Investment Ideas:
ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET สัปดาห์นี้ (9-13 พ.ค.) จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,590-1,680 จุด (แนวรับ 1,615-1,590 จุด / แนวต้าน 1,655-1,680 จุด) SET สัปดาห์ที่ผ่านมาปิดที่ 1,629.58 จุด ลดลง 37.86 จุด (-2.27%) ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 72,390 ล้านบาท ลดลง 4.4%WoW เรา เชื่อว่า SET จะยังเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway down ปัจจัยลบที่กดดันภาพรวมการลงทุนในสัปดาห์ ที่แล้ว จะยังเป็นปัจจัยกดดันภาพรวมการลงทุนต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะประเด็นที่ตลาดกลับมาให้ น้ําหนักความเป็นไปได้ที่เพิ่มขึ้นต่อการที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75bps เพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้ ประธานเฟดจะยืนยันว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ย 75bps ไม่เคยอยู่ในการพิจารณาของกรรมการเฟดก็ตาม ประกอบกับแผนทํา QT ที่จะเริ่ม มิ.ย. 65 ในอัตรา 47.5 พันล้านเหรียญต่อเดือน ระยะสั้น SET ยังขาดปัจจัยบวกหนุนการฟื้นตัว เพิ่มน้ําหนักต่อการที่เดือน พ.ค. จะยังอยู่ในภาวะ Sell in May
• Selective Buy เน้นหุ้นบาทอ่อน เปิดเมือง ดอกเบี้ยขึ้น เงินเฟ้อสูง - กลยุทธ์การลงทุน เรายังแนะนํา Selective buy หุ้นมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ได้แก่ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า เราเลือก ASIAN SAPPE และ MEGA (ส่วนต่าง Bond yield ที่เพิ่มขึ้น ยิ่งหนุนค่าเงินบาทอ่อน) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ย ขาขึ้น เราเลือก BLA และ TIPH หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว เราเลือก AOT (BK:AOT) BAFS BEM AAV BA MINT และ SHR และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อในประเทศที่ปรับเพิ่ม เราเลือก BEM (ปรับ ค่าโดยสาร ตามทิศทางเงินเฟ้อพื้นฐาน)
• ภาพรวมการลงทุนเดือน พ.ค. ยังมีแต่ปัจจัยลบกดดัน หนุนภาพ Sell in May – SET เดือน พ.ค. ปรับลดลง 37.86 จุด (-2.3%) โดยเราให้น้ําหนักปัจจัยกดดันมาจากถ้อยแถลงประธานเฟดหลังการประชุม FOMC 3-4 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยหลายปัจจัยสะท้อนว่าตลาดยังคงกังวลว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 50bps ในการประชุม เดือน มิ.ย. จากการคาดหมายว่าอัตราเงินเฟ้อที่จะรายงานในเดือน พ.ค. (เงินเฟ้อเดือน เม.ย.) ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามราคาน้ํามัน สะท้อนจาก FedWatch Tool ของ CME Group ประเมินความเป็นไปได้มากถึง 82.99% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 75bps เป็น 1.50%-1.75% ในการ ประชุม 14-15 มิ.ย. รวมไปถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับเพิ่มต่อเนื่องมาอยู่ที่ ระดับ 3.142% ลดทอนความน่าสนใจในการลงทุนในกลุ่มสินทรัพย์เสี่ยง ปัจจัยดังกล่าวเพิ่มน้ําหนักต่อการที่ ภาพรวมการลงทุน เดือน พ.ค. จะเกิดภาวะ Sell in may โดยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา SET ในเดือน พ.ค. ปรับ ลดลง 7 ใน 10 ปี เช่นเดียวกับค่าเงินบาทในเดือน พ.ค. ที่อ่อนค่า 7 ใน 10 ปี รวมไปถึงประเด็นอื่นที่ต้อง ติดตาม ทั้งการจัดเก็บภาษีการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ (Financial Transaction Tax: FTT) โดย ภาครัฐฯ เสนอจัดเก็บในอัตรา 0.1% ของมูลค่าขายจากฝั่งผู้ขายอย่างเดียว และยกเว้นภาษีสําหรับผู้ที่มี ยอดขายหุ้นต่อเดือนต่ํากว่าเกณฑ์ที่กําหนด (1-2 ล้านบาท) รวมไปถึงรายงาน CPI สหรัฐฯ วันที่ 11 พ.ค. (เช้า วันที่ 12 พ.ค. ตามเวลาไทย)
ติดตามรายงานตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญ - รายงานการส่งสินค้าออกของจีน ปริมาณการนําเข้าสินค้า ของจีน เดือน เม.ย. และดุลการค้าจีนเดือน เม.ย. (คาดเกินดุล 339.4 พันล้านหยวน เทียบกับ มี.ค. 2565 ที่ 300.58 พันล้านหยวน) • รายงานตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญ - กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาค เกษตร ในเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 428,000 ตําแหน่ง (คาดที่ระดับ 400,000 ตําแหน่ง) ส่วนอัตราการว่างงาน ทรงตัวที่ระดับ 3.6% (คาดที่ระดับ 3.5%) และตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.3% (คาดที่ระดับ 0.46)
ปัจจัยทางเทคนิค - เราคาดว่า SET วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,615-1,640 จุด // หุ้นแนะนําปัจจัยทาง เทคนิค เราเลือก 6 BLA (แนวต้าน 45.0-48.0 / แนวรับ 41.50-40.00 / Stop loss 36.75) © SUSCO (แนวต้าน 3.50-3.64 / แนวรับ 3.30-3.22/Stop loss 3.08) G THANI (แนวต้าน 4.44-4.56 7 แนวรับ 4.28-4.18/Stop loss 4.02)
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities