Investment Ideas:
SET แกว่งตัวในกรอบแคบ เพื่อรอผลประชุมเฟดค่ําวันนี้ - SET วานนี้ปิดที่ระดับ 1,603,03 จุด เพิ่มขึ้น 2.97 จุด (+0.19%) มูลค่าการซื้อขาย 63,139.45 ล้านบาท (สูงสุด 1,605.53 จุด และตําสุด 1,590.75 จุด) SET แกว่งตัวในกรอบแคบ เพื่อรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 14-15 ม.ย. (ทราบผลช่วงคําวันที่ 15 มิ.ย.) โดย SET พักตัวในระดับแนวรับ 1,600 จุด หลังสะท้อนความ เป็นไปได้ที่เพิ่มขึ้นที่ว่า เฟดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ที่ระดับ 75bps ภาพรวมการลงทุนวันนี้: คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบ Sideway ลุ้นฟื้นตัวหลังเฟดประชุมเสร็จ แต่ยังต้อง ตามเงินเฟ้อยูโรโซน ศุกร์นี้ - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,580-1,620 จุด (แนวรับ 1,5901,580 จุด แนวต้าน 1,610-1,620 จุด) เราคาดว่า SET จะยังผันผวน ในกรอบ Sideway หลังอัตรา ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี และ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้น อยู่ที่ระดับ 3.4% และ 3.44% ตามลําดับ กดดันหุ้นในกลุ่ม dividend play รวมไปถึงราคาทองคํา ขณะที่ตลาดยังคงติดตามการประชุม FOMC ที่เริ่มตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเรามองว่าตลาดสะท้อนความกังวลต่อการที่เฟดจะปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ย 75bps ในการประชุมรอบนี้ ทําให้ Downside ของตลาดค่อนข้างจํากัด อย่างไรก็ตามการฟื้น ตัวยังมีปัจจัยจํากัดจากภาพรวมเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมไปถึงสัญญาณการเกิด Inverted Yield Curve ระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสันเทียบกับระยะยาว เรายังเชื่อว่าหากผลการ ประชุม FOMC ที่จะทราบผลเช้าพรุ่งนี้ ไม่มีมุมมองที่ Hawkish มากกว่าที่เราคาด เราเชื่อว่า SET มีโอกาส ฟื้นตัวเล็กน้อยก่อนการประชุม โดยเราประเมินกรอบแนวต้านไว้ที่ 1,630-1,645 จุด แต่ยังคงต้องติดตาม รายงานเงินเฟ้อยูโรโซน เดือน พ.ค. โดย Market Consensus ยังคาดว่าจะปรับเพิ่ม 8.1%YoY ติดตาม 3 การประชุมธนาคารกลางสําคัญ FOMC BOE และ BOJ พร้อมรายงานเงินเฟ้อยูโรโซน - สัปดาห์นี้ มีประเด็นที่น่าติดตามหลายเรื่อง โดยเริ่มจากการประชุม FOMC ระหว่างวันที่ 14-15 มิ.ย. (ทราบผลเช้าวันที่ 16 มิ.ย.) นอกจากนี้ยังมีการประชุม BOE วันที่ 16 มิ.ย. เราคาดว่า BOE จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 25bps สู่ระดับ 1.25% และวันที่ 17 พ.ค. ติดตามการประชุม BOI (คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย) และรายงาน CPI ยูโรโซน เดือน พ.ค. (คาดเพิ่มขึ้น 8.1%YoY) รวมไปถึงถ้อยแถลงของประธานเฟด ในช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่ข้อมูล ด้านเศรษฐกิจ ติดตามรายงานดัชนีภาคการผลิตของจีน เดือน พ.ค. และรายงานดัชนียอดขายปลีกสหรัฐฯ เดือน พ.ค. วันที่ 15 พ.ค. กลยุทธ์การลงทุน หุ้นในพอร์ต 40% เน้นหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว เปิดเมือง อาหาร Laggard play หุ้น Defensive และปันผลสูง - กลยุทธ์การลงทุน เราให้น้ําหนักการลงทุนในหุ้น 40% ของพอร์ต เราปรับพอร์ตหุ้นมาสู่หุ้นที่ Defensive มากขึ้น ได้แก่ หุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า ที่ราคาหุ้นยัง Laggard เราเลือก RATCH EGCOULFGPSC และ BGRIM และหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล เราเลือก BH และ BDMS และได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น เรา เลือก BLA และ TIEH หุ้นใน Theme เปิดเมืองเปิดประเทศ เราเลือก AOT (BK:AOT) BAFS BEM PTG และ SUSCO กลุ่มอาหารและร้านอาหาร เราเลือก MUD M SORKON TUCPF GFPT TFG และ ASIAN
SET สะท้อนปัจจัยลบไปมาก หากเฟดไม่ส่งสัญญาณ Hawkish มากกว่าคาด เชื่อ SET มีโอกาสฟื้นตัวระยะ สั้น หลังการประชุม คณะกรรมการกําหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มการ ประชุมเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยสัปดาห์นี้ SET ปรับลดลงกว่า 30 จุด (-1.86) สะท้อนความเป็นไปได้ที่เพิ่มขึ้น ต่อการที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75bps ในการประชุม 14-15 มิ.ย. โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group ระบุว่านักลงทุนให้น้ําหนัก 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75bps สะท้อนรายงานดัชนี ราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 8.6%YoY สูงสุดในรอบในรอบ 40 ปี และมากกว่าที่ Market Consensus ที่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 8.3% เราประเมินแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเฟดูร อบต่อไป ระหว่างวันที่ วันที่ 26-27 ก.ค. และรอบวันที่ 20-21 ก.ย. เราคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อีก 75bps และ 50bps ตามลําดับ ขณะที่ใน 2 ครั้งที่เหลือของปี 2565 รอบระหว่างวันที่ 1-2 พ.ย. และรอบ วันที่ 13-14 ธ.ค. คาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบีย รอบละ 25bps ซึ่งจะทําให้อัตราดอกเบี้ยนโยบาย ณ สิ้นปี 2565 อยู่ที่ 3.2596-3.50% และเพิ่มขึ้นเป็น 4.0% ภายในกลางปี 2566 จากปัจจุบันที 0.7596-1.00% แม้มุมมอง ปัจจุบันจะ Hawkish มากกว่าที่เราคาดหมายไว้ก่อนหน้านี้ แต่เราเชื่อว่า SET ได้ Price-in ปัจจัยดังกล่าวไป มากแล้ว ซึ่งหากผลการประชุมไม่มี Negative Surprise ในด้านที่ Hawkish มากกว่าที่เราคาด เราเชื่อว่า SET จะกลับมาฟื้นตัวหลังการประชุม โดยเราประเมินกรอบแนวต้านไว้ที่ 1,630-1,645 จุด ในทางกลับกัน หากเฟดส่งสัญญาณ Hawkish มากกว่าที่เราคาด SET จะปรับลดลงทดสอบแนวรับที่ระดับ 1,585-1,565 จุด รายงานตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญ - กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็น มาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 0.86MoM และเพิ่มขึ้น 10.8%YoY (ตามคาด) หลังรายงาน PPI เดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 0.49%MoM และเพิ่มขึ้น 11%YoY ส่วนดัชนี PP พื้นฐาน (ไม่นับรวม หมวดอาหารและพลังงาน) เพิ่มขึ้น 0.59%MoM และเพิ่มขึ้น 6.89%YoY (คาดเพิ่มขึ้น 0.69%MoM) หลัง รายงาน PPI พื้นฐาน เดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 0.4%MoM และเพิ่มขึ้น 6.8%YoY
ปัจจัยทางเทคนิค - หุ้นแนะนํา ได้แก่ G BLA (แนวต้าน 45.0-47.75/ แนวรับ 43.0-41.75/Stop loss 38.75) E ASIAN (แนวต้าน 18.0-18.7/ แนวรับ 17.1-16.8/Stop loss 15.6) ย TFG (แนวต้าน 5.806.15/ แนวรับ 5.30-5.15/ Stop loss 4.78)
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities