สรุป ราคาทองคําวานนี้ปิดปรับตัวลดลงถึง 29.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ในช่วงเช้าของตลาดเอเชีย ราคาทองคําจะทะยานขึ้นทดสอบระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน หรือ ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค. บริเวณ 1,809.91 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์ หลังวานนี้เงินหยวนในประเทศพุ่งขึ้นราว 1.4% แตะระดับสูงถึง 6.9507 ซึ่งเป็นระดับแข็งค่ามาก ที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย. ขานรับการที่จีนผ่อนคลายมาตรการควบคุม COVID-19 อย่างไรก็ดี ราคาทองคําปรับตัวลงในเวลาต่อมา ส่วนหนึ่งได้รับแรงกดดันจากแรงขายทํากําไรหลังจากราคา ทองเข้าสู่สภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) ประกอบกับดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นขานรับการเปิดเผยดัชนีภาคบริการของสหรัฐจาก ISM ที่ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56.5 ในเดือนพ.ย. จาก 54.4 ในเดือน ต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ําสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2020 อีกทั้งยังสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 53.1 ส่วนคําสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากที่ เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 0.7% ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนการฟื้นตัวของภาคบริการและภาคการผลิต ซึ่งจะสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยต่อไปในปี 2023 สถานการณ์ดังกล่าว หนุนให้ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.72% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเพิ่มขึ้น 9.6 bps สู่ระดับ 3.599% ซึ่งเป็นปรับตัวขึ้นใน 1 รายวันที่มากที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์จนกดดันให้ราคาทองคําดิ่งลงแรงสู่ระดับต่ําสุดบริเวณ 1,765.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําลดลง -2.03 ตัน สําหรับวันนี้ติดตาม การเปิดเผยดุลการค้าของสหรัฐ
หากราคาทองค าพยายามเคลื่อนไหวเหนือแนวรับโซนโซน 1,763 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้แสดงถึงแรงเข้า ซื้อในระยะสั้น หากยืนได้แข็งแกร่ง ท าให้ประเมินว่าในระยะสั้น ยังคงมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบ แนว ต้านถัดไป 1,786-1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากการฟื้นตัวขึ้นเป็นไปอย่างจ ากัด ราคาอาจอ่อนตัวลง อีกครั้ง ประเมินกรอบแนวรับจะอยู่ในบริเวณ 1,763-1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ
คําแนะนํา เปิดสถานขาย$1,786-1,792
จุดทํากําไร ซื้อคืนเพื่อทํากําไร $1,763-1,747
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน $1,809
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th