Investment Ideas:
ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET สัปดาห์นี้ (4 ถึง 8 เม.ย.) จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,665-1,725 จุด (แนวรับ 1,665-1,680 จุด แนวต้าน 1,720-1,725 จุด) โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา SET ปิดที่ 1,701.31 จุด เพิ่มขึ้น 24.51 จุด (+1.46%) โดยมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย 7.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% Wow ตลาดยังมีปัจจัยกดดันจากความกังวลต่อภาวะ Inverted yield curve สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนที่ยัง ไม่แน่นอน และภาพรวมเศรษฐกิจที่อ่อนแอ หลังจีนรายงาน PMI ต่ํากว่า 50 จุดครั้งแรกในรอบ 5 เดือน เพิ่มน้ําหนักต่อการที่ IMF จะปรับลดประมาณการ GDP โลก (ประมาณการเดิมคาด GDP ปี 65 ขยายตัว 4.4%) กลยุทธ์การลงทุนของเราที่แนะนําหุ้นในกลุ่ม Domestic play เป็นหลัก โดยเรายังคงเลือก (1) หุ้นในกลุ่มธนาคาร เราเลือก SCB KBANK (BK:KBANK) BBL และ ITB (2) กลุ่มอุปโภคบริโภค และกลุ่มค้าปลีก HMPRO CPALL (BK:CPALL) และ MAKRO (3) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบายผ่อนคลายการเดินทางเข้าประเทศ เรา มองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว เราเลือก AOT (BK:AOT) BAFS AAV ERW และ SHR (4) หุ้นในกลุ่มเครื่องดื่ม จาก Seasonal Demand เราเลือก SAPPE OSP และ CBG (5) หุ้นในกลุ่ม Anti-oil ได้แก่ TASCO EPG PTG GPSC BGRIM GULF CPALL และ BJC และ (6) หุ้นในกลุ่ม Defensive ได้แก่ ADVANC INTUCH BLA และ BEM Trading Ideas: เทศกาลท่องเที่ยว วันหยุดยาว หลังรัฐฯ เริ่มผ่อนคลายมาตรการ มองเป็นบวกต่อ AOT AAV ERW MINT และ SHR - จากมติ ศบค. ปรับมาตรการป้องกันโรคสําหรับผู้ที่เดินทางเข้าไทย ประเภท Test & Go /Sandbox และ Alternative Quarantine โดยยกเลิกการตรวจ RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทางเข้าประเทศทั้ง 3 กลุ่ม ลดระยะเวลาของการเดินทางเข้าไทยในรูปแบบ Sandbox เหลือ 5 วัน พร้อมปรับรูปแบบการตรวจหาเชื้อ เมื่อมาถึงไทย และระหว่างอยู่ในประเทศ กรณี Test & Go และ Sandbox ต้องได้รับการตรวจ RT-PCR ในวันแรก เมื่อเดินทางมาถึงไทย และจากนั้นทําการตรวจ Self-ATK อีกครั้ง ในวันที่ 5 ในกรณี Quarantine ต้องตรวจ RT-PCR ในวันแรก และตรวจ RT-PCR ในวันที่ 4-5 ก่อน ออกจากสถานที่กักตัว โดยมีการปรับลดการกักตัวเหลือ 5 วัน (เดิม 7 วัน) สําหรับนักเดินทางทีมาแบบ Sandbox และ Quarantine เริ่ม 1 เม.ย. โดยการผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งเพื่อ ดึงดูด นักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาในประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจ ภายใต้มาตรการสาธารณสุขที่รัดกุมขัน สูงสุด อีกหนึ่งปัจจัยบวกที่หนุนภาพรวมการท่องเที่ยว จากประมาณการของ ธปท. ที่ยังคงเชื่อว่าจํานวน นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาไทยไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน ในปี 2565 และเพิ่มเป็น 19 ล้านคน ในปี 2566 เรา มองเป็นบวกต่อ (1) หุ้นในกลุ่มธุรกิจการบิน ได้แก่ AOT BAFS AAV และ BA (2) หุ้นในกลุ่มธุรกิจโรงแรม ได้แก่ ERW CENTEL MINT และ SHR
สัปดาห์นี้จะมีการขึ้นเครื่องหมาย XD ของหุ้นขนาดใหญ่ ที่น่าสนใจหลายบริษัทได้แก่ วันที่ 4 เม.ย. ได้แก่ CEN (จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.12% บาท Div.Ytd. 3.4%) / วันที่ 5 เม.ย. ได้แก่ SCGP (จ่ายเงินปันผลใน อัตรา 0.4 บาท Div.Ytd. 0.7%) และ CHAYO(จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.0018519 บาท + หุ้นปันผล ใน อัตรา 30 ต่อ 1) / วันที่ 7 เม.ย. ได้แก่ SCC (จ่ายเงินปันผลในอัตรา 10 บาท Div.Ytd. 2.6%) และ SMPC (จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.47 บาท Div.Ytd. 3.46) / วันที่ 8 เม.ย. ได้แก่ ATP30 (จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.03 บาท Div.Ytd. 1.4%) BANPU (จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.25 บาท Div.Ytd. 2.3%) BPP (จ่ายเงินปันผล ในอัตรา 0.35 บาท Div.Yld. 2.1%) การลงทุนเดือน เม.ย. ยังมีความเสี่ยง ก่อนการประชุม FOMC - ภาพรวมการลงทุนเดือน เม.ย. ยังเป็นไป อย่างผันผวน และมีโอกาสปรับลดลง ก่อนการประชุม FOMC เดือน พ.ค. ที่จะมีการปรับการดําเนินการ นโยบายการเงิน ทั้งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตราเร่ง และการกําหนดกรอบขนาดการปรับลดขนาดงบดุล (QT) ซึ่งเราคาดว่าเฟดจะเริ่มการทํา QT ในช่วง 2H65 โดย Consensus ประเมินการทํา QT ของเฟด จะอยู่ ในกรอบ 6.5-7.0 หมื่นล้านเหรียญต่อเดือน ขณะที่ FedWatch Tool ของ CME Group ระบุ ความเป็นไป ได้ที่เพิ่มมากขึ้น ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 50bps ในการประชุม FOMC วันที่ 3-4 พ.ค. และ วันที่ 14-15 มิ.ย. โดยมีความเป็นไปได้มากถึง 69.4% และ 63.9% ตามลําดับ ซึ่งจะทําให้ดอกเบี้ยนโยบายของเฟดเพิ่มขึ้นจาก ปัจจุบันที่ 0.25%-0.50% (หลังการประชุมเดือน มี.ค.) เป็น 1.25%-1.50% ภายในกลางปี 2565 ติดตามการ เปิดเผยรายงานการประชุม FOMC Minutes รอบที่ผ่านมา (7 เม.ย.) โดยเฉพาะความเห็นต่อการปรับลด ขนาดงบดุล รวมไปถึงการรายงานเงินเฟ้อทั้งไทยและต่างประเทศ (CPI ของไทยวันที่ 5 เม.ย. (คาดเพิ่มขึ้น 5.71%YoY) /CPI ของสหรัฐฯ วันที่ 13 เม.ย.) ในเดือน มี.ค. ที่จะเริ่มสะท้อนราคาน้ํามันดิบที่ปรับเพิ่ม เป็น
อีกหนึ่งปัจจัยกดดันการลงทุน • มุมมองทางเทคนิค - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,685-1,725 จุด / หุ้นแนะนําปัจจัยทางเทคนิค เราเลือก KBANK KTB และ BLA
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities