ด้วยการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สี่ติดต่อกัน และความเป็นไปได้ที่จะกระชากขึ้นลงทีละ $40 ต่อออนซ์ได้ตลอดเวลา ทำให้เราสามารถตอบคำถามที่ว่า “ราคาทองคำจะสามารถลงไปวิ่งต่ำกว่า $1,800 ได้หรือไม่” ได้อย่างง่ายๆ เลยว่า…ใช่ ประตูแนวรับ $1,800 กำลังเปิดออก ถึงแม้ว่าระหว่างทางอาจจะมีการดีดตัวกลับขึ้นไปอย่างรวดเร็วบ้างบางครั้งก็ตาม
การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐมากที่สุดในรอบยี่สิบปีได้ลากราคาสินทรัพย์สำรองอันดับหนึ่งลงมาจากจุดสูงสุด $2,000 ในวันที่ 18 เมษายน ลงมาวิ่งต่ำกว่า $1,850 ในขณะที่กำลังเขียนบทความนี้อยู่ ตอนนี้แทบไม่มีใครพูดถึงจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่ของราคาทองคำ หรือแม้แต่ความเป็นไปได้ที่จะสามารถยืนเหนือจุดสูงสุดตลอดกาลเดิมในวันที่ 8 มีนาคมที่ $2,079 ในช่วงที่สงครามรัสเซียยูเครนยังคงเป็นเพียงแค่ข่าวลือ
อ้างอิง: skcharting.com
ทุกสิ่งทุกอย่างในตอนนี้ไม่เป็นไปตามตำราการลงทุนที่สำนักไหนๆ เคยเขียนเอาไว้เลย ในช่วงเวลาที่ปัญหาเงินเฟ้อรุนแรงมากที่สุดตั้งแต่ปี 1980 ควรจะเป็นช่วงเวลาที่ทองคำเติบโตในฐานะสินทรัพย์คานความเสี่ยง แต่กลับกลายเป็นว่าดอลลาร์สหรัฐสามารถปรับตัวขึ้นสูงที่สุดครั้งหนึ่ง อันเป็นแรงสนับสนุนจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ออกมาพูดิย่างชัดเจนว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในทุกๆ การประชุมตลอดทั้งปี 2022 ไม่ใช่แค่ทองคำเท่านั้นที่ร่วงลง แต่สินทรัพย์อื่นเช่นตลาดหุ้น พันธบัตรรัฐบาล คริปโตฯ ต่างก็ร่วงลงอย่างรุนแรงเช่นกัน
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ ที่เทียบสกุลเงินดอลลาร์กับอีกหกสกุลเงินหลักของโลก ทะยานขึ้นแต่จุดสูงสุดของปี 2000 ในสัปดาห์นี้ที่ 104.21 ซึ่งขาขึ้นของดัชนีนี้ยิ่งได้แรงสนับสนุนเมื่อมีกระแสข่าวลือว่าคนในคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) เริ่มพูดถึงความเป็นไปได้ในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมครั้งถัดไปวันที่ 14 - 15 มิถุนายน
หากว่าในการประชุมครั้งถัดไป เฟดตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% จริง นี่จะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากที่สุดของธนาคารกลางสหรัฐฯ นับตั้งแต่ปี 1994 ยิ่งได้ทราบตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ไปเมื่อวานนี้ว่าขยายตัวขึ้นต่อเนื่องเป็น 8.3% ยิ่งทำให้ตลาดเพิ่มความเป็นไปได้ที่การขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% จะเกิดขึ้น จากโพลผลสำรวจที่เชื่อถือได้ ตอนนี้คนที่เชียร์ให้ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% มีมากถึง 83% แล้ว
Phillip Streible หัวหน้านักยุทธศาสตร์ตลาดลงทุนของโบรกเกอร์ Blue Line Capital เมืองชิคาโกให้ความเห็นต่อสถานการณ์ของเฟดว่า
“ตราบใดที่คนในตลาดยังเอาแต่พูดถึงความเป็นไปได้ในการขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ดอลลาร์จะยังคงแข็งค่าและกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลดลง อย่าว่าแต่แนวรับ $1,800 เลย แนวรับที่เลยลงไปจากนั้นก็จะรับแรงส่งขาลงครั้งนี้ไม่อยู่ ต่อให้เฟดไม่ขึ้นดอกเบี้ยถึง 0.75% แต่พวกเขาก็ยังมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยตลอดทั้งปี 2022 นี้อีกเจ็ดครั้ง และจะมีต่อไปเรื่อยๆ ในปี 2023 จนกว่าจะกดเงินเฟ้อให้ลงมาอยู่ในกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อได้ นี่คือสิ่งที่กดขาขึ้นของราคาทองคำเอาไว้อย่างแท้จริง”
กรอบอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ วางเอาไว้อยู่ระหว่าง 2.0 - 2.5% ซึ่งตอนนี้เรากำลังเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยกันมาได้ 0.75 - 1.0% การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ทำให้เศรษฐกิจอเมริกาในปี 2020 หดตัว 3.5% และกลับมาขยายตัวเติบโต 5.7% ในปี 2021 นับเป็นการขยายตัวทางเศราฐกิจที่เร็วที่สุดตั้งแต่ปี 1982 เพียงแต่ตอนนี้ เงินเฟ้อขยายตัวได้เร็วกว่าแล้วก็เท่านั้น
Jeffrey Halley หัวหน้าฝ่ายวิจัยตลาดลงทุนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกแห่งโบรกเกอร์ OANDA วิเคราะห์สถานการณ์ในปัจจุบันเอาไว้ว่า
“ยิ่งตัวเลข CPI ออกมาสูงเท่าไหร่ เฟดก็ยิ่งมีแต่จะปรับนโยบายการเงินให้ตึงตัวมากขึ้น การดำเนินนโยบายเช่นนี้มีแต่จะสนับสนุนดอลลาร์ แต่ทำให้คนทิ้งตลาดหุ้นและพันธบัตรของอเมริกา สำหรับราคาทองคำในตอนนี้ ระดับแนวรับ $1,835 ถือว่าสำคัญมากที่สุด หากแนวรับนี้ยังหยุดไม่อยู่ เรามีโอกาสได้เห็นราคาทองคำที่แนวรับถัดไป ณ $1,820 หลังจากนั้นก็ $1,780 ผมหวังว่าจะไม่ได้เห็นแนวรับ $1,700 ส่วนแนวต้าน ตอนนี้ทองคำมีอยู่ที่ $1,850 และ $1,882 ซึ่งเป็นระดับเดียวกันกับเส้นค่าเฉลี่ย 100 วัน”
Michael Boutros นักยุทธศาสตร์การลงทุนทองคำจาก DailyFX มีความเห็นที่คล้ายกันว่า
“หากราคาทองคำร่วงลงไปวิ่งต่ำกว่า $1,840 เมื่อไหร่ ผมจะเริ่มพิจารณาแนวรับ $1,828 - $1,818 ทันที ถ้าหลุดแนวรับทั้งสองลงไปได้ เกรงว่าขาลงรอบนี้คงจะหนักเอาการ มีโอกาสเห็นจุดต่ำสุดใหม่ในรอบปีที่ $1,791 หรือต่ำกว่านั้น”
Sunil Kumar Dixit หัวหน้านักวิเคราะห์ทางเทคนิคของ skcharting.com ให้ความเห็นต่อพฤติกรรมราคาทองคำในตอนนี้แตกต่างไปจากคนอื่นๆ เขากล่าวว่า
“ถึงตลาดหมีจะเป็นฝ่ายคุมเกม แต่ก็ยังมีโอกาสที่ราคาทองคำจะกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน $1,885 เมื่อพิจารณาจากกราฟราคาทองคำสปอตจะเห็นว่ามีโอกาสที่ราคาจะหล่นลงไปถึง $1,820 และจุดนี้เองคือโอกาสของขาขึ้นที่จะสวนกลับขึ้นมายัง $1,850 และถ้าไวพอ ก็จะสามารถพาราคาทองคำขึ้นไปถึง $1,885 หรือที่เส้นค่าเฉลี่ย 100 วันได้”
“หากถามว่าทำไมผมถึงคิดเช่นนั้น” เขากล่าวต่อ “นั่นเป็นเพราะอินดิเคเตอร์ stochastic ของผมวิ่งอยู่ที่ 5/3 ซึ่งเป็นระดับ oversold เหมาะแก่การที่จะปรับตัวกลับขึ้นไป แต่ถ้าลงมาถึง $1,820 แล้วราคาทองคำไม่สามารถฟื้นแรงกลับมาได้จริง เตรียมเห็นทองคำที่แนวรับถัดไปที่ $1,760 - $1,700 ภายในอีกไม่กี่สัปดาห์ได้เลย”