แรงหนุนทองคำขาขึ้นจะกลับมาอีกครั้งได้หรือไม่หลังจากถูกสลายม็อบเพราะการประชุมเฟด

ถือเป็นสัปดาห์การลงทุนทองคำที่เรียกว่าหนังคนละม้วนเลยก็ว่าได้ การต่อสู้ระหว่างขาขึ้นและลง ณ สมรภูมิ $1,800 เรียกได้ว่าพลิกกันไปมาอย่างตื่นเต้นเร้าใจ เมื่อวันจันทร์-อังคาร เรายังเห็นทองคำพยายามอย่างสุดชีวิตที่จะขึ้นยืนเหนือ $1,850 ให้ได้ แต่เมื่อตลาดทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อวันพุธ ท่าทีของนักลงทุนก็เปลี่ยนไป กลายเป็นส่งราคาทองคำกลับลงมาที่เดิมเพราะกลัวการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ 

ในขณะที่ผมกำลังเขียนบทความนี้อยู่ ราคาซื้อขายสัญญาทองคำล่วงหน้าบนตลาด COMEX กำลังพยายามหาหนทางกลับขึ้นยืนเหนือ $1,800 อีกครั้งให้ได้ ขาลงจากวันพุธลงมาจนถึงเมื่อวานนี้ คิดเป็นมูลค่าของทองคำที่หายไป 3% หรือคิดเป็น $60

ที่มา: skcharting.com

ขาลงที่เกิดขึ้นเหมือนเป็นการทำลายความพยายามของฝั่งขาขึ้น ที่พยายามประคับประคองแรงขาขึ้นระลอกนี้มาตลอดสองสัปดาห์ ครั้งหนึ่ง ขาขึ้นครั้งนี้เคยถูกวางให้เป็นความหวังที่จะได้กลับเป็นเห็น $1,900 หรือในระยะยาวอาจพัฒนายืดระยะไปไกลที่ $2,000 แต่ความฝันนั้นก็ต้องจบลง เพียงเพราะคำพูดของคนๆ เดียว ที่ใช้เวลาเพียง 55 นาที

การรักษาทรงของเทรนด์ให้วิ่งอยู่เหนือ $1,800 นั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพราะก็เป็นสิ่งที่ฝั่งขาขึ้นทำมาได้โดยตลอด แต่ความยากก็คือหลังจากทราบผลการประชุมเฟดไปแล้ว จะหาเหตุผลหรือแรงสนับสนุนที่ไหนมาหนุนราคาทองคำให้สามารถขึ้นไปอยู่ในโซนราคา $1,830 - $1,850 ได้อีกครั้ง เพราะทุกอย่างชัดเจนแล้วว่าไม่เกินเดือนมีนาคม ดอลลาร์จะได้เวลากลับมามีมูลค่าอีกครั้ง

Phillip Streible นักวิเคราะห์สินทรัพย์โลหะมีค่าจากบริษัท Blueline Futures ในชิคาโกวิเคราะห์สถานการณ์ของราคาทองคำว่า

“เป็นเวลานานร่วมเดือนแล้วที่ราคาทองคำติดอยู่ในกรอบราคาระหว่างแนวต้าน $1,835 และแนวรับ $1,785 ถือเป็นเรื่องน่าเสียที่ทองคำไม่สามารถยืนเหนือ $1,850 ได้ในสัปดาห์นี้ เพราะหากทำได้ เราคงจะได้เห็นขาขึ้นของทองคำฟื้นคืนชีพอีกครั้ง แต่ถ้อยแถลงของเฟดก็ได้ทำลายความฝันนั้นไปแล้วเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าราคาทองคำจะสามารถกลับขึ้นมายืนเหนือ $1,800 ได้อย่างมั่นคงอีกครั้ง”

แม้ว่านักวิเคราะห์หลายคนจะผิดหวังกับถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่สุดท้ายแล้วผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากเดิม ทั้งๆ ที่เงินเฟ้ออเมริกาเติบโตสูงที่สุดในรอบ 40 ปี และควรใช้ทุกวินาทีในปี 2022 เพื่อแก้ไขปัญหานี้โดยเร็วที่สุด แต่สิ่งหนึ่งที่ได้จากการประชุมครั้งนี้คือความหวังที่จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม อย่างที่หลายๆ ฝ่ายหวังไว้มีโอกาสจะเกิดขึ้นสูงมาก และการขึ้นดอกเบี้ยไม่เคยเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับทองคำมาแต่ไหนแต่ไร

นับตั้งแต่การลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับโควิดของธนาคารกลางสหรัฐฯ เราอยู่ภายใต้ดอกเบี้ยนโยบาย 0-0.25% มาทั้งสิ้นเกิน 20 เดือนเข้าไปแล้ว แต่ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ทองคำก็ไม่สามารถพิสูจน์ความเป็นสินทรัพย์สำรองในยามเงินเฟ้อมากเท่าไหร่นัก นอกจากการขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลเหนือ $2,000 ในเดือนสิงหาคมปี 2020 หลังจากนั้น ทองคำก็ปรับตัวลดลง และอยู่อย่างเงียบๆ มาโดยตลอด 

นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าสาเหตุที่ทองคำไม่สามารถปรับขึ้นได้ทั้งๆ ที่มีเงินเฟ้อเกิดขึ้นทั่วโลกเป็นเพราะการที่นักลงทุนกระจายไปลงทุนกับสินทรัพย์สำรองประเภทอื่น และความคาดหวังที่มีต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่เป็นธีมการลงทุนมาตลอดทั้งปี 2021 ก็เป็นสาเหตุที่ยังคงทำให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าและทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวขึ้น ความจริงนี้เกือบจะเปลี่ยนไปแล้ว ในวันที่ทองคำสามารถยืนเหนือ $1,835 ได้ และทรงตัวอยู่ ณ บริเวณนั้นได้นานพอสมควร

Sunil Kumar Dixit นักวิเคราะห์จาก skcharting.com วิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิคของราคาทองคำในตอนนี้เอาไว้ว่า

“การที่ราคาทองคำเคยวิ่งขึ้นไปยืนเหนือ $1,850 ได้พักหนึ่งเหมือนเป็นหลุมพรางที่ฝั่งขาลงขุดเอาไว้ และก็สามารถทำได้สำเร็จ ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าจะมีการประชุมเฟดในวันพุธ แต่ก็ยังมีคนคิดว่าจะสามารถพาทองคำไปไกลกว่าที่เคยอยู่ได้ สุดท้ายก็ต้องมานั่งนับหนึ่งกันใหม่ที่ $1,791 อีกครั้ง”

“จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค” เขากล่าวต่อ “ด้วยอินดิเคเตอร์ SRSI ในกราฟรายสัปดาห์ของผมพบว่าเส้นค่าเฉลี่ยทั้งสองเส้นตัดกันทีระดับต่ำกว่า 70 และมีค่าอยู่ที่ 60/69 นี่คือสัญญาณสนับสนุนว่าขาลงได้กลับเข้ามาคุมเกมอีกครั้ง เมื่อใช้ Fibonnacci วัดจากจุดสูดสุดที่ $1,916 ลงมาถึงจุดต่ำสุด $1,678 ทำให้ผมได้ข้อมูลมาว่า ถ้าทองคำสามารถสร้างจุดปิดต่ำกว่า $1,797 มีโอกาสที่ขาลงรอบนี้จะยืดระยะต่อไปยัง $1,785 $1,770 และ $1,753 สำหรับแนวต้าน ตอนนี้ผมมองเอาไว้ที่ $1,818 $1,825 และ $1,835”

แน่นอนว่าไม่ใช่นักลงทุนทุกคนที่มองว่าทองคำตอนนี้จะกลายเป็นขาลงเพียงอย่างเดียว ยังมีคนเชื่อว่าปัญหาเงินเฟ้อเป็นสิ่งที่ไม่สามารถจัดการได้โดยง่าย และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ก็ยังพร้อมที่จะสนับสนุนให้สินทรัพย์สำรองสามารถปรับตัวขึ้นได้ทุกเมื่อ Ed Moya นักวิเคราะห์จาก OANDA ให้วิเคราะห์ตลาดทองคำว่า

“ต้องยอมรับว่าการลงมาทดสอบแนวรับ $1,800 บ่อยครั้งทำให้แนวรับหลักบริเวณนี้อ่อนแอลงไปมาก และมีโอกาสที่ฝั่งขาขึ้นจะถอยไปรวมพลสร้างแนวรับใหม่ที่ $1,760 ผมยังเชื่อมั่นว่าปีนี้เรายังสามารถใช้ธีมการลงทุนแบบหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยงได้อยู่ และความคิดเช่นนั้นก็ยังจะสนับสนุนทองคำต่อไป แต่ก็ต้องรอให้ขาลงรอบนี้หมดกำลังเสียก่อน”