Investment Ideas:
SET อ่อนตัวตามคาด ด้วยปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง - SET วานนี้ปิดที่ระดับ 1,586.18 จุด ลดลง 8.29 จุด (-0,52%) มูลค่าการซื้อขาย 55,564.35 ล้านบาท (สูงสุด 1,590.05 จุด และต่ําสุด 1,582.52 จุด) SET เคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ และตอบรับเชิงลบต่อการ รายงานตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยเฉพาะดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ต่ํากว่าคาด และลดลง ต่อเนื่อง เพิ่มความกังวลต่อภาพรวมเศรษฐกิจถอถอย ปริมาณการซื้อขายเป็นไปอย่างเบาบาง อย่างไรก็ ตาม Downside ของการปรับลดลงของ SET ค่อยข้างจํากัด หลังมีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะ กลุ่มพลังงานต้นน้ําอย่าง PTTEP และ BANPU รวมไปถึงหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นอย่าง BCP และ ESSO หนุน ตลาด 0.45 จุด ภาพรวมการลงทุนวันนี้: ความกังวลต่อภาพรวมเศรษฐกิจ กดดัน SET วันนี้ - เราคาดว่า SET วันนี้ จะ เคลื่อนไหวในกรอบ 1,575-1,600 จุด เราคาดว่า SET ยังคงมีโอกาสปรับลดลง จากความกังวลต่อภาพรวม เศรษฐกิจที่ถอถอย หลังสหรัฐฯ รายงานตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้าย ในช่วง 1Q65 หดตัว 1.6% หดตัว มาก์กว่าที่ Market Consensus คาดว่าจะหดตัว 1.5% และเป็นการหดตัวเพิ่มเติมจากประมาณการครั้งที่ 1 และ 2 ที่คาดว่าหดตัว 1.4% และ 1.5% ตามลําดับ ขณะทีถ้อยแถลงของประธานเฟด ในประชุมประจําปี ของ ECB ยังคงระบุการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบีย ซึ่งยิ่งนําไปสูงภาวะเศรษฐกิจถดถอย ประเด็นดังกล่าวทําให้ Dollar Index กลับมาแข็งค่า ราคาน้ํามันดิบ และสินทรัพย์เสียงปรับลดลง สัปดาห์ยังคงต้องติดตามรายงาน ตัวเลขเศรษฐกิจ ทั้ง GDP สหรัฐฯ รายงานเงินเฟ้อ PCE ของสหรัฐฯ และ CPI ของยูโรโซน และรายงาน PMI ภาคการผลิตของ จีน ญี่ปุ่น ยูโรโซน และสหรัฐฯ โดยเราคาดว่าจะเป็นรายงานสถิติที่อ่อนแอ และจะเป็น ปัจจัยกดดันต่อ SET กลยุทธ์การลงทุน เรายังคงแนะนํา Selective หุ้นส่งออกอาหาร และหุ้นในกลุ่มเปิด เมืองเปิดประเทศ กลยุทธ์การลงทุน หุ้นในพอร์ต 40% เน้นหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ส่งออกอาหาร และโรงไฟฟ้า
- กลยุทธ์การลงทุน เราให้น้ําหนักการลงทุนในหุ้น 40% ของพอร์ตเราปรับพอร์ตหุ้นมาสู่หุ้นที่ Defensive มากขึ้น เลือก หุ้นใน กลุ่มโรงไฟฟ้า ที่ราคาหุ้นยัง Laggard เราเลือก RATCH EGCOCK GULF GPSC และ BGRIM และหุ้นใน กลุ่มโรงพยาบาล เราเลือก BH และ BDMS หุ้นใน Theme เปิดเมืองเปิดประเทศ เราเลือก AOT (BK:AOT) BAFS BEM ERW MINT SHR และ VRANDA และหุ้นส่งออกกลุ่มอาหาร เราเลือก TUCPF GFPT TFG และ ASIAN ที่ได้ ประโยชน์จากภาวะขาดแคลนอาหารทั่วโลก และค่าเงินบาทอ่อนค่า พาวเวลาเร่งขึ้นดอกเบี้ย สกัดเงินเฟ้อ อาจนําไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถอถอย เป็น Sentiment เชิงลบต่อ SET
- ถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมประจําปีของธนาคาร กลางยุโรป (ECB) ยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีเพื่อทําให้เงินเฟ้อปรับตัวลง ประเด็นดังกล่าว จะยังเป็นปัจจัยกระทบ Sentiment การลงทุนจากความกังวลต่อการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย จะลดทอนการ ขยายตัวทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามเฟดประเมินผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อสูง มีมากกว่าภาวะเศรษฐกิจ ถดถอย อย่างไรก็ตามการที่เฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบียจะส่งผลให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เรามอง เป็นลบต่อภาพรวมการลงทุน
คาดหุ้นกลุ่มพลังงานตอบรับเชิงลบจากราคาน้ํามันดิบที่ปรับลดลง แต่เป็นบวกกับ BGRIM และ GPSC - สัญญาน้ํามันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดที่ 109.78 เหรียญต่อบาร์เรล ลดลง 1.98 เหรียญ (-1.896) ปรับ ลดลงหลัง EIA รายงานปริมาณสํารองน้ํามันสําเร็จรูปสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาด ขณะที่ถ้อยแถลงของ ประธานเฟด ยังคงย้ําจุดยืนในการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะนําไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งจะส่งผล กระทบต่อความต้องการใช้น้ํามันดิบในระยะต่อไป โดยสํานักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาล สหรัฐ (EIA) รายงานปริมาณสํารองน้ํามันดิบ สัปดาห์ที่ผ่านมา (สิ้นสุด 24 มิ.ย.) ระบุปริมาณสํารองน้ํามัน เบนซิน เพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล (คาดลดลง 452,000 บาร์เรล) ขณะที่ปริมาณสํารองน้ํามันกลัน (ฮีตติ้ง ออยล์และน้ํามันดีเซล) เพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล (คาดลดลง 525,000 บาร์เรล) ขณะที่ปริมาณสํารอง น้ํามันดิบสหรัฐฯ ลดลง 2.8 ล้านบาร์เรล (คาดลดลง 569,000 บาร์เรล) อย่างไรก็ตามเรามองเป็นผลกระทบ ระยะสันต่อราคาน้ํามันดิบ เนื่องจากภาพรวมราคาน้ํามันดิบ ยังคงอยู่ในภาวะอุปทานตึงตัว โดยยังคงต้อง ติดตามการประชุม OPEC+ ซึ่งเริ่มเมื่อคืนที่ผ่านมา และจะสิ้นสุดการประชุมวันนี้ (30 มิ.ย.) โดยเราคาดว่า OPEC+ จะมีมติเพิ่มกําลังผลิตเพียง 648,000 บาร์เรลต่อวัน สําหรับแผนการผลิต ในเดือน ก.ค. และ ส.ค. ปัจจัยดังกล่าวจะเป็นลบต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามจะกลับมาเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า BGRIM และ GPSC สัปดาห์นี้ติดตามรายงาน PM) ของจีน รวมไปถึงรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ (PCE) - 30 มิ.ย. : จีน - ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน เดือน มิ.ย. (คาด 48.6 จุด ลดลงจากเดือน พ.ค. ที่ 49.6 จุด) / อังกฤษ - รายงาน GDP ในช่วง 1Q65 (คาดเพิ่มขึ้น 0.8%QoQ และเพิ่มขึ้น 8.79%YoY) / สหรัฐฯ - จํานวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการ ว่างงานครั้งแรก (คาดเพิ่มขึ้น 2.27 แสนราย ลดลงจากสัปดาห์ก่อนที่2.29 แสนราย) / สหรัฐฯ : ดัชนีราคา ด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) เดือน พ.ค. (คาดเพิ่มขึ้น 0.49%MoM และเพิ่มขึ้น 4.89%YoY ลดลงจากเดือน เม.ย. ที่ 4.9%YoY) รวมไปถึงการประชุม OPEC+
ปัจจัยทางเทคนิค - หุ้นแนะนํา ได้แก่ & BAFS (แนวต้าน 29.75-30.50 / แนวรับ 28.25-28.00 /Stop loss 26.25) & SAPPE (แนวต้าน 37.50-38.25 / แนวรับ 36.00-34.75/Stop loss 32.50) @ KEX (แนวต้าน 24.80-25.50 / แนวรับ 23.6-23.2/Stop loss 22.1)
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities