Investment Ideas:
ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,620-1,650 จุด คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบ Sideway จาก Upside ที่เริ่มจํากัด หลังฟื้นตัวกว่า 3.6% จากจุดต่ําสุดของเดือน พ.ค. ความผันผวนของตลาดมีแนวโน้มลดลง ก่อนการประชุม FOMC เดือน มิ.ย. หลังสหรัฐฯ อยู่ ระหว่างการพิจารณาผ่อนคลายหรือยกเลิก มาตรการเก็บภาษีนําเข้าจากจีน ซึ่งจะเป็นปัจจัยลดทอน เงินเฟ้อ และลดความกังวลต่อการที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายมากกว่าคาด (เฟดคาดปรับขึ้น 50bps ใน 2 การประชุมจากนี้) อย่างไรก็ตามติดตามรายงาน PCE สหรัฐฯ เม.ย. วันที่ 27 พ.ค. Market Consensus คาดเพิ่มขึ้น 4.9%YoY เพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงจากเดือน มี.ค. ที่เพิ่มขึ้น 5.2%YoY เป็น หนึ่งในปัจจัยด้านเงินเฟ้อที่เฟดที่ใช้ในการพิจารณา เราประเมินแนวต้านของ SET ก่อนถึงการประชุม FOMC อยู่ที่ 1,635-1,650 จุด ภาพรวมการลงทุน เรายังแนะนําหุ้นในกลุ่ม Laggard Play ที่เราแนะนํา ต่อเนื่องในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ยังคงน่าสนใจ รวมไปถึงหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและ ส่งออก ที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเมือง และค่าเงินบาทอ่อนค่า สัปดาห์นี้ติดตามรายงานเศรษฐกิจที่ สําคัญ ติดตามรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้น เดือน พ.ค. ของกลุ่มยูโรโซน อังกฤษ และสหรัฐฯ วันที่ 24 พ.ค. / รายงานคณะกรรมการกําหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลาง สหรัฐ (FOMC) วันที่ 25 พ.ค. (เช้าวันที่ 26 ตามเวลาไทย) และรายงาน GDP สหรัฐฯ ช่วง 1Q65 (ประมาณการครั้งที่ 2) วันที่ 26 พ.ค. (คาดหดตัว 1.3%) / รายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายการบริโภคส่วน บุคคล (PCE Price Index) เดือน เม.ย. วันที่ 27 พ.ค. (คาดเพิ่มขึ้น 4.9%YoY) กลยุทธ์การลงทุน เราแนะนําเก็งกําไรหุ้นในกลุ่มพลังงาน จากราคาน้ํามันดิบ และค่าการกลั่นที่แข็งแกร่ง เลือก PTTEP ESSO TOP และ SPRC เป็นหุ้นเด่น ขณะที่ Theme หลัก เรายังให้น้ําหนักหุ้นในกลุ่มที่ Laggard Louisolaan ADVANC BH BDMS PTG SUSCO BEM GPSC BGRIM WHA AMATA lay CPALL (BK:CPALL) รวมไปถึงหุ้นในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า เราเลือก EPG SMPC ASIAN TU GFPT TFG SAPPE และ MEGA และ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศ เราเลือก AOT (BK:AOT) BAFS MINT CENTEL SHR VRANDA BH BDMS AMATA และ WHA
อย่างไรก็ตาม SET ยังมีโอกาสปรับฐานลงอีกครั้งหลังการประชุม FOMC เดือน มิ.ย. ติดตามรายงานประชุม เดือน พ.ค. พรุ่งนี้ - ติดตามรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจําวันที่ 3-4 พ.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยวันพรุ่งนี้ (25 พ.ค.) เพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการปรับลด ขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) ของเฟด อย่างไรก็ตามเครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group ระบุว่านักลงทุนให้น้ําหนัก 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50bps ในการประชุมนโยบาย การเงิน อีก 2 ครั้ง (14-15 มิ.ย. และ 26-27 ก.ค.) ขณะเดียวกันเฟดจะเตรียมปรับลดขนาดงบดุล โดยจะเริ่ม ดําเนินการตั้งแต่ มิ.ย. ซึ่งเฟดจะลดขนาดงบดุลในวงเงิน 4.75 หมื่นล้านเหรียญต่อเดือน ถึง ส.ค. 65 และเพิ่ม ขนาดการปรับลดงบดุลเป็น 9.5 หมื่นล้านเหรียญต่อเดือน อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าตลาดมีโอกาสที่จะกลับมา ผันผวนในกรอบทิศทางขาลง หลังการประชุม FOMC เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง เพิ่มความ เป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบียมากกว่าคาด แต่หากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาดที่ 50bps ตลาดจะยังคงตอบรับเชิงลบจากความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อการดําเนินนโยบายการเงินของเฟดที่อาจคุม เงินเฟ้อไม่อยู่ : ราคาน้ํามันดิบฟื้นตัวต่อเนื่อง จาก Seasonal demand ในสหรัฐฯ ผ่อนคลายล็อกดาวน์ในจีน และ EU เตรียมแผนคว่ําบาตรรัสเซียครั้งใหม่ แนะนํา “เก็งกําไร” เลือก PTTEP SPRC และ TOP เป็นหุ้นเด่น - สัญญาน้ํามันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือน มิ.ย. ยังคงปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จาก 4 ปัจจัยบวก ได้แก่ (1) Seasonal Demand ในสหรัฐฯ ที่เข้าสู่ช่วง Driving season ที่จะเริ่มในวัน Memorial Day ในช่วง ปลายเดือน พ.ค. และสิ้นสุดในวันแรงงานสหรัฐฯ ประมาณเดือน ก.ย. (2) การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยทางการจีนเตรียมแผนยุติมาตรการล็อกดาวน์ เซียงไฮ้ วันที่ 1 มิ.ย. (3) ทางการจีนเริ่มใช้มาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจ หลังมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 5 ปี ลง 0.15% สู่ระดับ 4.45% จากระดับ 4.6% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และ (4) สหภาพยุโรป (EU) เตรียมบังคับใช้มาตรการคว่ําบาตรน้ํามัน จากรัสเซีย โดย EU จะจัดการประชุมสุดยอด วันที่ 30-31 พ.ค. เพื่อพิจารณาข้อตกลงดังกล่าว ติดตาม รายงานปริมาณสํารองน้ํามันดิบประจําสัปดาห์ของสหรัฐฯ โดยสํานักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ซึ่งจะมีการรายงานพรุ่งนี้ (25 พ.ค.) เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย เราแนะนํา “เก็งกําไร” หุ้นในกลุ่มพลังงาน เลือก PTTEP SPRC และ TOP เป็นหุ้นเด่น
ปัจจัยทางเทคนิค – หุ้นแนะนํา G CPALL (แนวต้าน 67.50-68.75 / แนวรับ 64.75-64.00 /Stop loss 62.00) @ MAKRO (แนวต้าน 38.00-19.50 / แนวรับ 36.50-35.75/Stop loss 34.00) @ M (แนว ต้าน 53.75-55.00 / แนวรับ 51.75-51.25/Stop loss 49.75)
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities