Investment Ideas:
ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET สัปดาห์นี้ (7 - 11 มี.ค.) จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,660-1,705 จุด ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมาผันผวน ปิดตลาดที่ 1,671.72 จุด ลดลง 8.18 จุด (-0.49%) ด้วยมูลค่า การซื้อขายเฉลี่ย 98,867 ล้านบาท ลดลง 1.14%WoW เราคาดว่า SET สัปดาห์นี้จะยังคงผันผวนตาม สถานการณ์ความไม่แน่นอนระหว่างยูเครนกับรัสเซีย โดยจะมีการเจรจารอบ 3 วันที่ 7 มี.ค. โดยตลาดให้ น้ําหนักมากกว่าการรายงานตัวเลข PPI ของจีน และ CPI ของสหรัฐฯ ซึ่งไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการ คาดหมายผลการประชุม FOMC ระหว่างวันที่ 15-16 มี.ค. (คาดปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25%) ติดตามการถอนหุ้นรัสเซียออกจากดัชนี MSCI Emerging Market (ราคาปิด 9 มี.ค.) เรามองเป็นบวก เล็กน้อยต่อตลาดหุ้นในภูมิภาค เรายังเน้นหุ้นในกลุ่มกลยุทธ์การลงทุนหลักที่เราแนะนํามาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ กลุ่มโรงพยาบาล เลือก BDMS และ BH กลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและการขนส่งในประเทศ เลือก AOT (BK:AOT) MINT ERW SHR และ BEM หุ้นในกลุ่มสือ เลือก PLANB และ BEC รวมไปถึงหุ้นในกลุ่มที่
เกี่ยวกับอุปโภคบริโภค เลือก OSP CBG CRC CPALL (BK:CPALL) BJC และ CPN • Trading Ideas: กระทรวงพาณิชย์รายงานเงินเฟ้อเดือน ก.พ. ของไทย ปรับเพิ่ม เลือก NO RSP BANPU และ PTTEP เป็นหุ้นเด่น - สํานักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ รายงานดัชนี ราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือน ก.พ. 65 เพิ่มขึ้น 1.066MoM และเพิ่มขึ้น 5.289%YoY เป็นอัตราสูงสุด ในรอบ 13 ปี นับจากปี 2552 ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน (ไม่รวมอาหารสดและพลังงาน) เพิ่มขึ้น 0.52% MoM และเพิ่มขึ้น 1.80%YoY โดยสาเหตุหลักเกิดจากสินค้าในกลุ่มพลังงานที่ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม ต่อเงินเฟ้อ เราประเมินว่า แนวโน้มเงินเฟ้อเดือน มี.ค. 65 ยังมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นทั้ง MoM และ YoY ต่อเนื่องจากราคาเชื้อเพลิงที่ปรับเพิ่ม (น้ํามันเชื้อเพลิงและค่ากระแสไฟฟ้า) และ Low base effect เมื่อ เทียบ YoY ส่งผลโดยตรงต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศ ปรับเพิ่มขึ้นทั้งสินค้าในกลุ่มอาหาร สําเร็จรูปและเครื่องประกอบอาหาร แม้เรามองว่าอัตราเงินเฟ้อที่ปรับเพิ่มในอัตราเร่ง จะเป็นปัจจัยเสียงระยะ สัน โดยเฉพาะในช่วง 6M65 แต่มีความเป็นไปได้ที่เพิ่มขึ้นว่าประมาณการอัตราเงินเฟ้อในปี 2565 มีโอกาส ปรับเพิ่ม โดยประมาณการเดิม กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์เงินเฟ้ออยู่ในกรอบ 0.7-2.4% และมีค่ากลางที่ 1.5% หุ้นในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อในประเทศที่เร่งตัวขึ้น ได้แก่ (1) หุ้นในกลุ่มธนาคาร จากยอด สินเชื่อที่เพิ่มขึ้น รายได้ดอกเบี้ยและรายได้ค่าธรรเนียมปรับเพิ่ม ได้แก่ KBANK (BK:KBANK) BBL และ TTB (2) หุ้นในกลุ่ม ประกัน จากกําไรจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ตามทิศทางผลตอบแทนพันธบัตรและหุ้นกู้ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ BLA และ TIPH (3) หุ้นในกลุ่ม Cyclical Stock ที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ ได้แก่ น้ํามัน ก๊าซฯ และถ่านหิน ได้แก่ BANPU และ PTTEP และ (4) หุ้นที่ประกอบธุรกิจนําเข้าสินค้ามาขายในประเทศ จากทิศทางของค่าเงินบาท ที่แข็งค่าขึ้น ได้แก่ TVO และ RSP
สถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย ยังเป็นปัจจัยที่ทําให้ตลาดผันผวน - ประเด็นที่น่าติดตามสัปดาห์นี้อยู่ที่ (1) สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศ ที่เริ่มมีจํานวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น (รวม RT-PCR และ ATK) (2) สถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย ที่ยังมีความไม่แน่นอน โดยทั้ง 2 ฝ่ายจะมีการเจรจาข้อตกลงสันติภาพ รอบที่ 3 ในวันจันทร์ (7 มี.ค.) เลื่อนมาจากวันที่ 5 มี.ค. โดยก่อนหน้านี้มีการเจรจาไปแล้ว 2 รอบ (28 ก.พ. และ 3 มี.ค.) โดยท่าที่ล่าสุด ฝ่ายรัสเซียเปิดกว้างสําหรับการเจรจากับยูเครน (3) การรายงาน GDP ในช่วง 4Q64 ของยูโรโซน วันที่ 8 มี.ค. (คาดเพิ่มขึ้น 0.3% QoQ และเพิ่มขึ้น 4.6%YoY) รวมทั้งของญี่ปุ่น วันที่ 9 มี.ค. (คาดเพิ่มขึ้น 1.4%QoQ และเพิ่มขึ้น 5.6%YoY) (4) รายงาน CPI และ PPI เดือน ก.พ. ของจีน วันที่ 9 มี.ค. (คาด CPI เดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 0.39%MoM และเพิ่มขึ้น 0.8%YoY / คาด PPI เดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 8.7%YoY) (5) รายงาน Headline CPI และ Core CPI สหรัฐฯ เดือน ก.พ. (คาดู Headline CPI เดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 0.89%MoM และเพิ่มขึ้น 7.99%YoY / คาด Core CPI เดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 0.56MoM และเพิ่มขึ้น 5.9%YoY) และ (6) การประชุม ECB วันที่ 10 มี.ค. รายงานตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญ - กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานตัวเลขที่เกี่ยวกับตลาดแรงงาน สหรัฐฯ ที่สําคัญ ได้แก่ (1) การจ้างงานนอกภาคเกษตร เพิ่มขึ้น 678,000 ตําแหน่ง ในเดือน ก.พ. สูงกว่าที่ Market Consensus คาดที่ระดับ 440,000 ตําแหน่ง (2) อัตราการว่างงาน ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.8% เป็น ระดับต่ําสุดนับตั้งแต่ ก.พ. 2563 ต่ํากว่าที่ Market Consensus คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 3.9% (3) ค่าจ้างราย ชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.039% MoM และเพิ่มขึ้น 5.1%YoY (คาดเพิ่มขึ้น 0.5% MoM และ เพิ่มขึ้น 5.7%YoY) โดยการรายงานค่าจ้างรายชั่วโมงนับเป็นหนึ่งในข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ให้ ความสําคัญ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ และ (4) อัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งแสดงสัดส่วนของกําลังแรงงานต่อจํานวนประชากรทั้งหมด อยู่ที่ระดับ 62.3% •
มุมมองทางเทคนิค – เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,660-1,685 จุด / หุ้นแนะนําปัจจัยทางเทคนิค เราเลือก SPALI GLOBAL และ DOHOME
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities