Sideways / BBL / KBANK (BK:KBANK)
SET: คาดตลาดหุ้นเอเชียจะเริ่มเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆตามวอลุ่มการซื้อขายที่เบาบางหลังเข้าสู่เทศกาลตรุษจีน ทั้งนี้ในส่วนปัจจัยต่างประเทศนั้น
เช้าวันนี้ญี่ปุ่นรายงานตัวเลขเงินเฟ้อที่ไม่รวมหมวดอาหารสดปรากฏว่าออกมา ขยายตัว 4.0% ตรงกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ จึงไม่มีผลกระทบใดๆ ส่วนปัจจัย เมื่อคืนนี้ นาง Lael Brainard กรรมการ FOMC อีกหนึ่งท่านที่มีสิทธิ์โหวตในปี นี้ได้ออกมากล่าวว่า เธอเห็นด้วยที่ Fed จะยังคงยืนหยัดต่อแผนการลดแรง กดดันเงินเฟ้อให้กลับเข้าสู่เป้าหมายที่ 2% ซึ่งนั่นหมายถึงว่าการเข้มงวด นโยบายการเงินจะยังคงยืนอยู่ในระดับสูงต่อไป แม้ว่า Fed จะยุติการ น ดอกเบี้ยของ Cycle นี้เรียบร้อยแล้ว (High for longer) ปัจจัยดังกล่าวอาจท่า ให้ Bond yield สหรัฐฯเมื่อคืนนี้ขยับขึ้นบ้าง แต่มองไม่มีนัยสําคัญแต่อย่างใด และจะไม่กระทบกับการตัดสินใจของ Fed ในการประชุมวันที่ 1 ก.พ.นี้ ที่เรามี ความเชื่อมั่ม 100% แล้วว่า Fed จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยเหลือเพียงแค่ • ในเชิงกลยุทธ์ แนะนําถือครองหุ้น Top pick ของเราต่อไป ซึ่งได้แก่ GLOBAL, PLANB, SC, STEC, ก ลุ่ ม PF&REIT, GPSC, JMT, ADVANC, SCC, TISCO โดยเมื่อวานนี้เริ่มเห็นเม็ดเงินไหลกลับเข้าสู่กลุ่ม Domestic play ที่ถูก Take profit ก่อนหน้านี้อย่าง กลุ่มค้าปลีกและกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (BK:BBL): ประกาศกําาไร 4065 ที่ 7,569 ล้านบาท อ่อนตัว 1% QoQ แต่ยังเติบโต 20% YoY ต่ํากว่าที่คาดไว้ก่อนหน้าราว 8% โดยรายได้ดอกเบี้ยปรับตัวดีขึ้น มากจาก NIM ที่เพิ่มขึ้นถึง 37 bps แต่มีขาดทุนจากเงินลงทุนราว 2 พันล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการดาเนินงานที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาลเข้ามา กดดันด้านค่าใช้จ่ายสํารองหนี้ปรับตัวลงตามแนวโน้ม NPL ขณะที่ NPL Coverage Ratio ยังอยู่ในระดับที่สูงที่สุดในกลุ่มที่ 261% มองปี 66 จะยังเห็น กําไรเติบโตต่อเนื่องราว 9% YoY มาอยู่ที่ 3.2 หมื่นล้านบาท แม้ว่าจะมีปัจจัย กดดันจากการปรับขึ้นเงินน่าส่ง FIDF แต่มองปัจจัยแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นและ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จะส่งผลบวกต่อสินเชื่อและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยให้มี นํ้าหนักมากกว่า คงราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานที่ 172 บาท คงคําแนะนํา "ชื่อ"
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (BK:KBANK)ประกาศกําไร 4065 ที่ 3,191 ล้านบาท อ่อนตัว 70% QoQ และ 68% YoY ต่ํากว่าที่คาดไว้ก่อนหน้าค่อนข้างมากราว 68% โดยหลักเป็น ผลจากการตั้งสํารองที่เพิ่มขึ้นมาถึง 129% QoQ มาอยู่ที่ 2.3 หมื่นล้านบาท โดยคาดส่วนใหญ่เป็นการตั้งสํารองส่วนเกินเพื่อรองรับความผันผวนของ เศรษฐกิจ ทําให้สัดส่วน NPL Coverage Ratio เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 144% จาก 138% ในไตรมาสก่อน แต่หากไม่นับการตั้งสํารอง ก่าไรจากการ ต่าเนินงานก่อนการตั้งสารองหนี้ (PPOP) ดีขึ้น 21% QoQ และ 29% YoY ดีกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้าราว 23% โดยเป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ปรับตัว ดีขึ้น หลัง NIM เพิ่มขึ้นถึง 30 bps ตามแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบาย บวกกับมี กําไรจากเงินจากการวัดมูลค่าลงทุนสูงถึง 4.7 พันล้านบาท ในภาพรวมเราจึง มองผลการดาเนินงานปกติยังคงดีแต่ถูกกดดันโดยการตั้งสารองหนี้ในระดับสูง จึงคงราคาเป้าหมายที่ 177 บาท และแนะนํา "ชื่อ" อย่างไรก็ตามภายหลัง การประชุมนักวิเคราะห์ในวันที่ 20 ม.ค. นี้ เราอาจมีการปรับประมาณการอีกครั้งหนึ่ง
บทวิเคราะห์วันนี้
แนวรับ 1,678 แนวต้าน 1,696
• BBL (ชื่อ ราคาเป้าหมาย 172 บาท) กําไร 4065 ต่ำกว่าคาด หลังมีขาดทุนจากการวัด มูลค่าเงินลงทุน
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities