Investment Ideas:
ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET สัปดาห์นี้ (14 ถึง 18 มี.ค.) จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,635-1,680 จุด (แนวรับ 1,645-1,635 จุด / แนวต้าน 1,670-1,680 จุด) SET สัปดาห์ที่ผ่านมา ปิดที่ระดับ 1,658.01 จุด ลดลง 13.7 จุด (-0.82%) มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 114,292 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.6%Wow เราคาดว่า SET สัปดาห์นี้จะยังคงผันผวน จากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ ยูเครน-รัสเซีย โดยเฉพาะก่อนการประชุมเฟด (15-16 มี.ค.) กลยุทธ์การลงทุน เราแนะนําเก็งกําไร หุ้นใน กลุ่ม Commodity ทั้งกลุ่ม Upstream ได้แก่ PTTEP และ BANPU กลุ่มโรงกลั่น BCP และ TOP กลุ่ม เดินเรือ ได้แก่ PSL ITA และ RCL สําหรับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงจากความผันผวนได้สูง ขณะที่กลุ่มนักลงทุนที่รับความเสียงได้ตํา เราเลือกหุ้นในกลุ่ม Defensive ที่ส่วนมากจะเป็น Domestic Play ได้แก่ BH BDMS INTUCH ADVANC BEM HMPR0CPALL และ MAKRO Trading Ideaระ ราคาผลิตภัณฑ์ยางพาราปรับเพิ่ม เป็นบวกกับ STA HFT NER และ TRUBB - ราคา ผลิตภัณฑ์ยางพาราปรับเพิ่ม โดยยังคงทําสถิติ Ney high ต่อเนื่อง โดยนํายางดิบ อยู่ที่ 73 บาทต่อกิโลกรัม (สูงสุดในรอบ 9 ปี) ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 อยู่ที่ 67.70 บาทต่อกิโลกรัม ยางก้อนถ้วย อยู่ที่ 51.50 บาท ต้อกิโลกรัม สูงกว่าราคาประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง เฟส 3 โครงการประกันรายได้ที่มีการกําหนด จะสิ้นสุดในเดือน มี.ค. 2565) ขณะที่ราคายางแผ่นดิบ เคลือนอยู่ในกรอบ 61-63 บาทต่อกิโลกรัม แต่ถือว่า เป็นระดับราคาที่สูงกว่า ราคาประกันรายได้ที่กําหนดไว้ที่ 60 บาทต่อกิโลกรัม การปรับขึ้นของราคา ผลิตภัณฑ์ยาง เป็นไปตามทิศทางราคา Commodity, โดยเฉพาะราคาน้ํามันดิบในตลาดโลกที่ปรับเพิ่ม โดย ก่อนหน้านี้สัญญาน้ํามันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย. ขึ้นไปทําจุดสูงสุดที่ 133.46 เหรียญต่อบาร์เรล (4 มี.ค.) ขณะที่ปี 2565 สัญญาน้ํามันดิบ WTI ปรับเพิ่ม 44.2%YTD ประเด็นดังกล่าว เรามองเป็นบวกต่อ STA HFT NER และ TRUBB ประเด็นที่น่าติดตาม การประชุมเฟด และสถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย - ปัจจัยสําคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ (1) สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน (2) สถานการณ์โควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ (3) การ ประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ระหว่างวันที่ 15-16 มี.ค. (4) การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และธนาคารญี่ปุ่น (BO) วันที่ 18 มี.ค. (5) ดัชนีราคาผู้บริโภค เดือน ก.พ. ของยุโซน (17 มี.ค.) และ ของญี่ปุ่น (18 มี.ค.) และ (6) รายงานตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจจีนเดือน ก.พ. ระหว่างวันที่ 15 มี.ค. ได้แก่ การลงทุนในสินทรัพย์คงที่ของจีน (Fixed Asset Investment) (คาด ขยายตัว 3,9%YoY) ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน (คาดเพิ่มขึ้น 3.9%YoY) ดัชนียอดขายปลีกของ จีน (คาดเพิ่มขึ้น 39%YoY) และอัตราการว่างงานของจีน)
คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย 25bps คงมุมมองเดิมสินปี 65 ดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ จะอยู่ที่ 1.75% - เราคาดว่า การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ที่มีกําหนดประชุมระหว่าง วันที่ 15-16 มี.ค. เราคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จากเดิม 0.00%-0.25% เป็น 0.25%0.50% หลังถ้อยแถลงเฟดที่มีต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจําสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา สหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 2-3 มี.ค. ที่ผ่านมา ลดความ Hawkish ลง ซึ่งเรามองว่าส่วนหนึ่งเป็นผลจากความไม่ แน่นอนของสถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย กดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงสหรัฐฯ ซึ่งเรามองว่าหาก สถานการณ์ยืดเยื่อ มีโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าที่ตลาดคาดหมายไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ ตามแนวโน้มเงินเฟ้อที่ปรับเพิ่มในอัตราเร่ง และมีโอกาสที่ CPI สหรัฐฯ เดือน มี.ค. จะปรับเพิ่มทั้ง MQM และ YoY จากเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 0.8%MoM และเพิ่มขึ้น 7.99%YoY ทําให้เรายังเชื่อว่าเฟดจะเร่งขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยในช่วง 2H65 โดยคาดว่าเฟดจะปรับเพิ่มดอกเบี้ยนโยบายเป็น 1% ภายในการประชุม เดือน มิ.ย. (14-15 มิ.ย.) และเพิ่มเป็น 1.75% ภายในการประชุมเดือน ธ.ค. (13-14 ธ.ค.) ขณะที่การทํา Quantitative Tightening (QT) เราคาดว่าเฟดจะเริ่มส่งสัญญาณในการประชุมเดือน มิ.ย. การดําเนินการปรับลดในช่วง 2H65 เศรษฐกิจทั่วโลกยังผันผวน จากสถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย - ภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยธนาคารกลางรัสเซีย เปิดเผยผลสํารวจนักเศรษฐศาสตร์ คาดเงินเฟ้อในรัสเซียมีแนวโน้มจะปรับเพิ่มขึ้นสู่ ระดับ 20% และเศรษฐกิจรัสเซียมีความเสี่ยงที่จะหดตัวมากถึง 8% ในปี 2565 จากสงครามระหว่างยูเครน รัสเซีย ด้านเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ปรับเพิ่มในอัตราเร่ง ทําให้โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์ GDP สหรัฐฯ ปี 2565 ลงสู่ระดับ 2.9% (เดิม 3.1%) อย่างไรก็ตาม ทางการจีน ยังเชื่อว่า GDP จีน ในปี 2565 จะขยายตัว 5.5% ตามเป้าหมายของรัฐบาล บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันนี้ - Company Update: BCH Company Update: BCH (ชื่อ., ราคาเป้าหมาย 25,บาท) คาดผลประกอบการ 1Q65 เติบโต YoY - คาดผล ประกอบการ 1Q65 เติบโต YoY จากจํานวนผู้ติดเชื้อสูงขึ้น แผนประกาศให้ COVID-19 เป็นโรคประจําถิ่น ทําให้ผู้ป่วยเงินสดเพิ่มขึ้น กําไรสุทธิ 4Q64 เติบโต 791%YoY แต่ลดลง 14%QoQ ประกาศจ่ายปันผล 2H64 ในอัตรา 1 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD 10 พ.ค. แนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 25.00 บาท รายงานตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญ - สํานักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) รายงานผลิตภัณฑ์มวลรวม ภายในประเทศ (GDP) เดือน ม.ค. ขยายตัว 0.86MoM (คาดขยายตัว 0.29%MoM) หลังเดือน ธ.ค. ปรับ ลดลง 0.2%MoM มุมมองทางเทคนิค - เราคาดว่า SET วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,645-1,670 จุด / หุ้นแนะนําปัจจัยทาง
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities