ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบหลังโดนเทขาย เป็นปัจจัยหนุนทองคำ

สรุป หลังจากเมื่อวานนี้ราคาทองคําปิดปรับตัวลดลงอีกเล็กน้อย 2.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.54% จากแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลง หลังจากนางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ไม่ได้ให้ข้อมูลเชิงลีกใหม่ ๆ เกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการเงินของ ECB สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคําร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,818.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนในวันนี้ราคาทองคําเคลื่อนไหวในทิศทาง Sideway อยู่ในกรอบ 1,817.50-1,822.93 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้รับปัจจัยบวกหนุนราคาทองคําจากรัฐบาล ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐขึ้นบัญชีดําทางการค้าบริษัท 5 แห่งในจีนเมื่อวันอังคาร โดยกล่าวหาว่าบริษัทเหล่านั้นสนับสนุนฐานอุตสาหกรรมทางทหารและการ ป้องกันประเทศของรัสเซีย ประกอบกับ ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียร่วงลงในเช้าวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงเกือบ 500 จุดในวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นเป็นวงกว้าง หลังมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐทรุดตัวลงอย่างหนัก ด้าน รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดค้าปลีกของ ญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนพ.ค. ซึ่งตอกย้ํามุมมองที่ว่า การบริโภคที่แข็งแกร่งจะนําไปสู่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสนี้ สําหรับคืนนี้แนะนําให้นัก ลงทุนติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ มีการเปิดเผยประมาณการครั้งสุดท้ายจีดีพีไตรมาส 1/2022 และถ้อยแถลงของประธานเฟด นอกจากนี้ ประธาน ECB และ ประธาน BOE มีกําหนดจะเข้าร่วมอภิปรายในหัวข้อ “Policy paner ในงานสัมมนา ECB Forum ที่จัดขึ้นในเมืองซินตราของโปรตุเกส

คําแนะนํา เปิดสถานะซื้อหากยืน $1,812

จุดทํากําไร ขายเพื่อทํากําไร $1,837-1,848

ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลด $1,812

บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th