สรุป ราคาทองคําวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคําได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์ หลังจากเงินหยวนในประเทศ (Onshore) พุ่งขึ้นประมาณ 0.6% สู่ระดับ 7.1663 ดอลลาร์ ขานรับความหวังว่าจีนจะกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง หลังจากวานนี้ คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีนแถลงว่า จีนจะส่งเสริมให้ผู้สูงอายุเข้ารับการฉีดวัคซีน ป้องกัน COVID-19 ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่าการดําเนินการดังกล่าวเป็นปัจจัยที่มีความสําคัญต่อการเปิดประเทศ สถานการณ์ดังกล่าวหนุนให้ราคาทองคําพุ่งขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,758.82 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างวัน อย่างไรก็ดี ราคาทองคําลดช่วงบวกลงในเวลาต่อมาจากแรงขายกําไร ประกอบกับดัชนีดอลลาร์ดีดกลับมาปิดตลาดในแดนบวก ทั้งนี้ ดอลลาร์ กลับมาได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินยูโร หลังจากการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสเปนและเยอรมนีที่ชะลอตัวลงอย่างรวดเร็วในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สถานการณ์ ดังกล่าวกดดันให้ทองคําลดช่วงบวกลงปิดตลาดบริเวณ 1,747.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําไม่เปลี่ยนแปลง สําหรับวันนี้ติดตามการผลการประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทย คาดกนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 25 bps สู่ระดับ 1.25% พร้อมติดตามการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐหลายรายการ อาทิ การจ้างงานภาคเอกชน จาก ADP, ประมาณการครั้งที่ 2 GDP ไตรมาส 3/2022, ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน (JOLTS) และยอดทําสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย อีกทั้งต้องจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกําหนดกล่าวปาฐกถาว่าเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งเงินเฟ้อและตลาดแรงงาน ที่สถาบันบกกิงส์
หากราคาทองค ายังไม่สามารถยืนเหนือ 1,759-1,765 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ส่งผลให้แรงซื้อยังคงถูก จ ากัด ส าหรับวันนี้ประเมินแนวรับระยะสั้นในโซน 1,738-1,729 ดอลลาร์ต่อออนซ์(1,738 ระดับต ่าสุด ของสัปดาห์นี้) หากยืนไม่ได้แนวรับส าคัญจะอยู่ในบริเวณ 1,711 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่แนวต้าน ส าคัญนั้นยังประเมินในโซน 1,765 ดอลลาร์ต่อออนซ์หากยืนได้มุมมองเชิงลบจะลดลง
ด่าแนะนํา เปิดสถานะขาย $1,756-1,765
จุดทํากําไร ซื้อคืนเพื่อทํากําไร $1,729-1,711
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน $1,765
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th