🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

GDP GROWTH บ้านเราเสีย MOMENTUM ? 

เผยแพร่ 20/02/2566 09:30
SETI
-

ตัวเลข GDP Growth งวด 4Q65 ของบ้านเราที่ต่ำเพียง 1.4% YoY และทำให้ ภาพรวมปี 2565 เติบโตเพียง 2.6% YOY ตัวเลข GDP Growth ดังกล่าวทำให้เกิด ประเด็นที่สร้างความกังวลในหลายส่วน เช่น Momentum ในการเติบโตหลังผ่าน Covid-19กำลังเสียไปหรือไม่ , ในเชิงเปรียบเทียบกับ GDP Growth อื่นในภูมิภาค พบว่าบ้านเราเติบโตในอัตราที่ต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจทำให้ความน่าสนใจ ในการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเสียไป อย่างไรก็ตามหากมองในมุมบวก ตัวเลข GDP Growth ที่ต่ำกว่าคาดดังกล่าวอาจทำให้ กนง ชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยได้ ส่วน การทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนพบว่างวด 4Q65 ที่ประกาศออกมาจนถึง ปัจจุบัน ปรากฎว่าต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาด (ข้อมูลจาก Bloomberg) ราว 18% ภาวะดังกล่าวอาจเปิด Downside ให้กับประมาณการกำไรปี 2566

GDP Growth 4Q65 ของบ้านเราที่ต่ำกว่าคาด ขณะที่กำไรงวด 4Q65 ที่ออกมาไม่ ดีอาจเปิด Downside ให้กับประมาณการปี 2566 ทั้ง 2 เรื่องจะกดดัน SET Index คาดอยู่ในกรอบ 1640 – 1660 จุด หุ้น Top Pick เลือก AP, PTTEP และ TISCO

จับตาความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ หนุนสินค้าโภคภัณฑ์

ความขัดแย้งระหว่างประเทศในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงมากกว่าเดิม ซึ่งเป็น ความเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะอาจขยายวงกว้างไปยังประเทศที่สามได้ทุกเมื่อ ขณะที่สถานการณ์ความขัดแย้งฯ ล่าสุดยังคงตรึงเครียด ดังนี้

• คาบสมุทรเกาหลีกองทัพเกาหลีใต้เผยเมื่อวันเสาร์ (18 ก.พ.) ว่าเกาหลีเหนือได้ ยิงขีปนาวุธพิสัยไกลตกลงบริเวณทะเลญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการยิงขีปนาวุธครั้งแรกใน รอบปี เพื่อตอบโต้การซ้อมรบทางทหารของเกาหลีใต้และสหรัฐ

• สงครามรัสเซีย-ยูเครน กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยเมื่อวันเสาร์ (18 ก.พ.) ว่า กองกำลังของรัสเซียได้เข้ายึดครองหมู่บ้านฮาเรียนีกิฟกา (Hrianykivka)ซึ่งตั้งอยู่ ทางตะวันออกของแคว้นคาร์คิฟและอยู่ทางเหนือของสมรภูมิรบที่สำคัญที่สุด ขณะที่ที่ฝั่งตะวันตกยังมีท่าทีจะส่งอาวุธให้กับทายูเครนต่อเนื่อง ซึ่งอาจสร้าง ความไม่พอใจต่อฝั่งรัสเซีย และอาจกลับมารุนแรงอีกครั้งช่วง มี.ค. – มิ.ย.

• การรุกล้ำน่านฟ้าสหรัฐ-จีน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ หารือเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านนโยบายต่างประเทศของจีน ในงานประชุมด้าน ความมั่นคงที่เยอรมัน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (18 ก.พ.) โดยทางการจีนกล่าวว่า สหรัฐฯ กระทำเกินกว่าเหตุส่งฝั่งสหรัฐฯ ได้ออกมาปฏิเสธ และยังเตือนจีนเรื่อง ที่ไม่ให้ความช่วยเหลือรัสเซียในสงครามรัสเซีย-ยูเครน

สรุป ความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น อาจส่งผลให้ราคาสินค้าโภค ภัณฑ์ รวมถึงราคากลุ่มพลังงานที่กลับมาพุ่งสูงอีกครั้ง ซึ่งจะกระทบกับภาคการค้า ระหว่างประเทศที่ต้องอาจต้องแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

GDP ไทยปี 2565 อยู่ที่ +2.6% ขยายตัวน้อยกว่าคาด

สภาพัฒน์เผย GDP ไทยในปี 2565 ขยายตัวเพียง +2.6%YoY (ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 3.2%YoY) และยังเติบโตค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน (มาเลเซีย +8.7%YoY, เวียดนาม +8.0%YoY, ฟิลิปปินส์ +7.6%YoY, อินโดนีเซีย +5.3%YoY, สิงคโปร์ +3.6%YoY) ขณะที่ 4Q65 +1.4%YoY และ -1.5QoQ ซึ่งหากติดลบอีก 1 ไตร มาสจะเข้าสู่ภาวะ Technical Recession

โดยส่วนประกอบเศรษฐกิจไทยที่หดตัวลงใน 4Q65 จากอุปโภคภาครัฐ (-8.0%YoY), การ ส่งออกสินค้า, (-10.5%YoY) การนำเข้า (-4.6%YoY) รวมถึงหลายปัจจัยที่ขยายตัวได้ น้อยลง อาทิ การลงทุนและการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งเป็นผลมาจากการชะลอตัวของ เศรษฐกิจโลกสำหรับ Sector ที่คาดโดนผลกระทบช่วงสั้น คือ กลุ่ม BANK สถาบันการเงิน ต่างๆ, FIN สะท้อนได้จากการเร่งตัวของ NPL ใน 4Q65, กลุ่มส่งออกที่ชะลอตัวลง เป็นต้น

ส่งผลให้ สศช. ปรับประมาณการเศรษฐกิจในปี 66 ลงจากกรอบ 3 -4% เหลือ 2.7 –3.7% โดยมาจากการชะลอตัวจากภาคการค้าเป็นสำคัญ ซึ่งคาดว่าการส่งออกจะหดตัว 1.6%YoY (เดิมคาด +1%YoY) และการนำเข้าหดตัวกว่า 2.1%YoY (เดิมคาด +1.6%YoY) รวมถึง Downside ต่อประมาณการกำไรตลาดปี 66 (เบื้องต้น ASPS ลด EPS66 ลง 3.2% เหลือ 96.1 บาท/หุ้น)

อย่างไรก็ตามคาดทำให้การขึ้นเร่งดอกเบี้ยของกนง.ชะลอลง ถ้าคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.50% ตามกลไกจะช่วยให้ตลาดไม่ถูกกดดันให้ซื้อขายบน P/E ที่ลดน้อยลง ถือเป็นแรง หนุนตลาดเล็กๆ ในอีกมุมหนึ่งได้

สรุป เศรษฐกิจไทยปี 2565 ขยายตัวน้อยกว่าคาด เป็นเพราะการหดตัวของภาคการค้า เป็นหลัก ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ สศช. ปรับประมาณการ GDP ไทยในปี 66 เหลือ 2.7 – 3.7% ซึ่งอาจกดดัน Momentum ให้เม็ดเงินไหลออกนอก ประเทศ ทั้งนี้หากมองในอีกแง่มุมหนึ่ง ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาแย่กว่าที่คาด น่าจะทำ ให้การขึ้นเร่งดอกเบี้ยของ กนง.ชะลอลง และคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.50% ระยะหนึ่ง

ภาพเศรษฐกิจและกำไรที่ต่ำกว่าตลาดคาด ยังคงกดดันเป้าหมายดัชนี และ FUND FLOW ชะลอการไหลเข้า

วันศุกร์ที่ผ่านมา นอกจากจะรายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทย 4Q65 ออกมา +1.4%YoY ต่ำ กว่าที่ตลาดคาดมาก แล้วการรายงานงบ 4Q65 ที่ออกมาต่อเนื่อง ล่าสุดรายงานออก มาแล้ว 93 บริษัท โดยภาพรวมกำไรต่ำกว่าที่Bloomberg Consensus คาดถึง18%YoY

และหากรวมกับบริษัทที่ฝ่ายวิจัยทำ Earning Preview เป็น 162 บริษัท (มีสัดส่วน 65% ของ Market Cap ตลาด) พบว่า กำไรลดลงราว 17%QoQ และ 31%YoY ซึ่งบริษัทจด ทะเบียนยังมีการรายงานงบที่เหลือจนถึงสิ้นเดือน ก.พ. 66

ภาพเศรษฐกิจและกำไรที่ต่ำกว่าตลาดคาดกดดันให้ Fund Flow ยังชะลอการไหลเข้า ตลาดหุ้นไทย โดยวันศุกร์หลังตัวเลขเศรษฐกิจไทยออกมาไม่ดี ต่างชาติกลับมาขายสุทธิ สูงขึ้น 1.78 พันล้านบาท และขายสุทธิรวมกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท (mtd)

อีกทั้งปัจจัยดังกล่าวยังคงกดดันดัชนีเป้าหมายให้ปรับตัวลงได้ ซึ่งปัจจุบันฝ่ายวิจัยประเมิน EPS66F แบบไม่เป็นทางการลดลงจาก 99.2 บาท/หุ้น เหลือ 96.1 บาท/หุ้น เมื่อคูณ PER 17.54 เท่า (อิง MEYG 4.2% กับดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.5%) จะได้ดัชนีเป้าหมาย เหลือ 1685 จุด (จาก 1740 จุด)

สรุปฤดูกาลประกาศงบที่ไม่สดใส ตอกย้ำด้วยตัวเลขเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าคาด น่าจะ สร้างแรงกดดันให้ตลาดหุ้นไทยขยับขึ้นได้ยากในช่วงนี้ กลยุทธ์การลงทุนแนะนำหลบ ความผันผวนในหุ้นปันผลสูงจ่ายปีละครั้ง อย่าง AP (คาดหวังปันผลรอบนี้ 5%) , TISCO (คาดหวังปันผลรอบนี้ 7%) และเก็งกำไรกับหุ้นอิงราคาน้ำมัน อย่าง PTTEP เป็น Top pick ในวันนี้

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย