ทิศทางราคาทองคํา
ราคาทองคําปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยราคาทองคําหลุดระดับ 2,000 เหรียญลงมาอีกครั้ง หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ Empire State Manufacturing Index ออกมาเพิ่มขึ้นกว่าที่ คาดการณ์ ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์เมื่อวานนี้เปิดที่ 101.67 จุด ก่อน ขึ้นไปทําจุดสูงสุดที่ 102.23 จุด และปิดที่ 102 จุด ขณะที่เช้านี้ยังคงทรงตัวอยู่ที่ 102.11 จุด ส่งผลให้ค่า เงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องจากระดับ 34.25 บาทต่อดอลลาร์ มาอยู่ที่ 34.48 บาทต่อดอลลาร์ในเช้านี้ โดย ค่าเงินบาทยังอยู่ในลักษณะของการปรับฐาน โดยมีแนวต้านที่ 34.55 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนมี มุมมองการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่เปลี่ยนแปลงไป โดยให้นํ้าหนัก 88.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. ท่ามกลางการติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ อย่างใกล้ชิด และเริ่มมีนักวิเคราะห์บางรายคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยของเฟดมีแนวโน้มที่จะดีดตัวขึ้น แตะระดับ 6% ซึ่งโดยปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดอยู่ที่ระดับ 4.75% – 5.00% สําหรับวันนี้มี ตัวเลขเศรษฐกิจที่สําคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Building Permits และ Housing Starts คาดการณ์ออก มาลดลงจากเดิม ซึ่งหากออกมาตามที่คาดการณ์ อาจส่งผลต่อดัชนีดอลลาร์ไม่มากนัก ด้านกองทุน ทองคํา SPDR เมื่อวานนี้ขายออก 2.02 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 925.7 ตัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าการซื้อขายใน ช่วงหลังจะเป็นลักษณะการเข้าเร็วออกเร็วตามสภาพของตลาดที่เปลี่ยนเปลง
วิเคราะห์ราคาทองคําทางเทคนิค
ภาพรวมราคาทองคํายังคงอยู่ในลักษณะของการปรับฐาน หลังจากที่พยายามขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดที่บริเวณ 2,050 เหรียญ ซึ่งภาพหลักของราคาทองคํายังคงมีโอกาสเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแนวโน้มทิศทางขาขึ้นได้ หากราคาทองคําสามารถ ยืนเหนือระดับ 1,980 เหรียญได้ต่อเนื่อง โดยเมื่อวานนี้ราคาทองคําได้ลงมาทดสอบจุดตํ่าสุดบริเวณ 1,980 เหรียญ สําหรับ วันนี้คาดว่าราคาทองคําจะมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,980 เหรียญ และแนวต้านที่ 2,010 เหรียญ สําหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,005 เหรียญ และแนวต้าน 2,035 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,995 เหรียญ และแนวต้าน 2,025 เหรียญ สําหรับราคาทองคําไทยมีแนวรับที่ 32,350 บาท/บาททองคํา และมีแนวต้านที่ 32,800 บาท/บาท ทองคํา ภาพรวมราคาทองไทยยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยแนะนํากลยุทธ์ควรเข้าซื้อสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว
โดยเน้นยํ้านักลงทุนว่า ราคาทองคําและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 15 - 25 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
บทวิเคราะห์ข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯเท่านั้น และเป็นการวิเคราะห์โดยยึดหลักตาม Technical Analysis ทั้งนี้ บริษัทฯไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น นักลงทุนทุกท่านโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นโดย สถาบันการลงทุนทองคำ แม่ทองสุก MTS สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 0 2770 7788 หรือทางเว็บไซต์ mtsgold.co.th