จับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ เงินบาทมีแนวโน้มทยอยแข็งค่าขึ้น

Economic Highlight

จับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ ทั้ง อัตราเงินเฟ้อทั่วไป CPI, ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกและยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานต่อเนื่อง รวมถึง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน ซึ่งตลาดจะให้ความสนใจ มุมมองของผู้บริโภคต่อแนวโน้มเงินเฟ้อในอีก 1 ปี และ 5 ปี ข้างหน้า (Inflation Expectation) และนอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ ตลาดจะรอติดตาม ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด อาทิ ประธานเฟด Jerome Powell, Patrick Harker

FX Highlight

• เงินบาทมีแนวโน้มทยอยแข็งค่าขึ้น ในลักษณะ Sideways Down โดยอาจมีบางช่วงที่เงินบาทผันผวนอ่อนค่าได้ หากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ในกรณีที่ เงินเฟ้อ CPI สูงกว่าคาด หรือ บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดย้ำจุดยืนเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง

• สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ในจีน ยังมีความน่าเป็นห่วงและอาจส่งผลกระทบให้ตลาดการเงินพลิกกลับมาปิดรับความเสี่ยงได้

• ทั้งนี้ แม้เงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่า แต่เรามองว่า เงินบาทจะไม่อ่อนค่าไปมาก เพราะผู้เล่นในตลาด ทั้งผู้ส่งออกและผู้เล่นต่างชาติ ต่างรอทยอยขายเงินดอลลาร์หรือเพิ่มสถานะ Short USDTHB

• นอกจากนี้ หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อได้ เงินบาทก็จะได้แรงหนุนจากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ

• ในเชิงเทคนิคัล ทั้งสัญญาณจาก RSI และ MACD เริ่มชี้ว่า ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นได้ในช่วงนี้

Gold Highlight

• ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทะลุโซนแนวต้านและอาจเคลื่อนไหว Sideways Up ในกรอบใหม่ โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตา คือ แนวโน้มเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ

• ต้องระวังแรงขายที่อาจกลับมา หากตลาดกังวลแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด หากเงินเฟ้อ CPI ไม่ได้ชะลอลงตามคาด หรือ บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณสนับสนุนการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง

• เราคงมุมมองเดิมว่า หากราคาทองคำย่อตัว ก็อาจเป็นการพักฐาน เพื่อปรับตัวขึ้นต่อ ซึ่งผู้เล่นในตลาดอาจรอจังหวะ Buy on Dip ใกล้โซนแนวรับได้

• ในเชิงเทคนิคัล RSI ยังคงให้ภาพ Bearish Divergence ขณะที่ MACD ยังคงให้มุมมองที่เป็นบวกต่อขาขึ้นของราคาทองคำ สะท้อนว่า ราคาทองคำยังมีโอกาสเผชิญแรงขายทำกำไรได้ หากปรับตัวขึ้นใกล้แนวต้าน ทำให้เรามองว่า ราคาทองคำมีแนวโน้ม sideways u