Investment Ideas:
ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET สัปดาห์นี้ (17 ถึง 20 พ.ค.) จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,550-1,610 จุด (แนวรับ 1,650-1,500 จุด แนวต้าน 1595-1,610 จุด) SET สัปดาห์ที่ผ่านมาปิดที่ 1,584.38 ลดลง 45.2 จุด (-2.77%Wow) ด้วยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 80,929 ล้านบาท ปัจจัยเสี่ยง 5 ด้าน กดดันการฟื้นตัวของ SET ยังคงอยู่ที่ (1) สถานการณ์ความไม่แน่นอนระหว่างรัสเซีย-ยูเครน (2) เงินเฟ้อ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราเร่ง (3) ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ที่มีความเป็นไปได้ที่เพิ่มมากขึ้น (4) ปัญหาด้าน อุปทานที่ตึงตัวทั่วโลก หลังจากหลายประเทศเริ่มดําเนินนโยบายเปิดประเทศ และ (5) การเร่งปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่สัปดาห์นี้ติดตามรายงาน GDP ไทย ในช่วง 1Q65 (17 พ.ค.) รวมไปถึง ประมาณการ GDP ในช่วง 1Q65 (ประมาณการครั้งที่ 2) ของยูโรโซน (17 พ.ค.) รายงาน GDP ในช่วง 1Q65 ของญี่ปุ่น (18 พ.ค.) คาดหดตัว 0.4% QoQ และหดตัว 1.8%YoY รวมถึงรายงานเงินเฟ้อเดือน เม.ย. ของญี่ปุ่น (20 พ.ค.) คาดเพิ่มขึ้น 2.1% อย่างไรก็ตามเราคาดว่า SET วันนี้จะยังเคลื่อนไหว ผันผวน กลยุทธ์การลงทุนยังคงเน้นตั้งรับ ลดขนาดพอร์ตการลงทุน และเลือกลงทุนหุ้นในกลุ่มที่ Laggard ลุ้นฟื้นตัว ในช่วงที่เหลือของปี อย่าง หุ้นในกลุ่มขนส่ง เราเลือก BEM หุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า เราเลือก GPSC GULF และ BGRIM หุ้นในกลุ่ม Oil Station เราเลือก PTG และ SUSCO หุ้นในกลุ่ม Property เราเลือก ORI หุ้นในกลุ่ม สื่อสาร ADVANC หุ้นในกลุ่ม Packaging เราเลือก SCGP หุ้นในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม เราเลือก WHA และ AMATA กลุ่มค้าปลีก เราเลือก HMPRO และ CPALL (BK:CPALL) รวมไปถึงหุ้นใน Theme หลักเราให้น้ําหนัก เนื่องจาก มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ได้แก่ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า เราเลือก EPG SMPC ASIAN TU GFPT TFG SAPPE และ MEGA หุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น เราเลือก BLA และ TIPH หุ้นที่ได้ ประโยชน์จากการเปิดประเทศ ได้แก่ หุ้นในกลุ่มธุรกิจการบิน เราเลือก AOT (BK:AOT) BAFS หุ้นในกลุ่มขนส่งใน ประเทศ และหุ้นในกลุ่ม Anti-commodity เราเลือก PTG SUSC00SP CBG และ BJC เป็นหุ้นเด่น PBOC มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (MLF) ที่ 2.85% ตามคาด
- ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติคงอัตรา ดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีน ที่ระดับ 2.85% ตามคาด (Bloomberg Consensus) ในการประชุมวานนี้ (16 พ.ค.) โดยที่ผ่านมาธนาคารกลางจีน หลีกเลี่ยงการปรับ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ตั้งแต่ ม.ค. 65 เพื่อใช้เครื่องมือทางการเงินใหม่ ได้แก่ การปรับลดสัดส่วนการกัน สํารองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) เพื่อสนับสนุนภาคธุรกิจเป็นรายภาคส่วน และช่วยให้ธนาคารกลางจีน สามารถรับมือกับความเสี่ยงเมื่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน และจะช่วยลดแรง กดดันช่วงขาลงของเงินหยวน โดยการลด RRR แทนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จะช่วยให้จีนมีพื้นที่ใน การรับมือกับการที่เฟดปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน โดยเมื่อเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือลดวงเงินใน โครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) นั้น จะทําให้ค่าสเปรดอัตราดอกเบี้ยของจีน และสหรัฐฯ แคบลง ซึ่งจะทําให้เม็ดเงินเก็งกําไรไหลออกจากจีน
• โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปี 65-66 คาดตลาดการเงินของสหรัฐฯ จะได้รับผลกระทบจากการที่เฟด เริ่มคุมเข้มนโยบายการเงิน - โกลด์แมน แซคส์ คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะ ขยายตัว 2.4% ในปี 2565 (เดิมคาดขยายตัว 2.6%) และคาดว่าเศรษฐกิจในปี 2566 จะขยายตัวเพียง 1.6% (เดิมคาดขยายตัว 2.26) ปัจจัยเสียงมาจากการที่เฟดใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงิน และแรงกดดันจากการ ปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ํามัน และสินค้าโภคภัณฑ์หลายรายการ รวมทั้งผลกระทบจากการที่รัสเซียใช้กําลัง ทหารบุกโจมตียูเครน นอกจากนี้ยังประเมินว่ามีโอกาสราว 35% ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเผชิญภาวะถดถอยใน อีก 2 ปีข้างหน้า โดยระบุว่าสถิติที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าเมื่อเฟดใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินเพื่อสกัด เงินเฟ้อ มักจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เผชิญภาวะถดถอย รวมไปถึงภาวะ Soft Landing ของเศรษฐกิจ สหรัฐฯ ถือว่าเป็นเรื่องยาก บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันนี้ - Company Update: CPF และ CRC Company Update: CPF (ชื่อ..ราคาเป้าหมาย 30 บาท) คาดผลประกอบการ 2065 เติบโต QoQแนวโน้มผลประกอบการ 2Q65 ดีขึ้น QoQ มีปัจจัยหนุนจาก (1) ราคาเนื้อสัตว์ปรับตัวดีขึ้นในหลายภูมิภาค ช่วยหนุนอัตรากําไรให้สูงขึ้น และ (2) การบริโภคที่ฟื้นตัว หลังสถานการณ์ COVID-19 เริ่มคลี่คลาย ราคาหมู เวียดนามและหมูจีนปรับตัวดีขึ้น QoQ แต่ยังอ่อนตัว YoY แต่ราคาเนื้อสัตว์ที่ปรับขึ้นช่วยชดเชยต้นทุน วัตถุดิบที่ทรงตัวสูง แนะนํา “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 30.00 บาท Company Update: CRC (ซื้อ.ราคาเป้าหมาย 42 บาท) คาดผลประกอบการ 2Q65 เติบโต YoY - ผล ประกอบการ 2Q65 มีปัจจัยหนุนจาก (1) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในไทยและเวียดนาม (2) จํานวน นักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นในอิตาลี และ (3) การให้ส่วนลดค่าเช่าลดลง SSSG ในเดือน เม.ย. เติบโตมากกว่า 20%YoY ตั้งเป้าต้นทุนเพิ่มไม่เกิน 50% ของยอดขายที่เติบโต กําไรสุทธิ 1Q65 เติบโต 200%YoY แต่อ่อน ตัว 499%QoQ แนะนํา “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 42 บาท
ปัจจัยทางเทคนิค - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,575-1,600 จุด / หุ้นแนะนํา SINGER (แนวต้าน 52.75-55.00 / แนวรับ 48.50-46.75/Stop loss 44.25) G PRINC (แนวต้าน 4.885.00 / แนวรับ 4.68-4.60 / Stop loss 4.32) G ASIAN (แนวต้าน 18.00-18.40 / แนวรับ 17.00-16.00 /Stop loss 15.60)
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities