ภาพรวมการลงทุน ยังมีแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่ปรับเพิ่มทั่วโลก

Investment Ideas:

SET ปิดปรับลดลงเล็กน้อย การซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน หลังรายงาน CPI ของไทยเพิ่มมากกว่าคาด - SET วานนี้ ปิดที่ระดับ 1,646.08 จุด ลดลง 1.59 จุด (-0.10%) มูลค่าการซื้อขาย 58,372.21 ล้านบาท (สูงสุดอยู่ที่ 1,652.11 จุด และต่ําสุดที่ 1,636.08 จุด) SET ตอบรับเชิงลบทันทีต่อรายงาน อัตราเงินเฟ้อ ของไทยในเดือน พ.ค. ออกมาสูงถึง 7.1% ทําให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการดําเนินนโยบายทางการเงิน ของไทย ที่อาจนําไปสู่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เร็วกว่าตลาดคาดหมาย ขณะที่การซื้อขายช่วงบ่าย กลับมาฟื้นตัว จากปัจจัยภายนอกที่ได้รับปัจจัยบวกจากการคาดหมายที่จะเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

• ภาพรวมการลงทุนวันนี้: คาด SET ยังคง Sideway รอผลการประชุม กนง. (8 มิ.ย.) รวมถึงการประชุม ECB (9 มิย.) และรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ (10 มิ.ย.) - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,635-1,655 จุด เราคาดว่า SET จะเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway ถึง Sideway down โดยยังมีปัจจัยกดดันจากความ กังวลต่อการดําเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั้งในและต่างประเทศ หลังรายงานเงินเฟ้อของไทย และยูโรโซน ออกมาสูงกว่าคาด จะนําสู่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอัตราเร่ง และเร็วกว่าคาด ติดตามการประชุม กนง. พรุ่งนี้ (8 มิ.ย.) หลังวานนี้รายงานอัตราเงินเฟ้อของไทย เดือน พ.ค. สูงถึง 7.1%YoY รวมไปถึงการประชุม ECB (9 มิ.ย.) หลังก่อนหน้านี้รายงานเงินเฟ้อยูโรโซน สูงถึง 8.1% มากกว่าคาด และ รายงานเงินเฟ้อเดือน พ.ค. ของสหรัฐฯ (10 มิ.ย.) ที่คาดว่าจะยังทรงตัวในระดับสูงที่ 8.3% เท่ากับเดือนเม.ย.

กลยุทธ์การลงทุน คงหุ้นในพอร์ต 40%-45% แนะนําลงทุนหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เราเลือก PTG SUSCO BEM BH KBANK (BK:KBANK) GPSC และ BGRIM เป็นหุ้นเด่น – กลยุทธ์การลงทุน เรายังคงน้ําหนักการลงทุน ในหุ้น 40%-45% ของพอร์ต เราให้น้ําหนักหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการ ท่องเที่ยว (กลุ่มสนามบิน สายการบิน โรงแรม) หุ้นในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเมืองและเปิดประเทศ หุ้นในกลุ่มอุปโภคบริโภคในประเทศ หุ้นในกลุ่มอาหาร รวมทั้งหุ้นที่ถูกคาดหมายผลประกอบการ 2Q65 แข็งแกร่งต่อเนื่อง เราเลือก AOT (BK:AOT) BAFS AAV MINT ERW SHR CENTEL BH BDMS PTG SUSCO BEM CK SEAFCO KBANK TU CPF GFPT ASIAN GPSC BGRIM Lay CPALL (BK:CPALL)

สํานักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือน พ.ค. อยู่ที่ระดับ 106.62 จุด เพิ่มขึ้น 1.4%MoM และเพิ่มขึ้น 7.1%YoY มาจากสินค้ากลุ่มพลังงาน ที่ เพิ่มขึ้น 37.24% มาจากราคาน้ํามันเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น 35.89% ตามทิศทางราคาน้ํามันในตลาดโลก ค่า กระแสไฟฟ้า เพิ่มขึ้น 45.43% หลังมีการปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) รอบเดือน พ.ค.-ส.ค. 65 และราคา ก๊าซหุงต้ม สูงขึ้น 8% ตามแผนการทยอยปรับเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันได ตั้งแต่ เม.ย.-มิ.ย. 65 ทําให้อัตราเงินเฟ้อ เฉลี่ย 5M65 อยู่ที่ 5.19% ด้านดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) เดือน พ.ค. 65 อยู่ที่ 102.74 จุด เพิ่มขึ้น 0.17% MoM และเพิ่มขึ้น 2.28%YoY ส่งผลให้ Core CPI เฉลี่ย 5M65 อยู่ที่ 1.72% / ความเห็น - เราเชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อเดือน มิ.ย. ของไทย ยังมีแนวโน้มปรับเพิ่มต่อเนื่อง จากราคาน้ํามันดิบในตลาดโลกที่ ปรับเพิ่ม รวมไปถึงแผนการปรับเพดานราคาน้ํามันดีเซลในประเทศ การปรับขึ้นราคาก๊าซฯ หุงต้ม และ ผลกระทบต่อเนื่องจากการปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) รอบเดือน พ.ค.-ส.ค. 65 ประกอบกับการที่ ผู้ประกอบการทยอยปรับเพิ่มราคาสินค้าในประเทศ หลังสินค้าที่เป็นต้นทุนผลิตเดิมทยอยหมดลง ทําให้ ภาพรวมอัตราเงินเฟ้อในช่วงที่เหลือของปี 2565 ยังเป็นขาขึ้น จากอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในช่วง 1Q65 ที่ผ่านมา อยู่ที่ 4.75% / คําแนะนําการลงทุน - ติดตามการประชุม กนง. วันที่ 8 มิ.ย. เพื่อรับฟังความเห็นของ กนง. ในการกําหนดทิศทางการดําเนินนโยบายการเงิน และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะต่อไป เราประเมินว่า ปัจจัยดังกล่าวจะเป็นลบต่อภาพรวมการลงทุน โดยตัวเลขอัตราเงินเฟ้อล่าสุดที่ออกมาสูงกว่าคาดมาก จะเพิ่ม น้ําหนักต่อความกังวลที่ กนง. จะเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะอันใกล้ กลยุทธ์การลงทุน เรายังเน้นหุ้นในกลุ่ม Laggard play

• สัปดาห์นี้ติดตามรายงานเศรษฐกิจที่สําคัญสัปดาห์นี้ - 7 มิ.ย. : ดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการของ เยอรมนี เดือน พ.ค. (คาด 51.8 จุด ทรงตัว MoM) และดุลการค้าสหรัฐฯ เดือน เม.ย. (คาดขาดดุล 8.93 หมื่นล้านเหรียญ) ปัจจัยทางเทคนิค - หุ้นแนะนํา ได้แก่ & PTG (แนวต้าน 15.0-15.5 / แนวรับ 14.4-14.2/Stop loss 13.6) G SUSCO (แนวต้าน 3.74-3.84 / แนวรับ 3.58-3.50 / Stop loss 3.38) 6 ASIAN (แนวต้าน 17.00-17.40 / แนวรับ 16.60-16.40 / Stop loss 15.90)

บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities