ยังคงประเมินว่าในช่วงครึ่งเดือนแรก ตลาดหุ้นทั่วโลกมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในเกณฑ์ที่ดี

Beware of oil-led inflation

• SET: ยังคงประเมินว่าในช่วงครึ่งเดือนแรก ตลาดหุ้นทั่วโลกมีแนวโน้มทรง ตัวอยู่ในเกณฑ์ที่ดีได้อยู่ ร้บความคาดหวังที่ Fed จะคงดอกเบี้ยในการ ประชุมวันที่ 19-20 ก.ย.นี้ ก่อนที่ต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้นหลังจากนั้น และฮ่องกง ได้แก่ สําหรับปัจจัยที่น่าสนใจเข้าวันนี้ได้แก่การปรับตัวสูงขึ้นของตลาดหุ้นจีน รับปัจจัยเชิงบวกทางฝั่งนโยบายภาคอสังหาฯเพิ่มเติมช่วง ปลายสัปดาห์ก่อน เช่น การลดจํานวนวงเงินดาวน์สําหรับผู้ซื่อบ้าน (เหลือ 20% สําหรับบ้านใหม่ และ 30% สําหรับบ้านหลังที่สอง) และการ ผ่อนคลายกฎระเบียบสินเชื่อ Mortgage ตามเมืองใหญ่ต่างๆ ประเด็น เหล่านี้อาจส่งผลบวกด้าน Sentiment มายังตลาดหุ้นเอเชียเช้าวันนี้ได้

• Strategy: ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของ SET เดือนนี้จะมีแนวต้านอยู่ ทีระดับ ตวิทยา 1600 จุด โดยมีกรอบแนวรับอยู่ที่บริเวณ 1500-1520 จุด ในเชิงกลยุทธ์ แนะนักลงทุนหาจังหวะทยอย Lock profit ในช่วงครึ่งเดือน แรก และเข้าสู่โหมด Wait & See ในช่วงครึ่งเดือนหลัง ทั้งนี้ หากต้องการ เข้าสะสมหุ้นจริงในช่วงนี้ มองกลุ่มหุ้น Laggard ที่น่าสนใจ 2 กลุ่มเดิม

1) กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ (MEDIA) อาทิ PLANB, VGI, BEC, ONEE

2) ยังกลุ่ม Logistics ที่ Earnings อยู่ในช่วง High season และปัญหา Destocking ที่ลดลง อาทิ III, LEO, SJWD, WICE

• Data: สําหรับปัจจัยตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆที่น่าสนใจในสัปดาห์นี้

1) รายงานตัวเลขเงินเฟ้อของไทยประจําเดือนสิงหาคมในวันที่ 5 ก.ย. ล่าสุดตลาดคาด Headline และ Core CPI จะขยายตัวอยู่ที่ระดับ 0.70% YoY และ 0.82% YOY ตามล่าดับ

2) รายงานตัวเลขส่งออก-น่าเข้าของจีนประจําเดือนสิงหาคมในวันที่ 7 ก.ย. ซึ่งล่าสุดตลาดคาดการณ์หดตัวต่อเนื่องที่ 9.0% และ 9.4%

• NFP: ตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯเดือนส.ค.เมื่อคืนวันศุกร์ออกมา ผสมผสานอีกครั้ง โดยมีรายละเอียดดังนี้ ได้แก่ ตามล่าดับ

1) การจ้างงานนอกภาคเกษตร เพิ่มขึ้น 1.9 แสนตําแหน่ง สูงกว่าที่ตลาด คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.7 แสนตาแหน่ง

2) อัตราการว่างงานปรับสูงขึ้นเป็น 3.8% สูงกว่าที่ตลาดคาดที่ 3.5% ถือเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปี 2022

3) อัตราค่าจ้างรายชั่วโมงขยายตัว 4.3% YoY และ 0.3% MoM ใกล้เคียง กับที่ตลาดคาดการณ์ไว้

• Our take: จากตัวเลขที่ผสมผสานท่าให้ Reaction ของตลาดไม่รุนแรง มากนัก โดยนักลงทุนคงคาดการณ์การคงดอกเบี้ยในการประชุม FOMC วันที่ 19-20 ก.ย.นี้ และให้นํ้าหนักราว 35% สําหรับการขึ้นดอกเบี้ยในการ ประชุมวันที่ 31 ต.ค. - 1 พ.ย. แต่ในเวทีดังกล่าว เรายังคงคาดว่า Fed จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยได้ จาก Upside risk ทางด้านเงินเฟ้อซึ่งมี ที่มาจากราคาน้ามันเป็นสําคัญ (รายละเอียดด้านล่าง)

• Politics: ติดตามพัฒนาการของการเมืองไทย โดยเฉพาะการแถลง นโยบายของรัฐบาลต่อสภาซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 11 ก.ย.นี้ ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ออกมากล่าวว่า ในเดือนตุลาคมคาดจะเห็นการออกมาตรการพักหนี้เกษตรกรและฟรีวีซ่าได้ ส่วนความคืบหน้ามาตรการลดค่าไฟค่าน้ํามันนั้น จะมีการหารือใน รายละเอียดอีกครั้ง

บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities