🟢 ตอนนี้ตลาดกำลังทะยานขึ้น สมาชิกผู้ใช้บริการของเรากว่า 120K คน ต่างรู้ดีว่าควรทำอย่างไร คุณก็สามารถรู้ได้เช่นกันรับส่วนลด 40%

ความเสี่ยงลดระดับลงต่อเนื่อง 

เผยแพร่ 17/11/2566 09:26

เรายังคงชี้ให้เห็นภาพระดับความเสี่ยงในตลาดการเงินที่ลดระดับลง หลังจากที่ ทิศทางเงินเฟ้ออยู่ในขาลงชัดเจน และยังมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากราคาน้ำมันใน ตลาดโลกที่กำลังปรับลดลง ภาวะดังกล่าวส่งผลทำให้วัฎจักรขาขึ้นยุติลง ซึ่งด้วย ปัจจัยแวดล้อมดังกล่าวทำให้กลไกอัตราแลกเปลี่ยนของเงินสกุลต่างๆ ลดความ ผันผวนลง สภาวะที่เกิดขึ้นน่าจะทำให้ทิศทางาของFUND FLOWมีโอกาสไหลเข้า สู่สินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น สำหรับตลาดหุ้นบ้านเรา มีแรงสนับสนุนทางบวกหลาย เรื่อง เริ่มจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่จะเห็นชัดในงวด 4Q66 เนื่องจากมี มาตรการกระตุ้นหลายตัวเข้ามาทำงาน และยังจะมีความต่อเนื่องในช่วง 1H67 ส่วนกำไรบริษัทจดทะเบียน ปี 2566 กลับมาอยู่เหนือช่วงก่อน COVID-19 และใน ปี 2567 น่าจะโต 12.64% ส่งผลทำให้ VALUATION อยู่ในระดับที่น่าดึงดูด ภาพรวมเชื่อว่าความเสี่ยงลดลง เปิดช่องให้SET INDEX มีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อ

ระดับความเสี่ยงของ SET INDEX ลดลง ทั้งในมุมปัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐาน และ VALUATION ของตลาด เชื่อว่าFUND FLOW จากกลุ่มต่างๆ น่าจะไหลเข้า วันนี้ ประเมินกรอบ 1405-1420 จุด TOP PICK เลือก GULF, PTTGC และ SCGP

ตลาดการเงินยังนิ่งจากปัจจัยรายวัน

ภาพรวมตลาดการเงินมีความนิ่งมากขึ้น โดยวานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรป ปิดตัว ราว -1.4% ถึง +0.2% ขณะที่ BOND YIELD สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงราว -1.5% ถึง - 2.0% บนความคาดหวังว่า FED จะหยุดขึ้นดอกเบี้ย

สำหรับปัจจัยล่าสุดที่เข้ามาหนุนให้ FED จบรอบขาขึ้นดอกเบี้ย อาทิ

• เงินเฟ้อสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัวลง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะราคาน้ำมันร่วงลง ต่อเนื่อง ซึ่งหากนับตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย. ราคาน้ำมับดิบ WTI ดิ่งไปแล้วกว่า -9.8%MTD ขณะที่วานนี้ -4.7% หลัง EIA เผยน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้มากที่ 1.8 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 26 พ.ย. นี้ รอติดตามการประชุม OPEC+ เพื่อจับทิศทางราคา น้ำมันในช่วงถัดไป

• ภาคแรงงานสหรัฐฯ ส่งสัญญาณอ่อนแอ โดยวานนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐ เผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานอยู่ที่ 231,000 ราย ซึ่งสูงกว่าที่ตลาด คาดที่ 218,000 ราย และยังเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน อีกทั้งตัวเลขผู้ ยื่นขอสวัสดิการว่างงานสะสมยังพุ่งสูงสุดในรอบ 2 ปี

สรุป ภาพรวมตลาดการเงินมีความนิ่งมากขึ้น ขณะที่ BOND YIELD สหรัฐฯ ลดลง ต่อเนื่อง บนความคาดหวังว่า FED จะหยุดขึ้นดอกเบี้ย โดยมีปัจจัยหนุนล่าสุด อาทิ เงินเฟ้อสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัวลงจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลง รวมถึงภาค แรงงานสหรัฐฯ ส่งสัญญาณอ่อนแอ

แนะนำหุ้นรับกระแส BOND YIELD สหรัฐปรับลง อาทิ TIDLOR, MTC, HANA, KCE, SIRI, EA เป็นต้น และหุ้นรัมมือราคา COMMODITY ลงแรง อาทิ BGRIM, GPSC, GULF, TASCO, SCCC, SCC, PTTGC, MINT เป็นต้น

ระยะถัดไปค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่า ทั้งจากการดึงดูดเม็ดเงิน ลงทุนทางตรง และวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นที่จบรอบ

ปัจจุบันค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.1 บาท/หุ้น (อ่อนค่ามา 4.2% ในปีนี้) และถือว่าอยู่ในโซน อ่อนค่าเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยเงินบาทตลอด 8 ปี ที่ 33.2 บาท/หุ้น แต่ฝ่ายวิจัยฯ มี มุมมองว่าค่าเงินบาทมีโอกาสพลิกกลับมาแข็งค่า จาก 2 ปัจจัยสำคัญดังนี้

1. นักลงทุนต่างชาติมีโอกาสกลับมาลงทุนทางตรงเพิ่มขึ้นกดดันบาทให้แข็งค่า ขึ้น จากทิศทางใน 9 เดือนแรกของปี 2566 มีเงินลงทุน 415,323 ล้านบาท (913 โครงการ) สูงขึ้นร้อยละ 44.8 จากปีก่อน รวมถึงรัฐบาลเตรียม ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนเชิงรุก 4 ปี (พ.ศ. 2567 –2570) อีก ทั้งล่าสุดนายกฯ ได้เดินทางไปประชุมที APEC และประกาศความร่วมมือทง ยุทธศาสตร์ กับ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านไอที “GOOGLE” และ “MICROSOFT” ในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางด้านดิจิทัลที่สำคัญ ทั้ง CLOUD, AI, DATA CENTER โดยดึงเม็ดเงินเข้าประเทศกว่า 2 แสนล้านบาท ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าจะช่วยให้การทุนทางตรงและการลงทุนทางอ้อมมีทิศทางที่ดี ขึ้นเรื่อยๆ แนะนำ 5 หุ้นเด่นรับกระแสดังกล่าว WHA, AMATA, INSET, AIT, ITEL, BE8, BBIK ที่สำคัญสังเกตได้ว่าในช่วงภาวะปกติเวลาเม็ดเงินลงทุน ทางตรงเข้ามาในประเทศมากขึ้นส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

2. วัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นจบลง บากก็มีโอกาสพลิกกลับมาแข็งค่า โดยตลาด คาดว่า FED มีโอกาสลดดอกเบี้ยลง -1% ในปี 2567 หรือจาก 5.5% เหลือ 4.5% และเวลาดอกเบี้ยสหรัฐปรับตัวลงเร็ว บาทก็มีโอกาสพลิกกลับมาแข็ง ค่าได้เร็วเช่นกัน

สรุปทั้งการลงทุนทางตรงจากต่างชาติที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น บวกกับวัฏจักรดอกเบี้ยขา ขึ้นที่จบลง มีโอกาสหนุนให้ค่าเงินบาทมีทิศทางที่แข็งค่าขึ้นได้ ขณะเดียวกันตลาดหุ้น ไทย มี VALUATION ที่น่าสนใจ โดยมี P/E 67F 14.2 เท่า, PBV 1.3 เท่า (ต่ำ 2SD) รวมถึง EPS GROWTH 67F กว่า 12.6% น่าจะดึงดูดเม็ดดเงินต่างชาติเข้ามาลงทุน เพิ่มเติมได้เช่นกัน หนุนให้นักลงทุนต่างชาติมีโอกาสได้กำไรทั้งจากการปรับตัวเพิ่มขึ้น ของตลาดหุ้น รวมกับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนอีกทางหนึ่ง

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย