September market outlook
• SET: ดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงจากกลุ่มโรงไฟฟ้าและกลุ่มโรงกลั่นเป็น สําคัญ ซึ่งเป็น 2 กลุ่มที่เราย่าเดือนว่าจะได้รับแรงกดดันแรกๆหากนโยบาย ลดราคาพลังงานของภาครัฐทั้งราคาน้ามันดีเซลและค่าไฟเกิดขึ้นได้จริง เนื่องจากเป็นสิ่งที่ตลาดยังไม่ได้ Price in มากนักมาก่อนหน้านี้ ส่วนปัจจัย เมื่อคืนได้แก่การที่เงิน USD รีบาวด์เล็กน้อยจากตัวเลข Personal spending ที่ออกมาแข็งแกร่งกว่าคาด ในขณะที่ Core PCE ออกมาเท่ากับ ที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ทางด้านราคาน้ามัน ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง บานร้มความ คาดหวังที่ว่ารัสเซียจะขยายเวลาลดการส่งออกน้ามัน และซาอุฯจะขยาย เวลาลดกําลังการผลิตแบบสมัครใจ ออกไปจนถึงเดือนตุลาคมนี้ ปัจจัย ดังกล่าวอาจพอหาให้กลุ่ม Upstream เช่น PTTEP ช่วยพยุงดัชนี SET ในวันนี้ได้บ้าง ทั้งนี้ ประเมินกลุ่ม Upstream จะโดดเด่นกว่า กลุ่ม Midstream เช่นโรงกลั่นในช่วงนี้ จากความไม่ชัดเจนทางด้าน นโยบายการลดราคาพลังงานในประเทศ
• Data: สําหรับรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของที่น่าสนใจเมื่อวานนี้ ได้แก่
1) ฐานเงินอย่างกว้าง (M2) ของไทยขยายตัวเพียง 1.6% ในเดือนก.ค. ต่าสุดในรอบ 20 ปีอย่างต่อเนื่อง ที่แย่ไปกว่านั้น เป็นการหดตัว MoM 4 เดือนติดต่อกันเข้าไปแล้ว ซึ่งเป็นภาพที่ไม่เคยเกิดขึ้นนับตั้งแต่ปี 2014 บ่งชี้ถึงสภาพคล่องภายในที่หดหาย
2) ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยเดือนก.ค.พลิกขาดดุล 440 ล้านเหรียญฯ เทียบกับ ตลาดคาดว่าจะเกินดุล 125 ล้านเหรียญฯ ท่าให้ช่วงบ่าย วานนี้เงินบาทไหลอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง
• Jobs report: ติดตามตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯเดือนส.ค.ในคืนนี้ ได้แก่
1) การจ้างงานนอกภาคเกษตร ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 1.7 แสนตําแหน่ง ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อน
2) อัตราการว่างงาน ตลาดคาด 3.5% เท่ากับเดือนก่อน
3) อัตราค่าจ้างรายชั่วโมง ตลาดคาดขยายตัว 4.3% YoY และ 0.3% MoM ใกล้เคียงเดือนก่อน
• September: สําหรับภาพตลาดหุ้นไทยในเดือนกันยายน คาดว่าในช่วงแรกดัชนีหุ้นทั่วโลกจะยังแกว่งตัวอยู่ในเกณฑ์ที่ดีได้รับความคาดหวัง ที่ Fed น่าจะมีมติคงดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันที่ 19-20 ก.ย.นี้ ก่อนที่อาจต้องใช้ความระมัดระวังหลังจากนั้น จาก Dot plots และโทนของ Fed ที่อาจออกมา Hawkish กว่าที่ตลาดคาดการณ์ ดังนั้น เราประเมิน ครึ่งเดือนแรกมีแนวโน้มที่ดัชนีจะปรับตัวดีกว่าครึ่งเดือนหลัง ประเมิน กรอบการเคลื่อนไหวของ SET จะมีแนวต้านอยู่ที่ระดับจิตวิทยา 1600 จุด โดยมีกรอบแนวรับอยู่ที่บริเวณ 1500-1520 จุด
• Strategy: ในเชิงกลยุทธ์ แนะนักลงทุนหาจังหวะทยอย Lock profit ในช่วงครึ่งเดือนแรกในกลุ่มหุ้นที่เราแนะนํา Selective มา ก่อนหน้านี้ ซึ่งเราประเมินว่าน่าจะยังเป็นช่วงที่สินทรัพย์เสียงทั่วโลกถูก ประคับประคองได้อยู่ ส่วนในช่วงครึ่งเดือนหลัง แนะเข้าสู่โหมด Wait & See เพื่อป้องกันความผิดหวังที่อาจเกิดขึ้นจากการประชุม FOMC
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities