DELTA implication / SET multiple in jeopardy
SET: คาด SET Index เปิดตลาดวันนี้ปรับตัวรีบาวด์ขึ้นได้บ้างตามตลาดหุ้นทั่วโลก อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นได้อย่างจริงจังในช่วงถัดไป ยังคง ต๋องอาศัยแรงขับเคลื่อนของ Fund flow ซึ่งยังต้องขึ้นอยู่กับกระบวนการ Price in ของนักลงทุนในตลาดต่อคาดการณ์ดอกเบี้ยของ Fed ต่อไปด้วย เช่นกัน ด้วยภาพการลงทุนในช่วงนี้น่าจะยังอยู่ในช่วงอึดอัด ในเชิงกล ยุทธ์ เรายังคงแนะนําา Wait & See และรอการเข้าซื้อใหม่ในจุดที่ได้เปรียบ ทาง Valuation นั่นก็คือที่ระดับดัชนีต่ํากว่า 1634 จุดในกรณีฐานของเรา อย่างไรก็ตาม ระดับการเข้าซื้อนี้ดูเหมือนจะมีความเสี่ยงมากขึ้น ที่เราอาจจะต้องปรับลดลงในช่วงถัดไป (รายละเอียดด้านล่าง) • DELTA: บอร์ดบริษัทมีมติแตกพาร์จากเดิมหุ้นละ 1.0 บาทเป็นหุ้นละ 0.1 บาท โดยจะเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 7 เมษายน มองปัจจัย ดังกล่าวหากเกิดขึ้น จะทําให้สภาพคล่องการซื้อขายของหุ้น DELTA ปรับสูงขึ้น ซึ่งในทางทฤษฎีแล้ว มักนํามาสู่การปรับตัวของราคาหุ้นที่เข้าสู่ ราคาที่สมเหตุสมผลมากขึ้น ทั้งนี้ หากอ้างอิงจากราคาเป้าหมายของ Consensus ณ ขณะนี้ที่ 595 บาท ต้องบอกว่าโอกาสที่ราคาหุ้น DELTA จะปรับตัวลงหลังแตกพาร์น่าจะมีมากกว่าปรับตัวขึ้น ปัจจัยนี้มิอาจ มองข้ามได้ เนื่องจากด้วยขนาด Market cap ของบริษัทที่ใหญ่มาก เป็นอันดับ 1 ของตลาด ณ ปัจจุบัน จะกลายมาเป็นปัจจัยลบทางอ้อม ต่อ SET ที่รออยู่ในช่วงไตรมาสที่ 2 นี้ได้ • BoT: คุณเมธี สุภาพงษ์ รองผู้ว่าธปท.ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ว่า “แม้อัตราเงินเฟ้อปีนี้จะเริ่มชะลอตัวลง แต่ก็ยังไม่เข้าเป้าหมายกรอบเงิน เฟ้อที่ตั้งไว้ที่ 1-3% ส่วนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน ยอมรับว่าอัตรา ดอกเบี้ยยังไม่ได้อยู่ในระดับปกติ และยังคงอยู่ในขั้นตอนของการทยอย ปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อเข้าสู่ระดับปกติ ทั้งนี้ การขึ้นดอกเบี้ยจะช่วยสร้าง Policy space ไว้ช่วยเหลือ ยามที่เศรษฐกิจเกิด Shock ในอนาคต” Our take: คําพูดดังกล่าวส่งสัญญาณ Hawkish อย่างชัดเจน ซึ่งหากูได้รับการตอบรับจากมติกนง.ส่วนใหญ่ มีโอกาสทําให้กนง.ปรับขึ้น ดอกเบี้ยค่อนข้างสูงในการประชุมครั้งถัดไป เนื่องจากดูแล้วเงินเฟ้อทั่วไป
ของไทยคงจะยังไม่ชะลอลงสู่กรอบเป้าหมายในช่วงนี้ค่อนข้างแน่ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของเราล่าสุดไปยังคาดการณ์ของนักลงทุนในตลาด พบว่า ณ ขณะนี้ อัตรา Swap rate มีการ Price in การขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ของไทยในการประชุมวันที่ 29 มีนาคมไม่ถึง 50% ดังนั้นหากระหว่างนี้ ความเชื่อในเรื่องของการขึ้นดอกเบี้ยมีมากขึ้นเรื่อยๆ อาจเห็นเม็ด เงินต่างชาติประเภท Hot money เข้ามาเก็งกําไรค่าเงินบาทผ่าน การซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้นได้เช่นกัน แต่ในระยะกลางถึงยาว
แล้ว มีโอกาสที่นักลงทุนต่างชาติจะมองภาพเชิงลบต่อตลาดทุนไทย มากขึ้น เหมือนกับภาพที่เคยเกิดขึ้นกับประทศต่างๆที่มีการขึ้น
ดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องมาก่อนหน้านี้
บทวิเคราะห์วันนี้
แนวรับ 1,634 แนวต้าน 1,663
• OR (ชื่อ ราคาเป้าหมาย 33.50 บาท) 4Q22 รายงานขาดทุน 741 ล้านบาท ขาดทุนด้อย ค่าเงินลงทุน แนวโน้ม 1Q23 พื้นเด่น ค่าการตลาดกลับไประดับปกติ
• JMT (ชื่อ ราคาเป้าหมาย 66 บาท) ปรับประมาณก่าไรปี 66-67 ลง
• ITC (ชื่อ ราคาเป้าหมาย 38 บาท) เพิ่มกําลังการผลิต หนุนการเติบโต เพิ่ม Market share
• SFLEX (ซี้อ ราคาเป้าหมาย 5.25 บาท) คาด 4065 กําไร +545% QoQ Margin ปรับดีขึ้น และแนวโน้ม 1H66 ยังดีต่อ ต้นทุนอยู่ในระดับต่า
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities