หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว น่าสนใจ

Investment Ideas:

ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,680-1,705 จุด เราคาดว่า SET มี โอกาสผันผวน หลังตอบรับความ Hawkish ที่ลดลงของเฟด รวมไปถึงประเด็นราคาเชื้อเพลิงหลักใน ตลาดโลกที่ปรับลดลง ทําให้เราคาดว่าจะเกิดแรงขายหุ้นในกลุ่ม Commodity กดดัน SET ในวันนี้ ซึ่งที่ ผ่านมาเป็นปัจจัยผลักดัน SET ทรงตัวในระดับสูง เรายังเน้นหุ้นในกลุ่มกลยุทธ์การลงทุนหลักที่เราแนะนํา มาอย่างต่อเนื่อง เรายังเน้นหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล เลือก BDMS และ BH กลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว และการขนส่งในประเทศ เลือก AOT (BK:AOT) MINT ERW SHR และ BEM รวมไปถึงหุ้นในกลุ่มสื่อ เลือก PLANB และ BEC ซึ่งหุ้นในกลุ่มที่เราแนะนํายังมีปัจจัยบวกจากประเด็นที่จีนเริ่มพิจารณาแนวทางยกเลิกนโยบาย Zero Covid เรามองเป็นบวกกับการท่องเที่ยวของไทย Trading Ideas: จีนเริ่มพิจารณาแนวทางยกเลิกนโยบาย Zero Covid เป็นบวกกับการท่องเที่ยวของไทย เลือก AOT BAFS MINT และ SHR เป็นหุ้นเด่น - ราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมา ถูกกดดันจากปัจจัยลบที่จํากัดการ ฟื้นตัวของธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ทั้งจากมาตรการจํากัดการเดินทางทางการบินระหว่างประเทศ เพื่อ ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมไปถึงท่าทีของทางการจีน ที่ยังคงยืนยันการดําเนินนโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” (Zero Covid) สัญญาณเชิงบวกจากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายลงต่อเนื่อง รวมไปถึง การปรับท่าทีของจีน ที่เริ่มพิจารณาแนวทางยกเลิกนโยบาย Zero Covid เรามองเป็นบวกต่อภาพรวมการ ท่องเที่ยวของไทย เนื่องจากจํานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 นักท่องเที่ยว จีนเดินทางมาท่องเที่ยวไทยจํานวน 11 ล้านคน จากยอดต่างชาติที่เดินทางมาไทยรวม 39.8 ล้านคน ในปี 2562 เรามองเป็นบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ได้แก่ หุ้นที่เกี่ยวกับการบิน ได้แก่ AOT AAV BAFS และ BA หุ้นในกลุ่มโรงแรม ERW CENTEL MINT SHR และ VRANDA รวมไปถึงหุ้นที่ได้ประโยชน์ทางอ้อม ได้แก่ หุ้นในกลุ่มสถานีบริการน้ํามัน ได้แก่ OR PTG SUSCO และ BCP หุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล ได้แก่ BH และ BDMS หุ้นในกลุ่มบันเทิง ได้แก่ PLANB และ BEC หุ้นในกลุ่มอสังหาริมรัพย์ ได้แก่ SPALI ORI และ NOBLE หุ้นในกลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม และค้าปลีก ได้แก่ OSP CBG M SORKON CRC CPALL (BK:CPALL) BJC และ CPN

• สัปดาห์หน้าติดตามการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน หากได้ข้อสรุป จะมีอุปทานเพิ่ม 1.4 MBD ภายใน 2 เดือน - นายอาลี ชามคานี้ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่าน มีกําหนดหารือกับ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสํานักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) เสาร์นี้ (5 มี.ค.) ซึ่งที่ผ่านมาการเจรจามีความ คืบหน้าเป็นอย่างมาก โดยอิหร่านเชื่อมั่นว่าจะสามารถผลิตน้ํามันเต็มศักยภาพได้โดยใช้เวลาไม่ถึง 2 เดือน หลังจากที่มีการบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับชาติตะวันตก อิหร่านเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการผลิต ปิโตรเลียมสูง โดยมีปริมาณน้ํามันดิบสํารองมากเป็นอันดับ 4 ของโลก แต่ที่ผ่านมาการผลิตน้ํามันของอิหร่าน ลดลงอย่างมาก ตั้งแต่ที่ถูกสหรัฐฯ คว่ําบาตรในปี 2561 หลังจากที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศ ถอนตัวจากการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ในปี 2558 โดยในปี 2564 อิหร่านผลิตน้ํามันเฉลี่ย 2.4 ล้านบาร์เรล ต่อวัน และคาดว่าจะผลิตได้ 3.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน หากมีการยกเลิกมาตรการคว่ําบาตร ทําให้จะมีอุปทาน น้ํามันดิบเพิ่ม 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ภายใน 2 เดือน หากมีการบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับชาติตะวันตก บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันนี้ - Company Update: CRC Company Update: CRC (เก็งกําไร, ราคาเป้าหมาย 42 บาท) - แนวโน้ม 1Q65 ฟื้นตัวแข็งแกร่ง แนวโน้ม กําไรสุทธิ 1Q65 แข็งแกร่ง หลัง SSSG 1Q65QTD เติบโตต่อเนื่องจาก 4Q64 เติบโตทุกประเทศและทุกธุรกิจ เริ่มพัฒนาธุรกิจใหม่ Health and Wellness กําไรสุทธิ 4Q64 ที่ 2,371 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนใน 3Q64 ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.30 บาทต่อหุ้น XD 5 พ.ค. จ่าย 27 พ.ค. แนะนํา “เก็งกําไร” ให้ราคาเป้าหมาย 42.00 บาท รายงานตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญ - กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงาน ครั้งแรกลดลง 18,000 ตําแหน่ง สู่ระดับ 215,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นระดับต่ําสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2565 และต่ํากว่าที่ Market Consensus คาดไว้ที่ 225,000 ราย รายงานตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงาน ดังกล่าวเท่ากับตัวเลขเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ ขณะที่ จํานวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.48 ล้านราย ทําให้ค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจํานวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลงสู่ระดับ 1.54 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับ ต่ําสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 2513 • มุมมองทางเทคนิค – หุ้นแนะนําปัจจัยทางเทคนิค เราเลือก TIDLOR AMANAH และ BCH

บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities