🔥 ฟีเจอร์การคัดเลือกหุ้นระดับพรีเมียมโดย AI จาก InvestingPro ตอนนี้ลดสูงสุดถึง 50% รับส่วนลด

ราคาทองคําทางเทคนิคยังคงเป็นแนวโน้มทิศทางขาลง

เผยแพร่ 25/05/2566 12:06
GC
-

ทิศทางราคาทองคํา

ราคาทองคํายังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยลงมาทดสอบจุดตํ่าสุดเดิมในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนหน้าที่บริเวณ 1,955 เหรียญ ก่อนที่จะดีด กลับขึ้นไปทําจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,985 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิม และเผชิญแรงเทขายทํากําไร ซึ่งแสดงให้เห็นว่าราคาทองคําไม่ สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยราย 50 วันได้ และปรับร่วงลงมาใหม่อีกครั้ง ท่ามกลางตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยของเฟด และการเจรจาขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ อย่างไรก็ตาม การเจรจาขยายเพดานหนี้ไม่ ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดเท่าไรนัก โดยตลาดให้ความสนใจ และขานรับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาดการณ์ บ่งชี้ถึง ภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงแข็งแกร่ง ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3.744% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 4.382% โดยที่ ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ -0.64% บ่งชี้ว่าตลาดขายพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นมากขึ้น และไปลงทุนหุ้นกู้ระยะสั้นแทน ภาพรวมตลาดการเงินมีความผันผวนค่อนข้างมาก สําหรับวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สําคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Prelim GDP q/q ซึ่งคาดการณ์ว่าจะออกมาทรงตัวใกล้เคียงเดิม ขณะที่ Unemployment Claims คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่ม ขึ้นจากเดิม ซึ่งหากตัวเลขเศรษฐกิจดังกล่าวออกมาตามที่คาดการณ์ คาดว่าดัชนีดอลลาร์ยังคงแข็งค่าอยู่ โดยดัชนีดอลลาร์เมื่อวานนี้ เปิดที่ 103.54 จุด และเคลื่อนตัวในกรอบระหว่าง 103.35-103.91 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ 104.02 จุด โดยดัชนีดอลลาร์มีแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย ราย 50 วัน ที่ระดับ 102.6 จุด และเส้นค่าเฉลี่ยราย 100 วัน ที่ระดับ 103.2 จุด ซึ่งหากดัชนีดอลลาร์ยืนเหนือระดับ 103.6 จุดต่อเนื่องไป อีกสัปดาห์ อาจมีโอกาสแข็งค่าขึ้นได้ต่อ ขณะเดียวกันหลังจากที่ค่าเงินบาททะลุ 34.50 บาทต่อดอลลาร์ขึ้นไปในช่วง 3 วัน ค่าเงินบาทก็ ปรับตัวอ่อนค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเช้านี้ค่าเงินบาทขึ้นมาทดสอบที่ 34.75 บาทต่อดอลลาร์ ภาพรวมค่าเงินบาทอยู่ในลักษณะแนวโน้มที่ จะอ่อนค่าขึ้น โดยมีแนวรับที่ 34.60 บาทต่อดอลลาร์ และแนวต้านที่ 35.24 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิมเมื่อเดือนก.พ. สําหรับใน ส่วนของราคาทองไทยยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ Sideways ระหว่าง 31,900-32,250 บาทต่อบาททองคํา จากการอ่อนค่าของค่าเงิน บาทแม้ว่าราคาทองคําตลาดโลกจะปรับตัวลดลงก็ตาม นอกจากนี้ยังมีสิ่งนักลงทุนต้องจับตา คือ การที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจ จะออกเงินยูโรดิจิทัลได้ภายใน 3 หรือ 4 ปี เพื่อทําให้เงินยูโรดิจิทัลสามารถทํางานร่วมกันได้กับสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางอื่นๆ ซึ่ง อาจส่งผลให้ธนาคารกลางทั่วโลกหันมาใช้สกุลเงินดิจิทัลแทน

วิเคราะห์ราคาทองคําทางเทคนิค

ราคาทองคําทางเทคนิคยังคงเป็นแนวโน้มทิศทางขาลง หลังจากที่ราคาทองคําไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านสําคัญ ที่ระดับ 1,980 เหรียญได้ ทําให้ในระยะสั้นแนวโน้มราคาทองคําเป็นขาลง โดยหากราคาทองคําหลุดระดับ 1,954 เหรียญลงมา จะมีโอกาสปรับตัวลงได้ต่อ โดยราคาทองคําจะมีแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,939 เหรียญ และแนวรับระยะกลางอยู่ที่ 1,910 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับ Fibonacci Retracement ที่ 61.70% สําหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคําจะเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแนวรับที่ 1,940 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,975 เหรียญ ดังนั้นจึงแนะนํานักลงทุนให้มีความระมัดระวังและบริหารพอร์ตให้ดี ขณะที่ราคาทอง ไทยได้รับความสนใจ จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ซึ่งส่งผลให้ราคาทองไทยสามารถทรงตัวได้ โดยราคาทองไทยจะมีแนวรับเส้น ค่าเฉลี่ย 50 วันที่ระดับ 32,000 บาทต่อบาททองคํา และแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 30 วันที่ระดับ 32,200 บาทต่อบาททองคํา ซึ่ง ภาพรวมราคาทองไทยยังคงเคลื่อนตัวในกรอบ Sideways และอาจจะปรับตัวลดลงไม่มากนัก เนื่องจากค่าเงินบาทยังมี โอกาสอ่อนค่าไปถึง 35 บาทต่อดอลลาร์ จากประเด็นการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งหากไม่เป็นไปตามผลการเลือกตั้งของประชาชน อาจส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าอย่างรุนแรง

บทวิเคราะห์ข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯเท่านั้น และเป็นการวิเคราะห์โดยยึดหลักตาม Technical Analysis ทั้งนี้ บริษัทฯไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น นักลงทุนทุกท่านโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นโดย สถาบันการลงทุนทองคำ แม่ทองสุก MTS สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 0 2770 7788 หรือทางเว็บไซต์ mtsgold.co.th

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย