หุ้นโมเดิร์นนา NASDAQ:MRNA) บริษัทผู้ผลิตวัคซีนต้านโควิดปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากการระบาดใหญ่ในช่วงสองปีที่ผ่านมา การพัฒนา การทดสอบ และการใช้วัคซีนโควิดเพื่อต่อกรโรคร้ายได้ทำให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นจาก 158.55 ดอลลาร์ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2021 ขึ้นไปปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 484.87 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2021 แต่มาวันนี้ ราคาหุ้นตัวเดียวกันได้ปรับตัวลดลงเล็กน้อย มาวิ่งอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเมื่อ 12 เดือนก่อน และต่ำกว่าจุดสูงสุดในรอบ 12 เดือน 72% 
(อ้างอิง: Investing.com)
รายได้ของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากจากการขายวัคซีนป้องกันโควิด กำไรรายไตรมาสก่อนเกิดโควิดอยู่ที่ประมาณ - $0.40 ต่อหุ้น แต่ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2021 กำไรต่อหุ้นรายไตรมาสกลับเพิ่มขึ้นเป็น 2.84 ดอลลาร์ และแตะระดับ 11.30 ดอลลาร์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2022 แต่ตอนนี้ เมื่อโรคระบาดเริ่มไม่เป็นที่พูดถึงอีกต่อไปแล้ว คำถามตัวใหญ่ๆ ก็คือบริษัทโมเดิร์นนาจะสามารถนำผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดได้เร็วเพียงใด เมื่อความต้องการวัคซีนโควิดลดลง ผู้คนจะยังต้องการวัคซีนอีกหรือไม่ รายได้ในอนาคตจากวัคซีนโควิด-19 ก็คาดเดาได้ยากเช่นกันเมื่อปัจจัยตัวแปรทางเศรษฐกิจได้เปลี่ยนแปลงไป 
(อ้างอิง: E-Trade)
เป็นที่ทราบกันดีว่าวัคซีน messenger-RNA หรือที่เรียกว่าวัคซีน mRNA มีศักยภาพมหาศาล และวัคซีนโควิดที่พัฒนาโดยบริษัทโมเดิร์นนาและไฟเซอร์ (NYSE:PFE) ก็เป็นวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติครั้งแรกในมนุษย์ MRNA กำลังวางแผนที่จะเริ่มการทดลองวัคซีนไข้หวัดใหญ่ระยะที่ 3 ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2022 พร้อมกับการทดลองระยะที่ 3 ในเดือนกุมภาพันธ์กับวัคซีนสำหรับไวรัสระบบทางเดินหายใจ ที่รู้จักกันในชื่อ RSV บริษัทยังดำเนินการวิจัยเกี่ยวกับการใช้งาน mRNA เพิ่มเติมอีกหลายสิบรายการ
จากมุมมองด้านการลงทุน ความท้าทายคือการประมาณการรายได้ในอนาคตที่ มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยง ความเร็วในการพัฒนาและความสำเร็จที่ตามมาของวัคซีน COVID นั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์กับภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข การมองภาพไปยังอนาคตเป็นเรื่องที่ยากมาก และผมก็ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีชีวภาพหรือยา ด้วยเหตุนี้ ผมจึงอาศัยความเชี่ยวชาญของผู้อื่นในการประเมินโอกาสของ MRNA มาผสมกับมุมมองการวิเคราะห์ด้านการลงทุนจากสองรูปแบบ หนึ่งคือภาพรวมการวิเคราะห์หุ้นและเป้าหมายราคาจากนักวิเคราะห์วอลล์สตรีท และสองคือมุมมองภาพตลาด ที่แสดงพฤติกรรมออกมาเป็นนัย (MIO) ซึ่งเป็นฌมเดลการคำนวณทางคณิตศาสตร์ที่เชื่อถือได้
เมื่อผมได้วิเคราะห์ MRNA ในวันที่ 15 กุ่มภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนเปิดเผยรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2021 ตอนนั้นหุ้น MRNA มีราคาอยู่ที่ประมาณ 133 ดอลลาร์สหรัฐฯ ภาพรวมความเห็นของนักวิเคราะห์วอลล์ สตรีทค่อนข้างเป็นกลางต่อตลาดขาขึ้น และราคาเป้าหมาย 12 เดือนก็อยู่สูงกว่า 80%-90% เมื่อเทียบกับราคาหุ้น อย่างไรก็ตาม ความน่าสนใจคือการวิเคราะห์จาก MIO นั้นกลับแสดงให้เห็นว่าหุ้น MRNA อยู่ในแนวโน้มขาลง
ในขณะที่เขียนบทความนี้บริษัทโมเดิร์นนาได้รายงานผลประกอบการสำหรับไตรมาสที่ 4 ของปี 2021 และไตรมาสที่ 1 ของปี 2022 ไปแล้ว รายได้ของบริษัทยังคงทำตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสองไตรมาส ซึ่งตัวเลขในไตรมาสที่ 1 สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้มากกว่า 60%
ภาพรวมของหุ้น MRNA จากนักวิเคราะห์วอลล์สตรีท
E-Trade ได้คำนวณความเห็นของนักวิเคราะห์ตลาดหุ้นวอลล์สตรีท โดยอ้างอิงจากนักวิเคราะห์ระดับท็อป 12 คนที่ได้เขียนบทวิเคราะห์ออกมาในช่วงสามเดือนล่าสุด ราคาเป้าหมายที่เห็นตรงกันในระยะเวลา 12 เดือนสำหรับหุ้น MRNA อยู่สูงกว่าราคาหุ้นปัจจุบัน 85% ราคาเป้าหมายสูงสุดภายในระยะเวลา 12 เดือนนั้นสูงกว่าค่าต่ำสุดห้าเท่า การวิจัยพบว่าราคาเป้าหมายมีความสัมพันธ์เชิงลบจริงๆ หากจุพูดง่ายๆ ก็คือระดับราคาเป้าหมายสูงเมื่อเทียบการกระจายความเสี่ยงแล้ว ได้ผลออกมาเป็นแนวโน้มขาลง
ราคาเป้าหมาย 80 ดอลลาร์ (จาก SVB Securities) คือค่าที่ต่ำที่สุด ในขณะที่ราคาเป้าหมายต่ำสุดถัดไปอีกสามจุดคือ 155 ดอลลาร์ (จาก Deutsche Bank), 170 ดอลลาร์ (จาก Jefferies) และ 180 ดอลลาร์ (จาก Bank of America Securities) สำหรับแนวโน้มขาขึ้น ราคาเป้าหมายสูงสุดอยู่ที่ 506 ดอลลาร์ (จาก Brookline Capital Markets) สูงกว่าระดับราคาสูงสุดอันดับสองที่ 397 ดอลลาร์ (จาก Goldman Sachs)
(อ้างอิง: E-Trade)
เมื่อนำ E-Trade มาเทียบกับมุมมองของนักวิเคราะห์ 19 คนจาก Investing.com ผลลัพธ์ที่ได้สอดคล้องกับผลลัพธ์ของ E-Trade คือมีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้น เป้าหมายราคาภายในระยะเวลา 12 เดือนนั้นสูงกว่าราคาหุ้นปัจจุบัน 68% (เทียบกับ 85% ของ E-Trade) แต่ความแตกต่างนี้มีนัยสำคัญค่อนข้างน้อย เมื่อพิจารณาจากส่วนต่างราคาระหว่างเป้าหมายราคาจากนักวิเคราะห์แต่ละราย เทียบกับนักวิเคราะห์วอลล์สตรีท คะแนนที่ออกจึงเป็นแนวโน้มขาขึ้นเหมือนกัน และมีราคาเป้าหมายภายใน 12 เดือนต่ำกว่าราคาหุ้นปัจจุบันเล็กน้อย
(อ้างอิง: Investing.com)
แนวโน้มจากนักวิเคราะห์วอลล์สตรีทสนับสนุนข้อสรุปที่ว่ามีน้อยคนมากที่มองแนวโน้มราคาหุ้นของ MRNA เหมือนกัน เป้าหมายราคาที่คิดเหมือนกันนั้นไม่ได้มีความหมายมากนัก ยกเว้นบางคนที่อาจจะมองเป็นแนวโน้มขาลงไปเลย เนื่องจากมีค่าส่วนต่างเยอะเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายในแต่ละจุด นี่อาจจะเป็นคุณลักษณะพิเศษของราคาเป้าหมายหุ้น MRNA ที่นักวิเคราะห์มองเห็น
ภาพรวมหุ้น MRNA จากเครื่องมือวิเคราะห์ MIO
Market-Implied Outlook (MIO) หรือตัวช่วยคำนวณภาพรวมหุ้นที่ผมใช้วัดมูลค่าหุ้นในระยะเวลา 8.4 เดือนจากปัจจุบันถึงวันที่ 20 มกราคมปี 2023 โดยอ้างอิงจากวันหมดอายุของสัญญาออปชันในปัจจุบัน ผมเลือกวันหมดอายุของสัญญาออปชั่นนี้เพื่อให้ผู้อ่านสามารถดูข้อมูลได้จนถึงสิ้นปี และสัญญาที่จะหมดอายุในเดือนมกราคมเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่มีการซื้อขายมากที่สุด นอกจากนี้ เพราะผมเคยวิเคราะห์หุ้นตัวนี้ไปแล้วครั้งล่าสุดในเดือนกุมภาพันธ์ ดังนั้นผมจึงสนใจเป็นพิเศษที่จะดูการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มของราคา
เริ่มจากการคำนวณแบบปกติที่ใช้ MIO คือความเป็นไปได้ในการมอบผลตอบแทนคืนแก่นักลงทุน โดยตั้งค่าให้ความเป็นไปได้เป็นแกนแนวตั้ง แต่การให้ผลตอบแทนเป็นแกนแนวนอน
(อ้างอิง: Author’s calculations; options quotes from E-Trade)
ในการวิเคราะห์ครั้งก่อนของผม แนวโน้มในเดือนมกราคม 2023 นั้นเอียงไปทางผลตอบแทนติดลบเป็นอย่างมาก ภายในช่วง 8.4 เดือน ความน่าจะเป็นสูงสุดสอดคล้องกับผลตอบแทนของราคา -29% นี่คือแนวโน้มขาลง คาดการณ์ความผันผวน ซึ่งคำนวณจากสูตรคณิตศาสตร์นี้คือ 72% (ต่อปี) ซึ่งสูงกว่าในเดือนกุมภาพันธ์เล็กน้อย การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเกิดจากความผันผวนของตลาดที่เพิ่มขึ้น
เพื่อให้ง่ายต่อการเปรียบเทียบความน่าจะเป็นของผลตอบแทนที่เป็นบวกและลบได้ง่ายขึ้น ผมจึงได้หมุนแกนแนวตั้งของ MIO กลับเป็นด้านลบ (กราฟด้านล่าง)
(อ้างอิง: Author’s calculations; options quotes from E-Trade)
ความน่าจะเป็นของผลตอบแทนติดลบนั้นสูงกว่าความน่าจะเป็นของผลตอบแทนที่เป็นบวก เมื่อลงทุนในเงินจำนวนที่เท่ากัน ในทุกผลลัพธ์ที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด เส้นประสีแดงที่อยู่เหนือเส้นสีน้ำเงินทึบเป็นอย่างมากในรูป คืแภาพที่ใกล้เคียงกับตอนที่ผมเคยคำนวณในเดือนกุมภาพันธ์
MIO ของหุ้น MRNA ไปจนถึงต้นปี 2023 จะเป็นแนวโน้มขาลงและมีความผันผวนสูง ไม่ได้แตกต่างไปจากที่ผมเคยคำนวณเอาไว้ในเดือนกุมภาพันธ์มากนัก
โดยสรุปแล้ว
บริษัทโมเดิร์นนาได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการต่อสู้กับศึกโรคระบาดครั้งใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติด้วย messenger-RNA แต่ตอนนี้บริษัทมีผลิตภัณฑ์ในตลาดเพียงอย่างเดียวคือวัคซีนโควิด ในขณะที่บริษัทอื่นมีท่อน้ำเลี้ยงขนาดใหญ่ และมีความกระตือรือร้นในการสร้างผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคต นั่นจึงทำให้การประเมินเส้นทางของบริษัทในช่วงหลายปีต่อจากนี้กลับเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แม้ว่าบริษัทยาจะต้องเผชิญกับการทดลองผลิต หรือทำลายยาซ้ำๆ แต่บริษัทโมเดิร์นนาก็ยังไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างผลิตภัณฑ์ทางเวชภัณฑ์ที่หลากหลายออกสู่ตลาด
ถึงกระนั้นมุมมองของนักวิเคราะห์ในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังเชื่อว่าหุ้นตัวนี้ยังสามารถเติบโตปรับตัวขึ้นต่อไปได้ แต่ก็ยังมีอยู่บ้างบางคนที่เห็นต่างในเรื่องนี้ ส่วนการคำนวณด้วย MIO นั้นได้ข้อสรุปว่าหุ้นตัวนี้ยังมีระดับราคาที่สูงจากราคาเป้าหมาย และมีราคาเป้าหมายหุ้นอยู่ในระดับที่แตกต่างกัน ซึ่งรวมๆ แล้วหมายถึงการการเป็นแนวโน้มขาลง MIO ของหุ้นตัวนี้ไปจนถึงต้นปี 2023 ยังคงเป็นขาลงและมีความผันผวนสูง แม้จะมีโอกาสที่จะได้ขายวัคซีน MRNA ต่อไปอยู่บ้างเพราะการระบาดยังไม่จบ ประวัติการดำเนินธุรกิจที่น่าประทับใจของวัคซีนโควิด สะท้อนให้เห็นในการรายงานตัวเลขรายได้ล่าสุด แต่สุดท้ายแล้ว เพราะแนวโน้มของบริษัทที่คาดเดาได้ยาก ผมจึงขอให้คะแนนโดยรวมของหุ้น MRNA เอาไว้อยู่ในระดับที่เป็นกลาง