🔥 กลยุทธ์การหุ้นคัดเลือกโดย AI ของเรา หุ้นเทคฯ ยักษ์ใหญ่ ทะยานขึ้น +7.1% ในเดือน พฤษภาคม เข้าเทรดขณะหุ้นกำลังมาแรงรับส่วนลด 40%

ดอกเบี้ยเริ่มนิ่ง ... หุ้นไทยเริ่มวิ่ง?

เผยแพร่ 27/07/2566 10:05
SETI
-

Fed ปรับเพิ่มดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 5.5% ตามคาด และเชื่อว่าในช่วง 5 เดือนที่เหลือของปีนี้ จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม ส่วนความกังวลเรื่อง Recession ลดลง ภาวะดังกล่าวน่าจะทำให้ Fund Flow ไหลเข้าสินทรัพย์เสียง สำหรับตลาดหุ้นบ้านเราจะได้รับประโยชน์จากสถานการณ์ดังกล่าว ได้มากน้อย เพียงใด ขึ้นอยู่กับความพร้อมของปัจจัยพื้นฐานภายใประเทศ ทั้งนี้ล่าสุด กระทรวงการคลังได้ปรับคาดการณ์GDP Growth ปี 2566 มาที่ 3.5% จากภาพ การส่งออกที่ชะลอตัว และนักท่องเที่ยวจีนที่กลับมาน้อยกว่าที่คาด ส่วนประเด็น ทางการเมือง กำหนดการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีรอบถัดไป จะเกิดขึ้นหลังจาก ที่มีความชัดเจน ศาลรัฐธรรมนูญว่าจะรับกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นให้ พิจารณาการใช้ข้อบังคับการประชุมที่ 41 กับการโหวตเลือกนายกฯ หรือไม่

ประเมินว่า SET Index น่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1520 –1545 จุด โดยยังต้อง รอติดตามสถานการณ์การเมืองต่อเนื่อง สำหรับหุ้น Top Pick วันนี้เลือก CRC, DOHOME และ GPSC

วัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นใกล้จบในปีนี้ ?

วานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวในกรอบแคบราว-0.1% ถึง +0.7% หลัง Fed มีมติขึ้น อัตราดอกเบี้ย 25bps. สู่ระดับ 5.25% - 5.5% ตามที่ตลาดคาด สูงสุดในรอบ 22 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2001โดยการกล่าวสุนทรพจน์ของคุณเจอโรม พาวเวล ปธ. Fed สรุป ใจความสำคัญได้ 4 ประเด็นหลัก ดังนี้

1. ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่จากการดำเนิน นโยบายการเงินที่เข้มงวดในช่วงที่ผ่านมา

2. ยังคงยืนยันการปรับลดเงินเฟ้อสู่ระดับกรอบเป้าหมายที่ 2%

3. การขึ้นดอกเบี้ยครั้งถัดไป ขึ้นอยู่กับข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจ และมีโอกาสปรับ ขึ้นดอกเบี้ยต่อหากเศรษฐกิจยังแข็งแกร่ง

4. ยืนยันว่าจะไม่มีการลดดอกเบี้ยในปีนี้

และเมื่อพิจารณาเงินเฟ้อที่ชะลอตัว จนทำให้ Real interest rate พลิกกลับมาเป็นบวก เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งชี้ได้ว่า วัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นในสหรัฐ เข้าใกล้ปลายทางมาก ขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ผลการสำรวจของ Fed Watch Tool พบว่า ในการประชุมรอบเดือน ก.ค. เป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายของปีนี้ และ Fed อาจปรับลดดอกเบี้ยลง 25bps. สู่ระดับ 5.25% ในการประชุมรอบเดือน ก.ย.

ขณะเดียวกันอาจเห็น Fed คงดอกเบี้ยไว้ระยะหนึ่งในช่วงถัดไป ซึ่งจากสถิติในอดีต พบว่า เม็ดเงินมีแนวโน้มไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นในช่วงดอกเบี้ยทรงตัว

ส่วนในวันที่ 3 ส.ค. รอติดตามการประชุม กนง. โดยฝ่ายวิจัยฯ ประเมินว่าเงินเฟ้อทั่วไป ที่มีแนวโน้มลดลงเด่นกว่าหลายประเทศ และต่ำกว่ากรอบเป้าหมายของ ธปท. ที่ 1-3% จะช่วยหนุนให้ กนง. มีโอกาสชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า อีกทั้งยัง สะท้อนได้จาก Bond Yield ของไทยระยะสั้น อายุ 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี ใกล้เคียง หรือน้อยกว่าดอกเบี้ยนโยบาย (ช่วงก่อนหน้า Bond Yield สูงกว่าดอกเบี้ยนโยบาย ก่อนการประชุม กนง. ที่มีการประกาศขึ้นดอกเบี้ยเสมอ) ซึ่ง ณ ดอกเบี้ยนโยบายที่ 2% จะส่งผลให้ SET Index มีแนวต้านทางพื้นฐานแรกอยู่ที่ 1542 จุด (ภายใต้ MEYG = 4%)

สรุป วัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นในสหรัฐ เข้าใกล้ปลายทางมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ระยะถัดไป อาจเห็น Fed คงดอกเบี้ยไว้ระยะหนึ่ง ซึ่งมักเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนให้เม็ดเงินไหลเข้าสู่ สินทรัพย์ ส่วนในบ้านเรารอติดตามการประชุม กนง. ในวันที่ 2 ส.ค.

ประเด็นการเมืองเห็นอาจเห็นความคืบหน้าสัปดาห์ถัดไป

สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า 3 ส.ค.66 คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีการ นัดประชุมเพื่อพิจารณาว่าจะรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินไว้วินิจฉัยหรือไม่ กรณี รัฐสภาที่รัฐสภามีการใช้ข้อบังคับการประชุมที่ 41 ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ทำให้มี มติไม่เห็นชอบกับการเสนอชื่อ Candidate จากพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีใน ครั้งที่ 2 ว่าเป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ สำหรับผลการวินิจฉัย ของศาลรัฐธรรมนูญในเบื้องต้น คาดออกมาได้ 3 แนวทาง ดังนี้

• ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง - ประธานรัฐสภาอาจกำหนดวันโหวตนายกฯ

ครั้งต่อไป อยู่ในช่วง 9 -10 ส.ค.66

• ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง แต่ไม่มีคำสั่งให้ชะลอการโหวตนายกฯ – คาดว่ารํฐ

สภา น่าจะรอผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อน ทำให้วันโหวตนายกฯ

ถูกเลื่อนออกไปก่อนจนกว่าศาลฯ จะมีคำวินิจฉัย

• ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง และมีคำสั่งให้ชะลอการโหวตนายกรัฐมนตรีไว้

ก่อน – ผลลัพธ์เหมือนแนวทางที่ 2

ไม่ว่าจะเกิดกรณีไหนก็ตาม คาดใช้ศาลใช้เวลาพิจารณาไม่น่าเกิน 1 เดือน ดังนั้นคาด เห็นรัฐบาลชุดใหม่ช่วง ส.ค.-ก.ย.66 โดยฝ่ายวิจัยฯ คาดการณ์ Scenario ที่สามารถ เกิดขึ้นได้ในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ มีดังนี้

• พรรคเพื่อไทย จับมือพรรคร่วมรัฐบาลเดิมทั้ง 8 พรรค และรอจน สว.

หมดอายุในเดือน พ.ค.67 (เกิดสุญญากาศทางการเมืองราว 10 เดือน)

• พรรคเพื่อไทย จับมือพรรคร่วมรัฐบาลใหม่ โดยไม่มีพรรคก้าวไกล และยังเป็น

รัฐบาลเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร์

แนวโน้มของสถานการณ์ปัจจุบัน มีความเป็นไปได้ทั้ง 2 กรณี แต่ที่ฝ่ายวิจัยฯ กังวล คือ กรณีแรก เนื่องจาก จะทำให้เกิดสุญญากาศของรัฐบาล และ สุญญากาศของ งบประมาณ โดยปกติแล้วงบประมาณรายจ่ายปี 2567จะถูกเบิกจ่ายช่วง 1 ต.ค. 2566 – 30 ก.ย.2567 ซึ่งหากเกิดสุญญากาศจนถึง พ.ค.67 จะทำให้ช่วงเวลาที่จะใช้ พิจารณางบประมาณสั้นลง และ ใช้ประโยชน์ได้ไม่เท่าที่ควร

สรุป ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินภาพการเมืองในช่วงสั้น มีโอกาสเห็นสัญญาณบวกหากศาล รัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง และนำไปสู่กระบวนการโหวตนายกฯ ตามปกติ ซึ่งต้องดูการ จัดตั้งรัฐบาลภายใต้แกนนำพรรคเพื่อไทย ว่าจะมีพรรคใดร่วมรัฐบาลบ้าง ซึ่งต้อง ติดตามอย่างใกล้ชิด โดยวันนี้มองกรอบการเคลื่อนไหวของ SET Index 1520-1540 จุด

กำไรบริษัทจดทะเบียน 2Q66 น่าจะลดลงทั้ง YoY และ QoQ แต่ น่าจะเห็น Growth กลับมาใน 2H66

กำไรงวด 2Q66 ของบริษัทจดทะเบียน รายงานออกมาแล้ว 16 บริษัท Market Cap 4.8% มีกำไรสุทธิรวม 2.7 หมื่นล้านบาท (+4QoQ / +23%YoY) ซึ่งหากพิจารณาจาก Bloomberg จะเห็นได้ว่า กำไร 2Q66 มี Positive Surprise หรือสูงกว่าคาดการณ์ เล็กน้อยราว 0.36%

และฝ่ายวิจัยฯ ทำการรวบรวมกำไรงวด 2Q66 ที่ประกาศออกมาแล้ว และคาดการณ์ กำไร 2Q66 ของฝ่ายวิจัยฯ 43 บริษัท มีกำไรรวม 1.1 แสนล้านบาท Market Cap 34% (-17%QoQ / -34%YoY) ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ไม่ดีต่อกำไรงวด 2Q66 และมี โอกาสที่ EPS66F ปี 2566 อาจต่ำกว่าประมาณการที่ฝ่ายวิจัยฯคาดไว้ที่91.8 บาท/ หุ้น

อีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเริ่มเห็น Downside ของประมาณการกำไรปีนี้ คือ ประมาณ การกำไรบริษัทจดทะเบียนปี 2566 ของ Consensus ปรับลดลงเรื่อยๆ โดนต้นปีอยู่ที่ 106 บาท/หุ้น ต้นเดือน ก.ค.66 อยู่ที่ระดับ 93.9 บาท/หุ้น และล่าสุดอยู่ที่ระดับ 92.8 บาท/หุ้น

ประเด็นดังกล่าว น่าจะเริ่มเห็นความจริงที่ชัดเจนขึ้นในครึ่งแรกของเดือน ส.ค. นี้ ที่เริ่ม เข้าสู่ฤดูกาลแห่งประกาศงบ 2Q66 ที่แท้จริง ซึ่งต้องติดตามว่าจะทำให้ทิศทางกำไร 2Q66 จะเป็นเช่นไร และสร้าง Downside ต่อประมาณการกำไรปี 2566 มากน้อยเพียง ไหน

อย่างไรก็ตามภาพรวมผลประกอบการช่วง 2H66 คาดจะเห็นการเติบโตที่ดีขึ้น จาก ฐานกำไรที่ต่ำ 2H65 ที่ต่ำเพียง 4.04 แสนล้านบาท ปกติอยู่ในโซน 4.5 – 5 แสนล้าน บาท (แรงกดดันหลักๆ เกิดจาก ฐานกำไรงวด 4Q65 ต่ำเหลือเพียง 1.72 แสนล้านบาท)

นอกจากนี้ยังคาดหวังแนวโน้มกำไรบริษัทจดทะเบียนช่วง 2H66 เติบโต HoH จาก แนวโน้มเศรษฐกิจที่มีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง ทั้งจากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น, การเร่ง กระตุ้นเศรษฐกิจของจีน และการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศจากรัฐบาลใหม่

สรุปแนวโน้มกำไรบริษัทจดทะเบียนงวด 2Q66 มีโอกาสลดลงทั้ง QoQ และ YoY แต่ น่าจะเห็น Growth กลับมาใน 2H66 ประเมินว่ายังไม่เห็น Downside จากประมาณการ ของ ASPS Research

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำหุ้น 3 ธีม

1. หุ้น China Play คือ ERW, SCGP, PTTEP, SCC, CPF, HANA

2. หุ้น Election Pay คือ GULF, GPSC, CK, STEC, SIRI, SC, ADVANC, PR9

3. หุ้น Earning Momentum Pay คือ PLANB, SNNP, JMT

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย