รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ราคาทองคําไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้ โดยได้รับแรงกดดัน 3 ประการ

เผยแพร่ 28/09/2565 10:18
อัพเดท 09/07/2566 17:32

สรุปราคาทองคําวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระหว่างวันราคาทองคําฟื้นตัวขึ้นจากแรงซื้อ Buy the Dip ขณะที่เงินปอนด์ของอังกฤษฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์จาก การคาดการณ์ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ขาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อพยุงค่าเงินปอนด์ ทําให้ดัชนีดอลลาร์ชะลอการแข็งคําจนหนุนให้ราคาทองคําฟื้นตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,642.33 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคําไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้ โดยได้รับแรงกดดันจาก..

(1.)แรงชายกําไรและแรงขายทางเทคนิค

(2.) ถ้อยแถลงในเชิง Hawkish ของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลาง สหรัฐ(เฟด) อาทิ นายนีส คัชการี ประธานเฟดมินนิอาโปลิส ที่ระบุว่าเฟดมีความมุ่งมั่นที่จะลดอัตราเงินเฟ้อ และตลาดการเงินก็เข้าใจดี ขณะที่เฟดจําเป็นต้องคุมเข้มนโยบายการเงินมากขึ้นเรื่อยๆ จนกว่า จะมีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อกําลังลดลง จากนั้นเฟดควรหยุด รอและปล่อยให้นโยบายการเงินที่เข้มงวดดําเนินต่อไปเพื่อดูว่าเฟดได้ดําเนินการเพียงพอแล้ว ส่วนนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดประจําปี คาโก กล่าวว่า เฟดจะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ4.50-4.75% ซึ่งเป็นจุดยืนที่แข็งกร้าวมากกว่าที่เขาเคยยอมรับก่อนหน้านี้ และ

(3.) การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ “ดีเกินคาด” ไม่ว่าจะเป็นยอดขายบ้าน ใหม่ และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจาก Conference Board ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งช่วยสนับสนุนให้เฟดสามารถเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ปัจจัยดังกล่าวช่วยพยุง ดอลลาร์ และหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีให้พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 12 ปีครึ่งที่ 3.992% จนเป็นปัจจัยสกัดช่วงบวกราคาทองคํา ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองค้าลดลง - 2.61 ต้น สําหรับวันนี้จับตาผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ของไทย และติดตามการเปิดเผยยอดทําสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย รวมถึงถ้อยแถลงของประธานเฟด

หลังจากราคาทองคำดีดตัวขึ้นในระยะสั้นในช่วงที่ก่อนหน้านี้มีแรงขายทำกำไรสลับออกมาแสดงให้ เห็นถึงการแกว่งตัวในทิศทางที่อ่อนตัวลง เบื้องต้น หากราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,643 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ได้(ระดับสูงของวันก่อนหน้า) โดยนักลงทุนต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรออกมาที่อาจ เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจกดดันราคาทองคำให้ลงสู่แนวรับในระดับ 1,620-1,615 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้

คําแนะนํา เปิดสถานะขาย $1,643-1,664

จุดทํากําไร ซื้อคืนเพื่อทํากําไร $1,620-1,615

ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสกานะขายหากผ่าน $1,664

บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th

 

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย