BoJ & STARK in focus
• SET: คาด SETIndex ปรับตัวสูงขึ้นตาม Sentiment ตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึง ปัจจัยราคาน้ามันดิบที่เริ่มตั้งหลักได้ มองการปรับตัวลงของดัชนี SET เมื่อวานนี้ ไม่ได้น่ากังวลใจมากนัก เนื่องจากมีสาเหตุหลักมาจากหุ้น DELTA เพียงตัวเดียว สําหรับตัวเลข GDP สหรัฐฯเมื่อคืนนี้ที่ออกมานั้น ถือว่าต่ํากว่าที่ตลาดคาด พอสมควร ท่าให้โอกาสที่ Fed จะมีการขึ้นดอกเบี้ยอีกเพียงแค่ครั้งเดียว (One & Done) มีสูงขึ้น สร้างบรรยากาศการลงทุนที่ผ่อนคลายไปได้เปราะหนึ่ง ในเชิงกล ยุทธ์ ยังคงแนะน่าถือครองหุ้นที่ได้เข้าสะสมเพิ่มต่อไป โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร โรงพยาบาล และค้าปลีก เพื่อรอรับการปรับตัวที่ดีของดัชนีในช่วงครึ่งแรกของ เดือนพ.ค.
• Factors: สําหรับปัจจัยวันนี้ แนะน่าติดตามผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (Bol) ซึ่งเช้านี้มีกระแสข่าวว่าทาง Bol อาจมีการปรับเปลี่ยนการส่งสัญญาณ Forward guidance แต่น่าจะยังคงในส่วนของมาตรการ Yield Curve Control (YCC) ไว้ ส่วนปัจจัยภายในแนะน่าติดตามการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ STARK และ รายงานตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนของธปท.
• ITC: กําไรสุทธิ 1Q23 ออกมาที่ระดับ 425 ล้านบาท ค่ากว่าที่เราคาดไว้ที่ระดับ 555 ล้านบาท จาก Margin ที่ลดลงมากเพราะราคาวัตถุดิบสูงขึ้น และรายได้ลดลง จากลูกค้าที่สหรัฐฯและยุโรปที่ยังระบาย Stock สินค้าที่ดินไว้ในช่วง 4Q22 ไม่ หมด เบื้องต้นแนะชะลอการลงทุน เนื่องจากเรามีโอกาสปรับลดประมาณการและ ราคาเป้าหมายลงจากเดิมที่ 33 บาท
• PTTEP: รายได้งานก่าไรสุทธิ 1Q23 ที่ 1.9 หมื่นล้านบาท (+83% YoY, +24% QoQ) คีตามที่เราและตลาดคาด อย่างไรก็ตาม ประเมินแนวโน้ม 2Q23-3023 ผล การดาเนินงานอาจชะลอตัวตามแนวโน้มปริมาณขายที่ลดลง จากปัญหาเรือขน นํ้ามันในแหล่งมาเลเซียและการเจาะหลุมที่ล้าช้า ซึ่งอาจทําให้เราต้องมีการปรับ ประมาณการลงหลังจากการประชุมนักวิเคราะห์ เบื้องต้นคงประมาณการก่าไรปี 2023 ที่ 6.8 หมื่นล้านบาท แนะน่า "ถือ" ที่ราคาเป้าหมาย 163 บาท
• BCP: คงค่าแนะนําา “ซื้อเก็งกําไร” และคงราคาเป้าหมายที่ 40 บาท อิง PBV ที่ 0.8 เท่า คาดบริษัทจะรายงานกําไร 1Q23 ที่ 2.4 พันล้านบาท แต่ถ้าไม่นับ รวมรายการพิเศษคาดก่าไรปกติอยู่ราว 4 พันล้านบาท มาจากธุรกิจการตลาด และ ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ ในขณะที่โรงกลั่นอ่อนตัวลงเล็กน้อยและโรงไฟฟ้าลดลง คงประมาณการก่าไรปีนี้ที่ 9.4 พันล้านบาท
• AP: คาดบริษัทรายงานกําไร 1Q23 ที่ 1.3 พันล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 12.3% QoQ แต่ปรับตัวลดลง 25% YoY ทั้งนี้ ยอด Presales ใน 1Q66 ท่าได้ 19% ของ เป้าที่ 5.8 หมื่นล้านบาท โดยการเปิดตัวโครงการใหม่จะเริ่มโดดเด่นใน 2Q23 เป็นต้นไป โดยทั้งปีนี้คาดว่าจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่รวม 58 โครงการ มูลค่า รวม 7.7 หมื่นล้านบาท และการฟื้นด้วแข็งแกร่งของกลุ่มคอนโดเริ่มกลับสู่ระดับ Pre-COVID ได้แล้วจาก Demand ในประเทศ คงคาดการณ์กําไรปี 2023-24 ที่ 6.05 พันล้านบาท และ 6.04 พันล้านบาท แนะนํา “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 14.40 บาท
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities