เกาะติดความเคลื่อนไหว: หุ้นที่ใหญ่และอนาคตสดใสที่สุดของ วอร์เรน บัฟเฟตต์

Investing.com - ในสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท Berkshire Hathaway ซึ่งเป็นบริษัทของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนระดับตำนาน (NYSE:BRKa) ได้ยื่นหนังสือต่อ Security Exchange Commission ในไตรมาสแรก ซึ่งแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในการถือครอง

พาดหัวข่าวมากมายจากการเปิดเผยเมื่อวันที่ 14 พ.ย. เน้นไปที่การลงทุนของ Berkshire Hathaway ใน บริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing (NYSE:TSM) สาเหตุหนึ่งที่จุดประกายความสนใจคือข้อเท็จจริงที่ว่า ผู้ผลิตชิปได้รับการพิจารณาอย่างกว้างขวางว่าเป็นบริษัทที่มีการเติบโตตามกระแส ซึ่งเป็นลักษณะที่ต่างออกไปจากประเภทธุรกิจที่บัฟเฟตต์มักจะลงทุน เนื่องจากเขาเป็นนักลงทุนที่ชอบถือครองระยะยาวเพื่อเก็บเงินปันผล

แต่ TSM ไม่ใช่บริษัทเดียวที่มีการเติบโตตามกระแสที่บัฟเฟตต์ให้ความสนใจ มีบริษัทอื่นอีกสองแห่ง: Louisiana-Pacific (NYSE:LPX) ผู้ผลิตวัสดุก่อสร้าง และ Jefferies Financial Group Inc (NYSE:{ {8176|JEF}}) ธนาคารเพื่อการลงทุนและบริษัทให้บริการทางการเงินในนิวยอร์ก

แล้วอะไรบ้างที่ไม่มีเปลี่ยนแปลงในการถือครองหุ้นของ Berkshire Hathaway 

การถือครองห้าอันดับแรก: Apple (NASDAQ:AAPL) Bank of America (NYSE:BAC) Chevron (NYSE:CVX) Coca-Cola ( NYSE:KO) และ American Express (NYSE:AXP)

มาดูกันว่าผลงานเป็นอย่างไรในปีที่ผ่านมา:

Apple: หุ้นของผู้ผลิต iPhone ลดลงเพียง 1.5% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา พวกเขาแตะระดับสูงสุดในปี 2022 ที่ 174.69 ดอลลาร์ในเดือนมีนาคม พวกเขาปิดเมื่อวานนี้ที่ 151.29 ดอลลาร์

Apple Weekly Chart

ที่มา: Investing.com

Bank of America: หุ้นของธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับสองในสหรัฐอเมริกาได้ขาดทุนมากกว่า 20.5% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดยแตะระดับสูงสุดในปี 2022 ที่ 48.25 ดอลลาร์ในเดือนมกราคม โดยปิดเมื่อวานนี้ที่ 37.19 ดอลลาร์

Bank of America Weekly Chart

ที่มา: Investing.com

Chevron: หุ้นของบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่เป็นหนึ่งในดาวเด่นของพอร์ตการลงทุน โดยเพิ่มขึ้นเกือบ 58% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา พวกเขาแตะระดับสูงสุดในปี 2022 ที่ 189.30 ดอลลาร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปิดเมื่อวานนี้ที่ 182.99 ดอลลาร์

Chevron Weekly Chart

ที่มา: Investing.com

Coca-Cola: หุ้นของผู้ผลิตเครื่องดื่มรายนี้เพิ่มขึ้น 7.65% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา แตะระดับสูงสุดในปี 2022 ที่ 65.72 ดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคม ปิดเมื่อวานนี้ที่ 61.14 ดอลลาร์

Coca-Cola Weekly Chart

ที่มา: Investing.com

American Express: หุ้นของบริษัทบัตรเครดิตสูญเสียมากกว่า 15.55% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดยแตะระดับสูงสุดในปี 2022 ที่ 194.89 ดอลลาร์ในเดือนกุมภาพันธ์ พวกเขาปิดเมื่อวานนี้ที่ 152.50 ดอลลาร์

American Express Weekly Chart

ที่มา: Investing.com

สำหรับปีนี้ แม้แต่บัฟเฟตต์ก็มีขึ้น ๆ ลง ๆ แต่อย่าหลอกตัวเองเลย บัฟเฟตต์ก็เกือบจะได้กำไรมากกว่าขาดทุนอยู่ดี

หุ้นของ Berkshire เพิ่มขึ้นเกือบ 9% ในปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับ S&P 500 ซึ่งขาดทุนไปเกือบ 16% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เขามีหุ้นมากกว่าสองสามตัวที่ทำกำไรได้ในปี 2022

นอกเหนือจากเชฟรอนที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ ยังมีหุ้นที่ทำผลงานดี ได้แก่ Occidental Petroleum (NYSE:OXY) และ McKesson (NYSE:MCK)

Occidental เพิ่มขึ้นเกือบ 126% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา บริษัทพลังงานในฮูสตันซึ่งเน้นการสำรวจไฮโดรคาร์บอนและการผลิตปิโตรเคมี มีการดำเนินงานที่น่าเหลือเชื่อ โดยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่แตะระดับต่ำสุดที่สำคัญในปี 2020

ในขณะเดียวกัน McKesson บริษัทจัดหาเทคโนโลยีและอุปกรณ์ด้านการดูแลสุขภาพบวกเกือบ 65% ในปีที่แล้ว

ทำได้ดีเลยทีเดียว

รายการบริษัทที่ทำผลงานดีและแย่ประจำสัปดาห์

รายการบริษัทที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา:

ในดัชนี S&P 500

• Ross Stores (NASDAQ:ROST): +11.87%

• Gap Inc (NYSE:GPS): +11.16%

• Jack Henry & Associates (NASDAQ:JKHY): +7.5%

• Lincoln National  (NYSE:LNC): +7.07%

• Enphase Energy  (NASDAQ:ENPH): +24.49%

ในดัชนี NASDAQ คอมโพสิต

• Qurate Retail Inc Series A (NASDAQ:QRTEA): +65.92%

• Tenax Therapeutics Inc (NASDAQ:TENX): +48.35%

• Kopin Corporation (NASDAQ:KOPN): +32.23%

• Clearfield (NASDAQ:CLFD): +31.44%

• Pineapple Holdings Inc (NASDAQ:PEGY): +28.45%

และบริษัทที่ทำผลงานได้แย่ที่สุด:

ในดัชนี S&P 500

• Advance Auto Parts (NYSE:AAP): -20.86%

• Albemarle Corp (NYSE:ALB): -14.93%

• Capital One Financial (NYSE:COF): -14.8%

• Live Nation Entertainment (NYSE:LYV): -13.59%

• Align Technology (NASDAQ:ALGN): -11.16%

ในดัชนี NASDAQ คอมโพสิต

• Inotiv Inc (NASDAQ:NOTV): -65.11%

• Singularity Future Technology Ltd (NASDAQ:SGLY): -58.15%

• Infinity Pharmaceuticals Inc (NASDAQ:INFI): -48.82%

• Lumos Pharma Inc (NASDAQ:LUMO): -46.02%

• Kingstone Companies (NASDAQ:KINS): -45.6%