สรุปราคาทองคําวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวลดลง 16.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ระหว่างวันราคาทองคําพยายามทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,714.77 ติขสลาร์ต่อออนซ์ แต่ราคาทองคําไม่ สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้ โดยได้รับแรงกดดันจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 263,000 ตําแหน่งในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ที่ระดับ 250,000 ตําแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงเกินคาดสู่ระดับ 3.55% ขณะที่ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานดีดตัวขึ้น 0.3% สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง ซึ่งกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวเพื่อสกัดเงินเฟ้อ สะท้อนจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ําหนัก 92% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75bps สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากโอกาสราว 80% ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขในตลาดแรงงาน ปัจจัยดังกล่าวหนุนดัชนีดอลลาร์ ให้ปิตแข็งค่าขึ้น 0.55% ในวันศุกร์ ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 3.9099% และเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 10 ติดต่อ ซึ่งเป็นเป็นการปรับตัวขึ้นที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1994 จนเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคําให้ร่วงลงทดสอบระดับต่ําสุดบริเวณ 1,690.78 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือศรองทองคําลดลง -2.03 ตัน สําหรับวันนี้ ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ เนื่องจากภาศธนาคารของสหรัฐจะปิดทําการ เนื่องในวัน Columbus Day อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทและตลาดทองคํายังคงเปิดซื้อขาย แต่ปริมาณการซื้อขายอาจเบาบางกว่าปกติ
วันก่อนหน้าราคาอ่อนตัวลง หากราคาฟื้นตัวขึ้นไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ 1,714-1,729 ดอลลาร์ต่อ ออนซ์ อาจมีแรงขายออกมา อย่างไรก็ตาม หากการอ่อนลงของราคาไม่หลุดโซนแนวรับระยะสั้นอยู่ ที่ 1,688-1,683 ดอลลาร์ต่อออนซ์สะท้อนแรงขายอาจชะลอตัวหรืออาจเกิดการดีดตัวขึ้นช่วงสั้น และราคาจะแกว่งตัวออกด้านข้าง
คําแนะนํา เปิดสถานะขาย $1,714-1,729
จุดทํากําไร ซื้อคืนเพื่อทํากําไร $1,688-1,683
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน $1,754
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th