หลังจบการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ ภาพของภูมิทัศน์ทางการเมืองไทยก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปไปทาง “ขั้วตรงข้าม” พรรคก้าวไกลได้รับคะแนนเสียงอันดับหนึ่งถึงว่า 150 เสียง ตามมาด้วยพรรคเพื่อไทยที่พร้อมทำหน้าที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อประกอบกับพรรคเล็กอีกหลายพรรค ทำให้ทีมพรรคฝ่ายค้านเดิมมีแนวโน้มที่จะได้บริหารประเทศต่อไปอีก 4 ปีข้างหน้า ด้วยจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มากถึงกว่า 300 เสียง
ตลาดหุ้นไทย SET ในวันจันทร์ หลังได้รับข้อมูลดังกล่าว ปรับตัวลงอย่างรุนแรงถึง 20 จุด เนื่องจากหุ้นธีมการเมือง หรือหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเมืองหลายตัวจะได้รับผลกระทบจากนโยบายของรัฐบาลใหม่ที่หาเสียงไว้โดยตรง โดยหุ้นสามกลุ่มหลักๆ ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงคือ หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า หุ้นการสื่อสาร และหุ้นกลุ่มค้าปลีก
ในบทความนี้ เราจะใช้เครื่องมือของ InvestingPro เพื่อจับตาดูราคาหุ้นบางตัวในตลาดที่ได้รับผลกระทบจากการเมือง หลังพื้นฐานหุ้นอาจเปลี่ยนได้ในอนาคต
กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (BK:GULF)
หุ้นตัวแรกไม่พูดถึงไม่ได้ เนื่องจากเป็นจุดสนใจของประชาชน และอยู่ในนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองแทบทุกพรรค คือ กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านพลังงาน โดยบริษัทผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
หุ้นเปิดตัวในวันจันทร์ลดลงกว่า 10% ในทันที และปิดราคาในวันจันทร์ลดลง -8.57% โดยพรรคก้าวไกลมีนโยบายสะสางโครงสร้างของการจ่ายชดเชยค่าผลิตไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าจะส่งผลโดยตรงต่อกำไรของ GULF ที่แม้ไตรมาสแรกโชว์กำไร 3.8 พันล้าน โต 13.4% ยอดขายไฟฟ้าพุ่ง และมีปรับขึ้น Ft
ที่มา: investingPro
ปัจจุบัน GULF มี Upside 2.3% ซึ่งเมื่อดูจากพื้นฐานที่อาจจะเปลี่ยนไปในอนาคต ราคาอาจปรับตัวลงได้อีกจากปัจจัยทางการเมืองที่กล่าวมาข้างต้น อย่างไรก็ตาม เราควรจับตาดูการลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นความเคลื่อนไหวต่อไปของหุ้นกลุ่มพลังงาน
ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (BK:TRUE)
ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งปัจจุบันได้มีการควบรวมกับ DTAC ตกเป็นเป้าโจมตีจากพรรคการเมือง เนื่องจากมีความกังวลว่าจะขาดการแข่งขันในตลาดผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตโทรศัพท์มือถือ ซึ่งในขณะนี้เหลือเพียง 2 เจ้าใหญ่ พรรคก้าวไกลในขณะที่เป็นฝ่ายค้านมีการอภิปรายไม่เห็นชอบหลายครั้ง ทำให้ผู้ถือหุ้นเกิดความวิตกเกี่ยวกับอนาคตของบริษัทสื่อสาร
ที่มา: investingPro
ในวันจันทร์ หุ้น TRUE ปรับตัวลงลด 1.96% เมื่อดูมูลค่ายุติธรรม หุ้นทรูมีขาลง -10.4% โดยมีสุขภาพทางการเงิน “ผลงานพอใช้” เนื่องจากมีการดำเนินธุรกิจโดยที่มีภาระหนี้สินที่มาก
ซีพี ออลล์ จำกัด (BK:CPALL)
ซีพี ออลล์ จำกัด ถือเป็นหุ้นที่ตกเป็นเป้าทางการเมืองมาโดยตลอด สำหรับพรรคการเมืองฝ่ายเสรีนิยม CPALL ถือเป็น “กลุ่มทุนผูกขาด” ด้วยขนาดธุรกิจที่ใหญ่ เมื่อเทียบกับบริษัทคู่แข่งในเซคเตอร์เดียวกัน ทำให้อาจได้รับผลกระทบหลายปัจจัยจากนโยบายของพรรคการเมือง
ที่มา: investingPro
หากดูจากนโยบายของพรรคก้าวไกลแล้ว มีนโยบายขึ้นค่าแรงเป็น 450 บาทในปีแรก และนโยบายหวยใบเสร็จ ซึ่งช่วยหนุนกิจการธุรกิจขนาดเล็ก(ในขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดว่ากลุ่มทุนขนาดใหญ่จะได้รับผลประโยชน์จากนโยบายหวยใบเสร็จหรือไม่) ทั้งสองนโยบายนี้อาจเป็นปัจจัยลบโดยตรงต่อหุ้น CPALL เนื่องจากต้นทุนค่าแรงมีการปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับความสามารถแข่งขันที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจรายย่อยอื่น ๆ
ที่มา: investingPro
ราคาหุ้นมีการย่อตัวลงเล็กน้อย -1.5% ในวันจันทร์ มูลค่ายุติธรรมจาก InvestingPro แสดงว่าหุ้นมี Downside -10.8% แต่โดยรวมบริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลได้อย่างต่อเนื่อง นักลงทุนบางส่วนอาจสนใจเก็บสะสมหุ้นในช่วงขาลง
Disclaimer: ข้อมูลที่ปรากฏในบทความนี้เป็นเพียงผลลัพธ์ที่นำเสนอด้วยเครื่องมือของ InvestingPro ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน