้างที่ระดับ 1410 จุด ซึ่งเป็นระดับที่เรามองว่ายุติธรรม หากอ้างอิงจาก PE Model ของเรา ประเมิน Sentiment ของนักลงทุน ทั่วไปในประเทศจะยังอยู่ในระดับทรงตัว หลังจากที่ความสงสัยของนัก ลงทุนในช่วงที่ผ่านมายังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น ประเด็นเกี่ยวกับธุรกรรม Naked short selling หรือความได้เปรียบของกลุ่ม High frequency trading เมื่อมาประกอบกับสภาพคล่องภายในสวนใหญ่ที่ ยังกองอยู่ในบัญชีเงินฝากสกุลเงินต่างประเทศ (Foreign Currency Deposit: FCD) ที่เราไม่คิดว่าจะถูกขับไล่ออกมาในเร็ววัน จากการที่ Fed ไม่น่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยในช่วง 3 เดือนแรกของปี ทําให้เราประเมินว่า ความเชื่อมั่นและสภาพคล่องของนักลงทุนทั่วไปในภาพรวมจะยังทรงตัว ต่อเนื่องไปอีก 1 ไตรมาส
• Theme & Best picks: เรายังคงแนะนําให้นักลงทุน Overweight หุ้นกลุ่มค้าปลีกต่อไป แม้ช่วงไตรมาส 4/23 จะไม่ได้มีการปรับตัวดีตามที่ เราคาดหวังไว้ ซึ่งอาจจะด้วยเรื่องของภาวะการแข่งขันที่อยู่สูง ภาระ ดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นตาม Bond yield ในตลาด รวมถึงการชะลอตัวของ การบริโภคเพื่อรอรับมาตรการ Easy E-Receipt ในช่วงต้นปี 2024 อย่างไร ก็ดี เรามองว่าปัจจัยต่างๆเหล่านี้ได้ผ่านพ้นจุดที่แย่สุดไปแล้ว เมื่อรวมกับ ต้นทุนค่าไฟที่ได้รับการลดภาระจากภาครัฐต่อเนื่อง และต้นทุนแรงงานที่ ไม่น่าจะขยับขึ้นมากนักจากค่าแรงขั้นต่า ที่อาจจะปรับขึ้นเพียงแค่ 2-16 บาทแล้วแต่จังหวัด และเม็ดเงินการใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจริงหลัง โครงการ Easy E-Receipt เกิดขึ้น คาดว่าในช่วงไตรมาสแรกจะเห็นการ บริโภคภายในมีความคึกคักขึ้นมา ตามหลังความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ขึ้นมารอ ก่อนหน้านี้ได้ ทั้งนี้เราให้ CPALL (BK:CPALL) เป็นตัวเด่นที่สุดในกลุ่มนี้ จากการที่เป็น ตัวหุ้นที่อยู่ในดัชนี SETESG และมักมี Track record ช่วง 4 เดือนแรกของ ปีอยู่ในเกณฑ์
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities