สรุป ราคาทองคําวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 16.91 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ในช่วงบ่ายตามเวลาไทย ราคาทองคําจะฟื้นตัวขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจากเงินปอนด์ที่ดีดตัวขึ้น ขานรับการเปิดเผย GDP ของอังกฤษที่ขยายตัว 0.5% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งถือว่า “สูงกว่า” ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 0.4% อย่างไรก็ดี การปรับตัวขึ้นของราคาทองคําเป็นไปอย่างจํากัด พร้อมกับ มีแรงขายสลับออกมาเป็นระยะท่ามกลางความวิตกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)ที่กําลังจะเปิดเผยในคืนนี้อาจออกมาสูงเกินคาด (upside surprise) หลังจากในวันศุกร์ที่แล้วดัชนี PPI ทั่วไปและ ดัชนี PPI พื้นฐานพุ่งขึ้น “สูงกว่า” ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ไว้ และการคาดการณ์ดังกล่าวอยู่เบื้องหลังการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.614% จนเป็นปัจจัยกดดันทองคําในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยเพิ่ม ส่งผลให้ราคาทองคําร่วงลงทดสอบระดับต่ําสุดบริเวณ 1,777.30 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําไม่เปลี่ยนแปลง สําหรับวันนี้จับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจําเดือนพ.ย.ของสหรัฐในเวลา 20.30 น. นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ทั่วไปจะขยายตัว 7.3% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐาน จะปรับตัวขึ้น 6.1% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งถือว่า “ชะลอลง” จากเดือนก่อนหน้า ดังนั้น หากตัวเลข CPI ออกมาชะลอตัวดังคาด หรือ ชะลอตัวลงมากกว่าคาด จะเป็นปัจจัยกระตุ้นการคาดการณ์ว่าเฟดจะ “ชะลอ” การขึ้นดอกเบี้ยซึ่งจะส่งผลเชิงบวกต่อราคาทองคํา กลับกัน หาก CPI ออกมาสูงกว่าคาดจะกระตุ้นคาดการณ์ว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยซึ่งเป็นปัจจัยกดดันทองคําา
แม้ราคาทองคำมีการฟื้นตัวขึ้นหลังจากอ่อนตัวลงตัวลงวานนี้ แต่ระยะสั้นหากราคาไม่สามารถ ผ่านแนวต้าน 1,797-1,809 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจจะเกิดแรงขายกดดันให้ราคาลงมาเพื่อ สะสมแรงซื้อในโซน 1,776 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนไม่ได้ราคาอาจอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับ ถัดไปโซน 1,759 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คําแนะนํา เปิดสถานะขาย $1,797-1,809
จุดทํากําไร ซื้อคืนเพื่อทํากําไร $1,776-1,759
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน $1,824
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th