สรุป ราคาทองคําวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 19.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนตลอดตามการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ทั้งนี้ ราคาทองคําปรับตัวลดลงทดสอบ ระดับต่ําสุดของวันบริเวณ 1,745.74 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดีเกินคาด อาทิ ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สําหรับ GDP ประจํา ไตรมาส 3 โดยระบุว่า GDP ขยายตัวเกินคาดที่ 2.9% และตัวเลขการเปิดรับสมัครงานลดลง 353,000 ตําแหน่ง สู่ระดับ 10.3 ล้านตําแหน่งในเดือนต.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ 10.24 ล้านตําแหน่ง สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคําปรับตัวทดสอบระดับต่ําสุดบริเวณ 1,745.74 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่ราคาทองคําจะปรับตัวขึ้นแรง โดยปัจจัยพื้นฐานหลักที่หนุน ทองคํา คือ ถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า เฟดจะ “ชะลอ” การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนธ.ค. ซึ่งกระตุ้นการคาดการณ์ว่า เฟดจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. สะท้อนจากedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ําหนัก 77% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 50 bps และนักลงทุนให้น้ําหนักเพียง 25% ที่ เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 bpsในการประชุมเดือนธ.ค. จนเป็นปัจจัยกดดันดัชนีดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐให้ร่วงลงจนส่งผลหนุนทองคําให้ทะยานขึ้นทดสอบ ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์บริเวณ 1,769.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะทะยานขึ้นต่อในช่วงเช้าวันนี้ของตลาดเอเชีย ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําไม่เปลี่ยนแปลง สําหรับวันนี้ติดตาม การเปิดเผย Core PCE, จํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และดัชนี PMI ภาคการผลิตจาก ISM
แม้ราคาทองค ามีการปรับตัวขึ้นแรงขายค่อนข้างจ ากัด แต่ระยะสั้นหากพยายามจะดีดตัวขึ้นไปทดสอบ แนวต้านระดับ 1,786-1,802 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านดังกล่าว (1,786 ระดับสูงสุดของเดือนพ.ย.)ได้อย่างมั่นคง จะเกิดแรงขายกดดันให้ราคาลงมาสู่ 1,759-1,744 ดอลลาร์ต่อ ออนซ์เพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง
คําแนะน่า เปิดสถานะซื้อ $1,759-1,744
จุดทํากําไร ขายเพื่อทํากําไร $1,786-1,802
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด $1,744
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th