ภาพรวมตลาดทองแดงยังไม่ชัดเจน แม้ว่าจีนจะคลายล็อกดาวน์โควิดลงแล้ว

การประกาศคลายล็อกดาวน์สถานการณ์โควิดอย่างเป็นทางการของประเทศจีน สร้างความเบาใจให้กับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการก่อสร้างและการวางโครงสร้างพื้นฐาน ในฐานะที่จีนเป็นประเทศผู้ซื้อแร่โลหะมากที่สุด การคลายมาตรการคุมเข้มนี้จึงถือว่าเป็นข่าวที่ดีเอามากๆ 

การล็อกดาวน์มหานครเซี่ยงไฮ้ทำให้ราคาโลหะทองแดงปรับตัวลดลงมาจากจุดสูงสุดที่ $5.03 ลงมายัง $4.04 คิดเป็นการร่วงลงเกือบ 20% ภายในระยะเวลาเพียงสองเดือน ถึงแม้การคลายล็อกดาวน์จะเป็นข่าวดี แต่เรื่องที่ประหลาดใจก็คือทำไมราคาแร่ทองแดง ซึ่งจีนเป็นหนึ่งในผู้ที่ซื้อมากที่สุดกลับปรับตัวลดลงแทนที่จะวิ่งขึ้น? มีการระบาดของโควิดระลอกใหม่ที่ไหนสักที่อย่างนั้นหรือ? หรือเพราะการวิเคราะห์ทางเทคนิคบอกเป็นนัยว่ามีโอกาสที่ราคาจะลงลึก? 

ในช่วงที่ตลาดลงทุนฝั่งเอเชียเปิดทำการเมื่อวานนี้ ราคาซื้อขายทองแดงบนตลาด COMEX มีราคาอยู่ที่ $4.39 ปรับตัวลดลง 1.7% นับตั้งแต่ต้นสัปดาห์มาจนถึงปัจจุบัน ถือเป็นการย่อตัวลงมาจากการรีบาวด์ขึ้นมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 7%

อ้างอิง: skcharting.com

สิ่งที่ทำให้ราคาทองแดงปรับตัวลดลงมาก็คือผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมของฝั่งยุโรป ไม่ใช่แค่ทองแดงเท่านั้น แต่สินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆ เช่นแร่เหล็ก อลูมิเนียมก็ต้องเจอกับปัญหาในลักษณะเดียวกัน สำนักข่าวรอยเตอร์เขียนบทความอธิบายถึงสถานการณ์ความเป็นมาของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทแร่โลหะว่าก่อนหน้านี้ในช่วงกลางปี 2020 - ช่วงสิ้นปี 2021 ราคาโลหะทั่วโลกเคยปรับตัวขึ้นเพราะนักลงทุนจากจีนเข้ามาช้อนซื้อเป็นจำนวนมาก 

แต่การระบาดของโควิดในช่วงเดือนมีนาคมก็ได้ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป มาตรการล็อกดาวน์กระทบความสามารถในการซื้อแร่โลหะ กดดันราคาและกระทบต่อบริษัทผู้ผลิต จากการวิเคราะห์ราคาอลูมิเนียม สังกะสี แท่งเหล็ก แร่เหล็กในตลาดฟิวเจอร์สต่างแสดงข้อมูลตรงกันว่ามีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลดลงไปจนกระทั่งสิ้นปี 2022

แต่พึ่งจะดีใจได้ไม่นาน ก็ต้องมานั่งจับตาสถานการณ์โควิดในจีนกันใหม่อีกครั้ง เมื่อวานนี้มีข่าวจาก South China Morning Post รายงานว่าประชาชนในเมืองที่อยู่รอบในของมองโกเลียติดโควิด จนทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองต้องถูกสั่งให้อยู่แต่ในบ้านไปเรียบร้อยแล้ว 

คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติรายงานว่าผู้ป่วยในท้องถิ่นรายใหม่ 16 คนในมองโกเลียใรอบน ซึ่งเป็นวันที่สามติดต่อกันที่พบผู้ติดเชื้อในชุมชนมากกว่า 10 ราย และทำให้ยอดรวมในการแพร่ระบาดครั้งนี้เป็น 41 ราย นอกจากนี้ ยังมีผู้ป่วยรายใหม่ที่ไม่แสดงอาการในพื้นที่ 33 ราย รวมทั้งหมดเป็น 49 ราย เหตุการณ์ดังกล่าวกระตุ้นให้ เอเรนฮอต (Erenhot) ซึ่งเป็นเมืองระดับเทศมณฑลใน ซีลิงกอล (Xilin Gol) ออกมาตรการเหมือนล็อกดาวน์ โดยขอให้ผู้อยู่อาศัยทั้งหมดอยู่บ้าน เว้นแต่ว่าพวกเขาจำเป็นต้องทำธุรกิจเร่งด่วน

เอสซีเอ็มพีรายงานว่าธุรกิจส่วนใหญ่ยกเว้นซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยา และศูนย์การแพทย์ ได้รับคำสั่งให้ระงับการดำเนินการ และการเดินทางเข้าและออกจากพื้นที่ถูกจำกัด ในปี 2022 นี้มองโกเลียถูกโควิดโจมตีไปหลายครั้ง จากช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์มาจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม มียอดผู้ติดเชื้อรวมทั้งหมดเกิน 500 ราย หลังจากนั้นเกือบเดือนก็ไม่มีข่าวการระบาดใหม่จนกระทั่งซีลิงกอลมาพบกับผู้ติดเชื้อใหม่สามรายเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

การระบาดทำให้ภาคการก่อสร้างหดตัว ความอ่อนแอในภาคการก่อสร้าง ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่งของเหล็กกล้าทั้งหมด และประมาณ 30% ของอะลูมิเนียมที่ใช้ในประเทศจีน ได้ทำลายความเชื่อมั่นในความสามารถของการผลิตเหล็ก กระตุ้นให้บริษัทแปรรูปเหล็ก และบริษัทขายเหล็กต้องเอาคงสินค้าคงคลังภายในประเทศออกมาขาย แทนที่จะเก็บไว้ 

สิ่งที่เกิดขึ้นกับแร่เหล็กก็เกิดขึ้นกับความต้องการทองแดงเช่นกัน Che Guojun นักวิเคราะห์จาก Antaike บริษัทที่ปรึกษาที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ คาดการณ์ว่าปริมาณทองแดงที่ใช้ในเครื่องใช้ไฟฟ้าในจีนอาจจะลดลงประมาณ 2% ในปี 2022 จาก 1.79 ล้านตันในปีที่แล้ว 

แล้วการวิเคราะห์ทางเทคนิคมีความเห็นเช่นไรบ้าง? Sunil Kumar Dixit หัวหน้านักวิเคราะห์ทางเทคนิคของ skcharting.com เขาให้ความเห็นว่า

“ความเคลื่อนไหวของราคาทองแดงมีโอกาสเป็นได้ทั้งการปรับตัวขึ้นและลง แต่ในระยะสั้นมีโอกาสที่จะค่อนไปในทางขาลงมากกว่านิดหน่อย จากการวิเคราะห์ด้วยเครื่องมือ Fibonacci ที่ลากเทียบระหว่างจุดสูงสุด $5.03 ลงมายังจุดต่ำสุด $4.30 พบว่าราคาทองแดงวิ่งอยู่ที่ 50% พอดี และยังเป็นบริเวณเดียวกันกับเส้นค่าเฉลี่ย EMA 50 วันหรือที่ $4.40 นี่คือสาเหตุที่ผมมองว่ามีโอกาสที่ราคาจะวิ่งไปได้ทั้งสองทาง”

“สำหรับขาขึ้น” เขากล่าวต่อ “ราคาทองแดงต้องสามารถยืนเหนือ $4.60 ให้ได้ก่อน จึงจะมีโอกาสขึ้นทดสอบระดับราคา $5.03 ได้ ส่วนขาลงนั้น ถ้าหากลงไปวิ่งต่ำกว่า $4.0 จะเป็นการส่งสัญญาณเข้าสู่โหมดปรับฐานจริงจัง และมีโอกาสที่ราคาจะวิ่งลงไปยัง $3.80 ซึ่งอาจจะลากยาวลงไปถึง $3.5 ได้ ส่วนขาลงในระยะสั้นที่ผมพูดถึง คือโอกาสที่จะลงไปทดสอบระดับราคา $4.30 และ $4.20”