Investment Ideas:
ภาพรวมการลงทุน: เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,555-1,590 จุด เราคาดว่า SET จะยังคง ผันผวนต่อเนื่อง แต่การปรับลดลงจะเริ่มจํากัด หลังสะท้อนปัจจัยลบเรื่องเงินเฟ้อ และการเร่งปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยของเฟดไปมาก ทําให้ SET ในเดือน ต.ค. MTD ปรับลดลง 18.9 จุด (-1.19%) เป็นการปรับลดลง ต่อเนื่องจากเดือน ก.ย. ที่ลดลง 3.02% จากความกังวลที่ต่อเนื่องในประเด็นดังกล่าว เราคาดว่าตลาดหุ้นจะมี ปริมาณการซื้อขายที่ลดลง wow เนื่องจากเป็นมีวันหยุดยาวในช่วงปลายสัปดาห์ ประกอบกับการรอตัวเลข เงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่จะรายงานวันที่ 13 ต.ค. โดย Market Consensus คาดว่า CPI สหรัฐฯ เดือน ก.ย. จะ เพิ่มขึ้น 0.2%mom และเพิ่มขึ้น 8.1%yoy ลดลงจากเดือน ส.ค. ที่ 8.1%yoy และ Core CPI เดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 0.5%mom และเพิ่มขึ้น 6.5%yoy เราประเมินว่า หากรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ ออกมาขยายตัวต่ํา กว่าคาด หรือเท่ากับคาด จะส่งผลดีต่อภาพรวมการลงทุนในสัปดาห์หน้า แต่หาก CPI รายงานสูงกว่าคาด หรือ Core CPI มีการปรับขึ้น mom ที่สูงกว่า 0.5% จะเป็นภาพสะท้อนว่าภาวะเงินเฟ้อ จะไม่ใช่เพียงปัจจัย ระยะสั้นอีกต่อไป มีโอกาสกลับมาเป็นปัจจัยกดดันภาพรวมการลงทุน กลยุทธ์การลงทุน สําหรับนักลงทุนที่รับ ความเสี่ยงสูงได้ เราแนะนําเก็งกําไร หุ้นในกลุ่ม Domestics Play ได้แก่ หุ้นในกลุ่มอุปโภคบริโภค หุ้นในกลุ่มขนส่งในประเทศ และหุ้นใน Theme เปิดเมือง • กลยุทธ์การลงทุน หุ้นในพอร์ต 35% เลือก PTTEP BAFS BEM BDMS AWC CENTEL PTG SUSCO เป็นหุ้นเด่น
- เราปรับลดน้ําหนักหุ้นในพอร์ตเหลือ 35% จากเดิมที่ 40% เพิ่มลดความเสี่ยงจากการดําเนินนโยบายการเงินที่ เข้างวดมากขึ้นของเฟด Theme หุ้นที่น่าลงทุน เราเลือก หุ้นในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เราเลือก ASIAN SAPPE หุ้นในกลุ่ม Defensive เราเลือก BDMS BH หุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า เราเลือก EA GULF หุ้นในกลุ่มอุปโภคบริโภค เรา เลือก MAKRO CPALL (BK:CPALL) HMPRO GLOBAL หุ้นในกลุ่มขนส่งในประเทศ เราเลือก BEM และหุ้นใน Theme เปิด เมืองที่ยังน่าสนใจ เราเลือก AOT (BK:AOT) BAFS ERW AWC CENTEL PTG SUSCO ขณะที่เราแนะนําเก็งกําไรหุ้นในกลุ่ม พลังงาน เราเลือก PTTEP PTT (BK:PTT) BCP TOP SPRC
ประเด็นที่น่าติดตาม รายงานการประชุม FOMC เดือน ก.ย. + รายงานเงินเฟ้อ สหรัฐฯ และจีน - (11 ต.ค.) ญี่ปุ่น - บัญชีเดินสะพัด (Current Account) // (12 ต.ค.) ยูโรโซน - ดัชนีภาคการผลิตอุตสาหกรรม เดือน ส.ค. / สหรัฐฯ - รายงานการประชุม OPEC รายงาน Month report จากทาง EIA และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ก.ย. // (13 ต.ค.) ไทย – ปิดทําการซื้อขายระหว่างวันที่ 13-14 ต.ค. เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระ บรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และวันหยุดพิเศษ (14 ต.ค.) / เยอรมนี - อัตรา เงินเฟ้อ เดือน ก.ย. / สหรัฐฯ - รายงานการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC – ทราบผลเช้า 14 ต.ค.) รายงานปริมาณสํารองน้ํามันดิบประจําไตรมาสจาก API รายงานประจําเดือน ของ IEA ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน เดือน ก.ย. (คาด CP เพิ่มขึ้น 0.2%mom และเพิ่มขึ้น 8.1%yoy (ลดลงจาก เดือน ส.ค. ที่ 8.1%yoy) / Core CPI เดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 0.5%mom และเพิ่มขึ้น 6.5%yoy) จํานวนคนที่ยืน ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก และปริมาณสํารองน้ํามันดิบรวม Cushing จากทาง IEA// (14 ต.ค.) จีน - ดัชนี ราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน เดือน ก.ย. (คาดเพิ่มขึ้น 2.8%yoy เพิ่มขึ้นจากเดือน ส.ค. ที่เพิ่มขึ้น 2.5%yoy) ดัชนี ราคาผู้ผลิต (PPI) ของจีน เดือน ก.ย. และดุลการค้า เดือน ก.ย. (คาดเกินดุล 8.1 หมื่นล้านเหรียญ) / ยูโรโซน - ดุลการค้า เดือน ส.ค. / สหรัฐฯ - ดัชนียอดขายปลีก เดือน ก.ย. ดัชนีราคาสินค้านําเข้า เดือน ก.ย. ดัชนี้ยอดขาย ปลีก เดือน ก.ย. ความคาดหวังของผู้บริโภครัฐมิชิแกน เดือน ต.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภครัฐมิชิแกน เดือน
ต.ค. // (15 ต.ค.) สหรัฐฯ - จํานวนแท่นขุดเจาะน้ํามันทั้งหมดของบริษัท Baker Hughes ของสหรัฐฯ • ข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญ - ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือน ก.ย. ของจีน ลดลงสู่ระดับ 49.3 จุด ลดลงจากเดือน ส.ค. ที่ระดับ 55.0 จุด เนื่องจากมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อ อุปทานและอุปสงค์ รวมถึงจํากัดการเดินทางทั่วประเทศ ดัชนี PMI ที่อยู่ต่ํากว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคบริการอยู่ในภาวะ หดตัว และนับเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนที่ภาคบริการของจีนหดตัวลง ปัจจัยทางเทคนิค – หุ้นแนะนําทางเทคนิค ได้แก่ 6 VIBHA (แนวต้าน 3.08-3.12 / แนวรับ 2.92-2.88 /Stop loss 2.78) & SNNP (แนวต้าน 19.4-19.7 / แนวรับ 18.4-18.1/Stop loss 17.5) G PRAKIT (แนวต้าน 13.9-14.2 / แนวรับ 13.2-13.0/ Stop loss 12.5) SET ปรับฐานลงตามคาด - SET วานนี้ (10 ต.ค.) ปิดที่ระดับ 1,570.57 ลดลง 9.09 จุด (-0.58 6) มูลค่าการซื้อ ขาย 53,323.57 ล้านบาท (สูงสุด 1,573.41 จุด และตําสุด 1,562.35 จุด) หุ้นไทยปรับฐานลงตามคาด จากความ กังวลต่อการที่เฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐฯ รายงานตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าที่ ตลาดคาด ขณะที่แรงขายทํากําไรที่เกิดขึ้นเพื่อรอการรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ก.ย. ของสหรัฐฯ ที่ จะรายงานวันที่ 13 ต.ค. ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทย
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities