สรุป ราคาทองคําวานนี้ปิตปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระหว่างวันแกว่งแคบในกรอบ 15 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ราคาจะอ่อนตัวลงทดสอบระดับต่ําสุดบริเวณ 1,645.85 ดอลลาร์ต่อ ออนซ์ หลังการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.1% อย่างไรก็ดี แรงซื้อ Buy the dip ยังคงเข้ามาพยุงเอาไว้ ประกอบกับนักลงทุนกลับมาเปิดรับความเสี่ยง (Risk on) ขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของ Goldman Sachs Group Ina , ohnon & Johnson และ Lockheed Martin สภาพแวดล้อมดังกล่าวบันทอนความต้องการตอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ส่งผลให้การดีดตัวของตลลาร์เป็นไปอย่างจํากัด ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลดลงทดสอบระดับต่ําสุดในระหว่างวันบริเวณ 3.96% ทําให้ราคาทองคําเกิดการฟื้นตัวทดสอบกรอบบนบริเวณ 1,658-1,660.78 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นระยะ แต่จะเห็นได้ว่าการฟื้นตัว ของทองคําก็ไม่มากเช่นกัน เนื่องจากทองคํายังคงได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ล่าสุดนายนีส ศัชการี ประธานเฟดมินนิอาโปลิส กล่าวเมื่อวันอังคารว่า เฟดอาจจําเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่า 4.75% หากเงินเฟ้อพื้นฐานไม่หยุดเพิ่มขึ้น และต้องการเห็น “หลักฐานที่ชัดเจน” ว่าอัตรา เงินเฟ้อพื้นฐานได้ผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้วก่อนที่จะสามารถยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ ถ้อยแถลงในเชิง Hawkish ยังคงนั่นทอนแรงซื้อในตลาดทองคํา ด้านกองทุน SFOR ถือครองทองคํา ลดลง -0.29 ตัน สําหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยการอนุญาตก่อสร้าง, ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน และ Beige Book
ระหว่างวันหากราคาทองค าไม่หลุด 1,640 ดอลลาร์ต่อออนซ์(ระดับต ่าสุดของสัปดาห์ที่ผ่านมา) ราคามีโอกาสดีดตัวขึ้นช่วงสั้น โดยประเมิน แนวต้านแรกบริเวณ 1,661 ดอลลาร์ต่อออนซ์(ระดับสูงสุดของวันก่อนหน้า) หากยืนได้ราคาอาจขยับขึ้นต่อจะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,679 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดแนวรับแรก กรอบด้านล่างจะอยู่ที่ 1,627-1,614 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คําแนะนํา เปิดสถานะซื้อ $1,640
จุดทํากําไร ขายเพื่อทํากําไร $1,661-1,679
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด $1,614
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th