🐦 Early bird ค้นพบหุ้นที่มาแรงที่สุดตอนนี้ด้วยราคาเบา ๆ รับส่วนลดสูงถึง 55% สำหรับ InvestingPro กับโปรโมชัน Black Fridayรับส่วนลด

ตลาดสกุลเงินดิจิทัลจะตอบสนองอย่างไรกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

เผยแพร่ 06/05/2565 10:35
อัพเดท 09/07/2566 17:31
DX
-
BRKa
-
BTC/USD
-
ETH/USD
-

ตลอดปี 2021 ส่วนใหญ่ ธนาคารกลางและรัฐบาลสหรัฐฯ โยนแพะเรื่องราคาที่เพิ่มขึ้นจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานขอควดให้กับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มองว่าปัญหาเงินเฟ้อเป็นเพียงเรื่อง "ชั่วคราว" เท่านั้น คำนี้ได้กลายเป็นคำยอดฮิต ที่ผู้ไม่เห็นด้วยกับเฟดได้วิจารณ์นโยบายการเงิน ที่ผ่อนคลายมากจนเกินไป พวกเขากล่าวโทษธนาคารกลางฯ ว่าเป็นผู้ทำให้เกิดเงินเฟ้อสูงสุดในรอบกว่าสี่ทศวรรษ 

ในช่วงปลายปี 2021 เมื่อสมาชิกของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ได้ออกมายอมรับว่าปัญหาเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นเป็นมากกว่าคำว่าชั่วคราว แต่ถึงกระนั้นเฟดยังคงดำเนินนโยบายการเงินด้วยความล่าช้า คลานไปราวกับหอยทาก ที่ค่อยๆ จัดการกับปัญหาเงินเฟ้ออย่างใจเย็น พวกเขายังคงมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ทำให้อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับต่ำมาจนถึงต้นเดือนมีนาคม 2022 ในเดือนนั้น ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 8.5% และ 11.2% ตามลำดับ ซึ่งยังคงเป็นจุดสูงสุดในรอบสี่ทศวรรษ แม้ว่าเฟดจะเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว แต่ตอนนี้พวกเขาก็ยังคงตามหลังอัตราเงินเฟ้อ อยู่มาก ครั้งสุดท้ายที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย สกุลเงินดิจิทัลยังไม่เป็นที่รู้จักมากมายนัก ดังนั้นตอนนี้จึงไม่มีใครตอบได้อย่างมั่นใจว่าหากการขึ้นดอกเบี้ยไปจนถึงที่สุดแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับตลาดสกุลเงินดิจิทัลบ้าง

ภาพรวมตลาดสกุลเงินดิจิทัลในปัจจุบัน

อัตราเงินเฟ้อที่เริ่มเพิ่มสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2020 และพุ่งสูงขึ้นในปี 2021 ส่งเสริมให้สกุลเงินดิจิตอลสามารถทะยานขึ้นแตะจุดสูงสุดตลอดกาลเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2021 ฝั่งผู้สนับสนุนสกุลเงินดิจิทัลหลายคนมองว่าสินทรัพย์ประเภทนี้ถือเป็นหนึ่งในการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ภาวะเศรษฐกิจที่กัดเซาะเงินเฟียตด้วยการขยายปริมาณเงินในระบบ ทำให้อุปทานของสกุลเงินดิจิทัล ที่มีอยู่อย่างจำกัดกลายเป็นทางเลือกแทนเงินเฟียต ที่สามารถผลิตเงินออกมามากเท่าไหร่ก็ได้  ในวันที่ปริมาณเงินในระบบมีอยู่จนล้นตลาดก็ไม่อาจกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ทำให้ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้นBitcoin Daily Chart.

อ้างอิง: Barchart

กราฟรูปนี้แสดงให้เห็นจุดสูงสุดตลอดกาลของบิทคอยน์ที่ $68,906.48 ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2021Ethereum Daily Chart.

อ้างอิง: Barchart

ในขณะเดียวกันราคาอีเทอเรียมปรับตัวขึ้นสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $4,865.426 ก่อนที่จะปรับตัวลดลง สร้างจุดต่ำสุดล่าสุดในวันที่ 24 มกราคม 2022 เมื่อวันพุธที่ผ่านมาธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% พร้อมประกาศแผนดึงสภาพคล่องคืน แม้ว่าเฟดจะพูดถึงการเติบโตของอัตราเงินเฟ้ออย่างชัดเจน แต่ตลาดสกุลเงินดิจิทัลกลับยังวิ่งอยู่ใกล้กับจุดต่ำสุด มากกว่าที่จะวิ่งเข้าหาจุดสูงสุดตลอดกาล

จนถึงตอนนี้ตลาดสกุลเงินดิจิทัลก็ยังไม่ฟื้น

สภาพคล่องของธนาคารกลางที่เอ่อล้น และปริมาณเงินในระบบจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่มีมากราวกับสึนามิ ได้เพาะพันธุ์เมล็ดพันธุ์แห่งเงินเฟ้อ เริ่มขยายพันธุ์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2020 และผลิบานในปี 2021 ในช่วงสี่เดือนแรกของปี 2022 เฟดกำลังจัดการกับเงินเฟ้ออย่างจริงจัง แต่ก็ดันมีสงครามระหว่างรัสเซียยูเครนเพิ่มขึ้น ผลักดันเงินเฟ้อให้ยิ่งเติบโตได้รวดเร็วมากกว่าเดิม

แม้ว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะเริ่มปรับตัวลดลงหลังจากทำขาขึ้นมาตลอดหลายปี แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ใกล้จุดสูงสุดมากกว่าจุดต่ำสุด ความนิยมในสกุลเงินบิทคอยน์ อีเทอเรียม และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ อีกมากมายกำลังบอกเราว่านโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเงินเฟ้อ เมื่อพวกเขาเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ความสำคัญของดอลลาร์สหรัฐก็กลับมา และส่งให้อีเทอเรียมกลับลงไปอยู่ที่ 2,830 ดอลลาร์ในวันที่ 3 พฤษภาคม ในขณะที่บิทคอยน์วิ่งอยู่ที่ 38,325 ดอลลาร์

จนถึงตอนนี้ ตลาดสกุลเงินดิจิทัลก็ยังไม่ได้ทำหน้าที่เป็นตัวคานเงินเฟ้ออย่างที่หลายคนคาดหวัง ยิ่งไปกว่านั้น ตลาดกำลังตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมของอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ด้วยการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาได้ง่ายๆ ในตอนนี้

ความเห็นของคนดังที่มีต่อตลาดสกุลเงินดิจิทัล

แม้สกุลเงินดิจิทัลจะเป็นสินทรัพย์ที่กำลังเติบโตไปสู่กระแสหลัก แต่ก็ยังขาดสภาพคล่องเมื่อเทียบกับตลาดหุ้น พันธบัตร สกุลเงินเฟียต หรือตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ นอกจากนี้ หลายคนก็ยังปฏิเสธที่จะยอมรับคุณค่า และประโยชน์ใช้สอยของสกุลเงินดิจิทัล เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่งานคาร์นิวัลประจำปีของบริษัท Berkshire Hathaway (NYSE:BRKa) ในเมืองโอมาฮา รัฐเนแบรสกา วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนชื่อดังของบริษัทกล่าวถึงสกุลเงินดิจิทัลว่า:

“ถ้าคุณบอกผมว่าคุณเป็นเจ้าของบิทคอยน์ทั้งหมดในโลก และคุณเสนอขายให้ผมในราคา $25 ผมจะไม่รับมันเพราะผมไม่รู้ว่าจะเอาบิทคอยน์ไปทำอะไร? ผมคงต้องขายคืนให้คุณไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับผมเลย”

บัฟเฟตต์ไม่เชื่อว่าบิทคอยน์หรือสกุลเงินดิจิทัลเป็น "สินทรัพย์ที่มีประสิทธิผล" ชาร์ลี มังเกอร์ (Charlie Munger) หุ้นส่วนและเพื่อนสนิทของบัฟเฟตต์พูดอย่างตรงไปตรงมาต่อสกุลเงินดิจิทัลว่า:

“ในชีวิตของผม ผมพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่โง่เขลา ชั่วร้าย และทำให้ผมดูแย่เมื่อเทียบกับคนอื่นๆ ซึ่งบิทคอยน์เป้นทั้งสามสิ่งที่กล่าวมานั้น”

ชาร์ลียังกล่าวต่อไปอี่กว่า“เหตุผลที่การลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลดูเป็นเรื่องที่โง่เง่าเพราะมันยังคงมีแนวโน้มที่จะเป็นศูนย์ และเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายที่บ่อนทำลายระบบธนาคารกลางสหรัฐ ผู้นำคอมมิวนิสต์จีน เขาฉลาดพอที่จะแบนบิทคอยน์ในประเทศจีน”

ในขณะเดียวกัน ฝั่งผู้สนับสนุนสกุลเงินดิจิทัลมากมายก็ได้ออกมาวิจารณ์คุณปู่ทั้งสองเป็นวงกว้าง แม้แต่อีลอน มัสก์ ยังทวีตเย้ยหยันตำนานทั้งสองว่า:

“ฮ่าฮ่า เขาพูดคำว่าบิทคอยน์หลายครั้งมาก”

อนาคตของสินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัลยังคงเป็นข้อถกเถียงระหว่างผู้สนับสนุนและผู้ต่อต้าน หนึ่งในเป้าหมายที่สำคัญสำหรับการเติบโตของสกุลเงินดิจิทัลคือการสร้างสภาพคล่อง โปร่งใส และไม่สามารถก้าวก่ายกับระบบอุปทานของสกุลเงินนั้นๆ ได้ ตราบใดที่เงินเฟียตยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการเพิ่มปริมาณเงินในระบบได้อย่างไม่จำกัด ตราบนั้นก็จะมีคนที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล

เพราะไม่มีประวัติศาสตร์การลงทุนที่ยาวนาน จึงคาดว่าความผันผวนจะคงอยู่ต่อไป

แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อค่าเงินดิจิตอล แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลในอดีต ที่เคยระบุเอาไว้ว่าท้ายที่สุดนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองจะจบลงอย่างไร สกุลเงินดิจิทัลมีอายุเพียงสิบกว่าปีและไม่มีวงจรเศรษฐกิจ นอกจากนี้ การซื้อขายและการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอย่างจริงจังได้เกิดขึ้นในช่วงห้าปีที่ผ่านมาตั้งแต่ CME ได้เปิดตัว Bitcoin Futures เพื่อเพิ่มสภาพคล่องของบิทคอยน์ การยอมรับในสกุลเงินดิจิทัลจะช่วยให้สภาพคล่องเพิ่มขึ้น แต่สงครามระหว่างผู้ต่อต้านและผู้สนับสนุนมีแนวโน้มที่จะขัดขวางการย้ายไปสู่สินทรัพย์กระแสหลักของสกุลเงินดิจิทัล

สกุลเงินดิจิทัลยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ที่มีการเก็งกำไรสูง สถาบันการเงินและรัฐบาลจะยังคงสร้างอุปสรรคขัดขวางการเติบโต ในขณะที่ผู้สนับสนุนและนักเก็งกำไรคริปโตจะหาทางหลีกเลี่ยง ความผันผวนในแต่ละวันจะกลายเป็นรากฐานให้กับนักลงทุนรุ่นถัดๆ ไปได้เข้ามาตัดสินว่าควรให้สกุลเงินดิจิทัลเป็นอนาคต หรือควรสร้างสิ่งใหม่ที่ทั้งฝั่งอนุรักษ์นิยม และเสรีนิยมสามารถยอมรับร่วมกันได้ โดยสรุปแล้ว เรากำลังจะได้เป็นสักขีพยานว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตลอดทั้งปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ จะสร้างผลกระทบอย่างไรให้กับตลาดสกุลเงินดิจิทัล

 
 
 

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย