สรุปราคาทองคําวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระหว่างวันราคาทองคําได้รับแรงหนุนจากดัชนีดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง 0.58% ท่ามกลางแรงขายสกุลเงินปลอดภัยเนื่องจากนัก ลงทุนทั่วโลกกลับมาเปิดรับความเสี่ยง (Risk on) ประกอบกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์ เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 9 ในเดือนพ.ย. ซึ่งถือว่า “ต่ํากว่า” ที่ นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้จึงเป็นปัจจัยกดดันดอลลาร์ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากสกุลเงินยูโร ที่แข็งค่าขึ้นขานรับการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในยูโรโซนที่ ปรับตัวขึ้นเกินคาดสู่ระดับ -23.9 ในเดือนพ.ย. ขณะที่นายโรเบิร์ต โฮลซ์แมนน์ ซึ่งเป็นคณะกรรมการกําหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า เขามีแนวโน้มที่จะปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ย 75 bps ในการประชุมเดือนธ.ค. สถานการณ์ดังกล่าวหนุนราคาทองคําให้ปรับตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,749.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างวัน อย่างไรก็ดี ราคา ทองคําลดช่วงบวกในเวลาต่อมา ส่วนหนึ่งได้รับแรงกดดันจากแรงขายทํากําไรเนื่องจากทองคํายังไม่สามารถทะลุผ่าน Downtrend line ได้ นอกจากนี้ ทองคํายังถูกกดดันจากการปรับตัวขึ้นของ ตลาดหุ้นทั่วโลก ทั้งตลาดหุ้นเอเชีย ตลาดหุ้นสหรัฐ และตลาดหุ้นยุโรป ซึ่งบั่นทอนความต้องการลงทุนทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ปัจจัยที่กล่าวมากดดันให้ราคาทองคําาอ่อนตัวลงมา ปิดตลาดบริเวณ 1,739.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําเพิ่มขึ้น +0.87 ตัน สําหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน, จํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน, ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ, ยอดขายบ้านใหม่, คาดการณ์ความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก UoM และ FOMC Meeting Minutes
ราคาอาจแกว่งตัวออกด้านข้างในทิศทางอ่อนตัวลง หากสามารถทรงตัวรักษาระดับไว้ได้ราคา มีแนวโน้มขึ้นทดสอบ 1,749-1,753 ดอลลาร์ต่อออนซ์(1,753 ระดับสูงสุดของสัปดาห์นี้) แต่ถ้าไม่สามารถขึ้นไปยืนได้ จะเกิดแรงขายออกมาเป็นระยะ โดยระยะสั้น กรอบแนวรับด้านล่างจะอยู่ที่ 1,729-1,711 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คําแนะนํา เปิดสถานะขาย $1,749-1,753
จุดทํากําไร ซื้อคืนเพื่อทํากําไร $1,729-1,711
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน $1,753
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th