🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

ยังคงเห็นแรงขับเคลื่อนให้SET INDEX ปรับขึ้นไปได้ต่อ

เผยแพร่ 20/12/2566 10:03
SETI
-

ยังคงเห็นแรงขับเคลื่อนให้SET INDEX ปรับขึ้นไปได้ต่อ โดยปัจจัยภายนอกมีเรื่อง ราคาน้้ามันที่ปรับตัวขึ้น จากปัญหาการโจมตีเรือขนส่งสินค้าบริเวณทะเลแดง ประเมินว่า UPSIDE ยังเปิด หนุนหุ้นในกลุ่มธุรกิจน้้ามัน ส่วนสัญญาณการปรับ ลดดอกเบี้ยในสหรัฐ ก็ชัดเจนขึ้นดีต่อสินทรัพย์เสี่ยง และ FUND FLOW ที่มี โอกาสไหลเข้า ในบ้านเราแม้ผลการประชุม ครม. วานนี้จะไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนใน เรื่องราคาพลังงานต่างๆ แต่ในวันนี้น่าจะเห็นความชัดเจนใน 2 เรื่อง คือ EASY ERECEIPT ที่จะมีการแถลงข่าวในรายละเอียดของมาตรการขณะที่คณะกรรมการ ไตรภาคี พิจารณาเรื่องค่าแรงขั้นต่้า ก็น่าจะมีข้อสรุปบางประการออกมา พิจารณาจากปัจจัยแวดล้อมดังกล่าวข้างต้น เชื่อว่าน่าจะท้าให้เห็น MOMEUTUM ในการเหวี่ยงขึ้นของ SET INDEX ได้ต่อ และที่ส้าคัญจากนี้ไปจะ เห็นแรงซื้อจากกองทุน ESG FUND ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นตามล้าดับ

เชื่อว่า MOMENTUM ในการเหวี่ยงขึ้นของ SET INDEX ยังไม่จบ จนถึงสิ้นปีมี โอกาสที่จะทะลุ 1400 จุดขึ้นไปได้ ส่วนวันนี้ประเมินกรอบ 1388 – 1405 จุด หุ้น TOP PICK เลือก CRC, INTUCH และ PLANB

ทะเลแดงเดือด กดดันราคาน น้ำามันผันผวนในช่วงนี้

การโจมตีเรือขนส่งสินค้าพาณิชย์ที่แล่นผ่านทะเลแดงของกลุ่มฮูตี ที่ยกระดับความ รุนแรงมากขึ้น กลายเป็น SENTIMENT ที่เพิ่มความกังวลต่อผลกระทบในฝั่ง SUPPLY น้้ามัน เนื่องจากการหลีกเลี่ยงเส้นทางเดินเรือขนส่งสินค้าเอเชีย – ยุโรป โดยไม่ผ่าน ทะเลแดง อาจใช้เวลาเพิ่มขึ้นราว 10 วัน (ระยะทางขนส่งทางเรือเนเธอร์แลนด์-ไตหวัน เพิ่มขึ้นราว 6,482 KM.) ท้าให้ต้นทุนการขนส่งมีโอกาสสูงขึ้น ขณะที่ล่าสุดบริษัทขนส่ง หลายแห่งได้ยกเลิกการใช้เส้นทางเดินผ่านทะเลแดงชั่วคราว และก้าลังมองหาเส้นทาง เดินเรืออื่นๆ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหาย นอกจากนี้ กลุ่มพันธิมิตรหลายชาติที่น้าโดย สหรัฐได้ตั้งกองทับใหม่ เพื่อเตรียมรับมือกับกลุ่มฮูตีด้วย

ขณะที่วานนี้ ราคาน้้ามันดิบ WTI ยังคงดีตัวต่อเนื่องราว 1% ทะลุ 74 เหรียญฯ โดย ในช่วงใน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้้ามันดีดตัวไปแล้วกว่า +8% ซึ่งค่อนข้างสวนทาง กับบ้านเราที่ราคาหุ้นกลุ่มน้้ามัน LAGGARD หรือ ขยับขึ้นไปได้เพียงเล็กน้อย ดังนั้น จึงคาหวังว่าราคาหุ้นน้้ามันไทยจะล้อไปกับราคาน้้ามันโลก และปรับตัวสูงขึ้นในระยะ ถัดไปได้

สรุป การโจมตีเรือขนส่งสินค้าพาณิชย์บริเวณทะเลแดงที่ยังมีความรุนแนงอยู่ กดดันให้ ราคาน้้ามันปรับตัวสูงขึ้นช่วงนี้ได้จากความกังวลในผลกระทบฝั่ง SUPPLY ขณะที่ ราคาหุ้นน้้ามันไทยค่อนข้าง LAGGARD ราคาน้้ามันโลก แนะน้า PTTGC, PTTEP, TOP

มาตรการภาครัฐฯ เตรียมให้ของขวัญปีใหม่ประชาชน หุ้นใดน่า เก็บสะสมบ้าง

ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ เตรียมเสนอมาตรการของขวัญปีใหม่ให้ ประชาชนด้วยการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • ตรึงราคาน้้ามันดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ระยะเวลา 3 เดือน ให้มีผลตั้งแต่ วันที่ 1 ม.ค.-31 มี.ค.67

  • ตรึงราคาก๊าซหุงต้ม 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ระยะเวลา 3 เดือน มีผล ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 มี.ค.67

  • ตรึงราคาค่าไฟงวดใหม่ (ม.ค.-เม.ย.67) ส้าหรับกลุ่มเปราะบางหรือครัวเรือน ที่ใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วย/เดือนไว้ที่ 3.99 บาท/หน่วย

ขณะที่นโยบายการคลังอื่นๆ ยังเห็นความคืบหน้าของโครงการต่างๆ เพื่อที่จะกระตุ้น เศรษฐกิจในอนาคต โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • นโยบายปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่้า กลุ่มไตรภาคีนัดประชุมวันนี้(หากตกลงกันไม่ได้ จะใช้มติเดิม คือ ปรับขึ้น 2-16 บาท) ตั้งเป้าให้ ครม. อนุมัติก่อนสิ้นปีนี้ พร้อม มีผลตั้งแต่ 1 ม.ค.67

  • นโยบาย EASY E-RECEIPTรมช.คลัง จะแถลงข่าวรายละเอียดของนโยบาย ดังกล่าวในวันนี้ เวลา 13.00 น. ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ผ่านความเห็นชอบในหลักการจากที่ประชุม ครม. ไปแล้ว (เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.66) ซึ่งต้องติดตามว่าจะ มีสินค้าใดที่สามารถเข้าร่วมได้บ้าง เพื่อจะน้าไปหักลดหย่อนในการค้านวณ ภาษีเงินได้ประจ้าปี 67

  • นโยบาย DIIGTAL WALLET รมช.คลัง ยืนยันว่าโครงการดังกล่าว ยังคงอยู่ ในกรอบระยะเวลาเดิมที่วางไว้ คือ ช่วงเดือนพ.ค. 67 ซึ่งคณะกรรมการ กฤษฎีกาจะมีการประชุมอย่างน้อย 2 ครั้ง คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งจะรู้ผลลัพธ์ในช่วงต้นปี 67 ว่าสามารถท้าได้หรือไม่

หากพิจารณากลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากนโยบายดังกล่าว คือ กลุ่ม COMM FOOD จากมาตรการหุ้นก้าลังซื้อเพิ่มขึ้น บวกกับระยะถัดไปยังมีแรงหนุนจาก มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐทั้ง EASY E-RECEIPT และ DIGITAL WALLET คาดช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้โตเกิน 5%YOY และท้าให้ประชาชนมีก้าลัง ในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นในช่วง 1H67 โดยหุ้นในกลุ่มดังกล่าว ที่ฝ่ายวิจัยฯ ชื่น ชอบ คือ CPAXT, HMPRO, COM7, CRC, CPALL (BK:CPALL), OSP, CBG, SNNP, TU เป็น ต้น

สรุป นโยบายการคลังที่คาดออกมากระตุ้นเศรษฐกิจอยู่เรื่อยๆ คาดหนุนให้ประเทศ ไทยดูดีในสายตาต่างชาติ และมีโอกาสให้ FLOW ต่างชาติไหลเข้าหุ้นไทยระยะถัดไป ส่วนหุ้นที่คาด OUTPERFORM จากประเด็นฯดังกล่าว และฝ่ายวิจัยฯชื่นชอบ คือ CRC, CPALL, TU, TISCO, ADVANC, SCC

มติ ครม. ลดค่าครองชีพ ส่งผลกระทบต่อหุ้นตัวใดบ้าง

ประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ (19 ธ.ค.) มีมติเห็นชอบลดค่าครองชีพให้กับประชาชน แบ่งออกเป็น 2เรื่องหลักที่เกี่ยวข้องกับราคาพลังงาน คือ 1) ปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าให้ ไม่เกิน 4.20 บาทต่อหน่วย (จากเดิมที่ก้าหนดอยู่ที่ 4.68 บาท) โดยจะให้ PTT น้าเงิน SHORTFALL ที่ PTT ได้จากเชฟรอนที่ไม่สามารถส่งก๊าซฯได้ตามสัญญาช่วนปลาย สัมปทานมาช่วยลดค่าไฟส่วนนี้ ซึ่งยังต้องรอบอร์ด PTT สรุปอีกครั้งในที่ประชุม พรุ่งนี้ (21 ธ.ค.) 2) ตรึงราคาน้้ามันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร โดยใช้กลไกของ ภาษีสรรพสามิตรและกองทุนน้้ามันเชื้อเพลิง และตรึงราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ไว้ที่ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม โดยใช้กลไกกองทุนน้้ามันเชื้อเพลิง เป็นระยะเวลา 3 เดือน (1 ม.ค.-31 มี.ค.67)

จากประเด็นดังกล่าว ผลกระทบหลักเชิง SENTIMENT เบื้องต้นจะตกอยู่ที่PTT เพราะ ถูกภาครัฐขอเงินไปอุดหนุนค่าไฟ ซึ่งหากข้อสรุปของบอร์ด PTT ว่าจะให้เงินส่วนนี้ 4.3 พันล้านบาท แก่ภาครัฐ ก็จะส่งผลกระทบต่อประมาณการก้าไรปี 2566ของ PTT ราว 4.4% และหากพิจารณาในส่วนของค่าไฟฟ้าที่จะลดไม่เกิน 4.20 บาทต่อหน่วย น่าจะ ท้าให้ค่า FT งวด ม.ค.-เม.ย.67 ปรับตัวลดลง ก็จะกระทบกับผู้ประกิบการโรงไฟฟ้าที่ มีรายได้ค่าไฟฟ้าอิงกับค่า FT อาทิ GPSC, BGRIM, GULF เป็นต้น

ทั้งนี้มาตรการลดค่าครองชีพให้กับประชาชนจากมติที่ประชุมครม.เมื่อ 19 ธ.ค.66 ด้วยการตรึงค่าไฟฟ้างวดใหม่ ม.ค.-เม.ย.67แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม

1) ส้าหรับครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าน้อยกว่า 300 หน่วยต่อเดือน จ้านวน 17 ล้าน ครัวเรือน จะตรึงราคาค่าไฟฟ้าไว้ที่ 3.99 บาทต่อหน่วย

2) ส่วนกลุ่มที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 300 หน่วยต่อเดือน ที่ประชุมครม.ได้ปรับลดอัตรา ค่าไฟฟ้าจากเดิมก้าหนดอยู่ที่ 4.68 บาทต่อหน่วย เป็นไม่เกิน 4.20 บาทต่อหน่วย แต่ จะปรับลดลงในอัตราเท่าใดนั้น กระทรวงพลังงานจะขอพิจารณาอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามทางภาครัฐผ่าน กกพ. ได้เรียกร้องเงินค่า SHORTFALL จ้านวน 4.3 พันล้านบาท ให้น้ามาจ่ายให้กับ กกพ. หลังจาก่อนหน้านี้ กกพ. ได้ส่งหนังสือค้าสั่งถึง ปตท. (BK:PTT) เพื่อขอให้คืนเงิน SHORTFALL ภายใต้สัญญา DCQ (DAILY CONTRACT QUANTITY) เป็นจ้านวน 4.3 ล้านบาท จากการขาดส่งก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย แปลงเอราวัณ ช่วงปลายปี 2564 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2565 ที่ได้รับจาก CHEVRON เนื่องจาก CHEVRON ไม่สามารถส่งก๊าซฯให้ผู้ซื้อ (PTT) ได้ตามสัญญา ในช่วงปลาย สัญญา ก่อนจะเปลี่ยนผู้ด้าเนินการแปลงเอราวัณเป็น PTTEP ตั้งแต่ 25 เม.ย.65 แต่ทั้งนี้ทาง PTT ได้ยื่นอุทธรณ์ เนื่องจากมองว่าประเด็นดังกล่าวเป็นไปตามสัญญาซื้อ ขายของเอกชนระหว่างผู้ซื้อคือ PTT และผู้ขายคือ CHEVRON ซึ่งทาง PTT ก็ต้องมี การบริหารความเสี่ยงในการจัดการเองด้วยไม่เกี่ยวกับภาครัฐ ท้าให้จนถึงปัจจุบัน ทางกกพ.ยังไม่ได้รับค่า SHORTFALL จากทางปตท.แต่อย่างใด ซึ่งในประเด็นนี้คง ต้องรอข้อสรุปจากการประชุมบอร์ด PTT ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้21 ธ.ค. 66 ว่าจะมี แนวทางออกมาในรูปแบบใด

นอกจากนี้ อีกประเด็นที่ส้าคัญจากที่ประชุม ครม. ที่มีมติให้คณะกรรมการก้ากับ กิจการพลังงาน (กกพ.) บริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ ให้มีการปรับราคาก๊าซ ธรรมชาติเข้าและออกจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติเป็นราคา POOL GAS ซึ่งเป็นราคา รวมก๊าซธรรมชาติจากแหล่งอื่นๆ เพื่อให้เกิดผลทางปฏิบัติ ส่งผลให้ราคา POOL GAS โดยรวมลดลง และต้นทุนผลิตไฟฟ้าลดลง ทั้งนี้ ยกเว้นก๊าซธรรมชาติที่น้าไปใช้ ในการผลิตแอลพีจีส้าหรับใช้เป็นเชื้อเพลิง ให้ใช้ต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติเท่ากับ ราคาก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทย (GULF GAS) ซึ่งในประเด็นนนี้ถือเป็นประเด็นที่เคย หยิบยกขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ในทางปฎบัติจะท้าได้ยาก เพราะปัจจุบันก๊าซฯที่ผลิต ได้หลักๆในอ่าวไทย จะต่อท่อเข้าโรงแยกก๊าซฯ และเข้าสู่โรงงานปิโตรเคมีโดยตรง ท้าให้ ราคาปิโตรเคมีจะอิงกับต้นทุนราคาก๊าซฯในอ่าวไทย ซึ่งมีราคาที่ถูกกว่าราคา LNG ดังนั้นหากมีการปรับให้มาใช้ราคา POOL GAS ราคาเดียว จะท้าให้ต้นทุนของ PTTGC ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อ PTTGC แต่ทั้งนี้ยังต้องรอ ข้อสรุปที่ชัดเจนว่าจะเป็นในทิศทางใดอีกครั้ง

หวัง SET INDEX ขึ นแล้ว...ขึ นต่อ แนะเก็งก้าไรหุ้นมีโอกาสถูก COVER SHORT สูง

ในช่วง 4 วันท้าการที่ผ่านมา SET INDEX ปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกวันรวม 37 จุด หรือ 2.72% มาอยู่ที่ 1394.4 จุด โดยฝ่ายวิจัยฯ คาดว่ายังมี MOMENTUM ผลักดันให้ ปรับตัวขึ้นต่อได้ ด้วยแรงขับเคลื่อนจากเม็ดเงิน THAILAND ESG FUND เริ่มทยอย เข้ามา รวมถึงต่างชาติที่เริ่มสลับมาซื้อสุทธิ รวมถึงในประเทศยังเห็นความหวังการ กระตุ้นเศรษฐกิจใหญ่จาก EASY E-RECEIPT ที่รัฐจะมีการแถลงรายละเอียดวันนี้

ภายใต้ตลาดหุ้นไทยที่เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น เม็ดเงินขับเคลื่อนมีโอกาสเข้าต่อเนื่อง แต่ ฝ่ายวิจัยฯ ยังเห็นว่าปริมาณการ SHORT SALE ในเดือนนี้ยังสูงอยู่4.25 หมื่นล้าน บาท (คิดเป็นสัดส่วน 10% ของมูลค่าซื้อขาย) และยังมีหุ้นหลายตัวที่ถูก SHORT SALE ทั้งทางตรง บวกกับ SHORT SALE ผ่าน NVDR ปริมาณมากเกิน 10% ของมูลค่าซื้อขายในเดือนนี้ ซึ่งน่าจะมีโอกาสถูก COVER SHORT ให้ฟื้นขึ้นมาแรงได้

แนะน้าเก็งก้าไรหุ้นพื้นฐานดีมีโอกาสถูก COVER SHORT สูงในช่วงโค้งสุดท้ายของปี อย่าง CPALL, AOT (BK:AOT), CPN, BH, GULF, IVL, GPSC, TOP, SAWAD, IVL, SCGP เป็นต้น

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย